xs
xsm
sm
md
lg

โควิด-19 ทุบ ศก.โลกหนักกว่าที่คิด IMF ปรับลดคาดการณ์หดตัว 4.9% ในปีนี้ 2 ปีพินาศ $12 ล้านล้าน!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเอฟพี - โรคระบาดใหญ่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) โหมกระพือวิกฤตเศรษฐกิจอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ส่งผลให้จีดีพี (ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ) โลกหดตัว 4.9% ในปีนี้และจะสร้างความเสียหายให้แก่เศรษฐกิจโลกอย่างสาหัสกว่า 12 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (371 ล้านล้านบาท)ในช่วง 2 ปี จากการประมาณการของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ในวันพุธ (24 มิ.ย.)

มาตรการชัตดาวน์ธุรกิจทั่วโลกทำลายตำแหน่งงานหลายร้อยล้านอัตรา และเศรษฐกิจหลักๆ ในยุโรปต้องเผชิญกับภาวะพังครืนติดลบในระดับเลข 2 หลัก ขณะที่แนวโน้มของการฟื้นตัวหลังจากโรคระบาดใหญ่จะมีความไม่แน่นอนอย่างสูง อันเนื่องจากวีถีการแพร่ระบาดของไวรัสยังไม่อาจคาดเดาได้ ไอเอ็มเอฟระบุในรายงานประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจ (World Economic Outlook) ฉบับปรับปรุง

รายงานระบุว่า “โรคระบาดใหญ่โควิด-19 ส่งผลกระทบในทาวลบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2020 มากกว่าที่คาด และคาดหมายว่าการฟื้นตัวจะเป็นไปในลักษณะค่อยเป็นค่อยไปมากกว่าที่ประมาณการก่อนหน้านี้”

ในขณะที่ภาคธุรกิจต่างๆ กลับมาเปิดทำการในหลายประเทศ และจีนพบเห็นการฟื้นตัวด้านกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากกว่าที่คาดหมายไว้ แต่การแพร่ระบาดของไวรัสระลอกสองยังคงคุกคามแนวโน้มการเติบโต รายงานระบุ

ไอเอ็มเอฟเตือนว่า พวกเขาคาดหมายว่าจีดีพีโลก จะฟื้นตัวเพียง 5.4% ในปี 2021 แถมตัวเลขดังกล่าวต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น

ดร.กิตา โกพินาถ (Gita Gopinath) หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของไอเอ็มเอฟ บอกว่า ภายใต้การประมาณการณ์ในปัจจุบัน วิกฤตจะทำลายเศรษฐกิจโลก 12 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 2 ปี และเตือนว่า “เรายังไม่หลุดพ้นจากช่วงเวลาที่ยากลำบาก” เขากล่าว “นโยบายทางการคลังและการเงินมากมายที่พร้อมใจกันออกมาเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ จำเป็นต้องเดินทางต่อไป”

ภาวะดำดิ่งของเศรษฐกิจโลกก่อความเสียหายเลวร้ายโดยเฉพาะกับประเทศต่างๆ ที่มีรายได้ต่ำและภาคครัวเรือน และทำให้ความคืบหน้าในความพยายามลดความขัดสนอย่างรุนแรงตกอยู่ในความเสี่ยง รายงานของไอเอ็มเอฟระบุ

รายงานประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจฉบับปรับปรุง ถือเป็นการปรับลดตัวเลขลงอย่างมากจากเมื่อครั้งประมาณการณ์หนก่อนในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงต้นๆ ของโรคระบาดใหญ่ โดยตอนนั้นไอเอ็มเอฟเตือนว่าเศรษฐกิจโลกจะหดตัว 3% พร้อมแสดงความกังวลว่าโควิด-19 จะทิ้งไว้ซึ่งบาดแผลเรื้อรังในด้านการจ้างงาน, ธุรกิจและการค้า

สิ่งที่อยู่นอกเหนือการประมาณการก็คือร่างกฎหมายสำหรับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งมโหฬารของรัฐบาลต่างๆ ซึงกระพืออัตราดอกเบี้ยระดับต่ำมาก และมีความเป็นไปได้ที่จะช่วยป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจถลำจากภาวะถดถอย (recession) เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (depression) แม้ว่ามันจะเพิ่มหนี้ครั้งมหาศาลอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

แต่ถึงกระนั้น ระดับความเสียหายก็ยังน่าตกตะลึงอยู่ดี และมีความเสียหายที่กว้างขวางมากกว่าภาวะถดถอยตัวไหนๆในรอบหลายทศวรรษ ทั้งนี้ ภาวะถดถอยในชาติเศรษฐกิจหลักหลายๆแห่งจะรุนแรงกว่าครั้งพวกเขาเผชิญเมื่อครั้งเกิดวิกฤตการเงินโลกปี 2009 เป็นเท่าตัว

ในตัวเลขทางเศรษฐกิจต่างๆ นานาอันยาวเหยียดจากการติดตามของไอเอ็มเอฟ มีข้อมูลที่เป็นบวกเพียงอย่างเดียว นั่นคือเศรษฐกิจจีนจะสามารถขยายตัวได้ 1% ในปีนี้

จากการประมาณการณ์ของไอเอ็มเอฟ เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะหดตัว 8% ส่วนเยอรมนีจะหดตัวน้อยกว่า ขณะที่ฝรั่งเศส, อิตาลี, สเปน และสหราชอาณาจักร จะเผชิญกับภาวะหดตัวในระดับเลข 2 หลัก แต่ญี่ปุ่นจะดีกว่าเล็กน้อย โดยจะหดตัวเพียง 5.8%

นอกจากนี้แล้ว ทางไอเอ็มเอฟยังได้อ้างข้อมูลจากองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ซึ่งประมาณการว่าโลกได้สูญเสียงาน 300 ล้านตำหน่งในช่วงไตรมาส 2


กำลังโหลดความคิดเห็น