รอยเตอร์ – ปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาด้านการค้าของทำเนียบขาว ออกมาชี้แจงวานนี้ (22 มิ.ย.) ว่าข้อตกลงการค้ากับจีนยังคง “เดินหน้าต่อ” หลังจากที่ตัวเขาเองให้สัมภาษณ์สื่อก่อนหน้าว่าข้อตกลงถูก “ยกเลิก” เนื่องจากสหรัฐฯ ไม่พอใจที่จีนเป็นต้นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในอเมริกา
นาวาร์โร ชี้ว่าคำพูดของเขาถูก “นำไปอ้างโดยไม่ดูบริบท” ขณะที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ก็ยืนยันผ่านทวิตเตอร์ว่า ข้อตกลงการค้ากับจีนยังคง “สมบูรณ์ทุกประการ” และตน “หวังว่าจีนจะปฏิบัติตามเงื่อนไขของข้อตกลง”
ก่อนหน้านั้น นาวาร์โร ให้สัมภาษณ์กับฟ็อกซ์นิวส์ว่า ข้อตกลงถูกยกเลิกไปแล้ว โดย “จุดเปลี่ยน” สำคัญก็คือการที่สหรัฐฯ ได้รับรู้เรื่องการระบาดของโควิด-19 หลังจากคณะผู้แทนจีนซึ่งเดินทางมาลงนามข้อตกลงการค้าเฟส 1 เมื่อวันที่ 15 ม.ค. ได้กลับออกจากวอชิงตันไปแล้ว
“พวกเขาส่งคนหลายแสนเข้ามายังประเทศของเราเพื่อแพร่ไวรัส และเราได้รับรู้เรื่องโรคระบาดหลังจากที่เครื่องบินลำนั้นทะยานขึ้นฟ้าออกไปแค่ไม่กี่นาที” นาวาร์โร กล่าว
อย่างไรก็ดี นาวาร์โร ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่สายเหยี่ยวที่วิพากษ์วิจารณ์จีนมากที่สุดคนหนึ่งในคณะบริหารของทรัมป์ ได้แถลงชี้แจงในเวลาต่อมาว่า คำพูดของเขาถูกนำไปอ้างโดยไม่คำนึงถึงบริบท
“มันไม่เกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเฟส 1 ซึ่งยังคงดำเนินต่อไป ผมแค่บอกว่าเราขาดความเชื่อมั่นในพรรคคอมมิวนิสต์จีนหลังจากที่พวกเขาโกหกเรื่องต้นตอของไวรัส และทำให้โรคระบาดแพร่กระจายไปทั่วโลก”
สหรัฐฯ และจีนเปิดเจรจาการค้ากันมานานกว่า 2 ปี ซึ่งนำไปสู่คำสั่งรีดภาษีสินค้านำเข้าจีนมูลค่าราว 370,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สร้างความปั่นป่วนต่อตลาดการเงินและบั่นทอนการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ก่อนที่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะเข้ามาซ้ำเติมสถานการณ์จนเศรษฐกิจทั่วโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย (recession)
ความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีนเดินมาถึงจุดตกต่ำที่สุดในรอบหลายปี หลังจากโควิด-19 ซึ่งมีต้นกำเนิดในจีนเข้ามาแพร่ระบาดหนักในอเมริกาจนมีผู้ติดเชื้อกว่า 2 ล้านคน ขณะที่รัฐบาลทรัมป์ก็ออกมากล่าวหาซ้ำๆ ว่าจีนไม่แก้ไขสถานการณ์และเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส
ทรัมป์ ออกมาขู่ตัดสัมพันธ์กับจีนอีกครั้งเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (18) หรือเพียง 1 วันหลังจากที่ โรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) กล่าวต่อสภาคองเกรสว่าการตัดความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับจีนไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสม
ภายใต้ข้อตกลงการค้าเฟส 1 จีนรับปากว่าจะเพิ่มการนำเข้าสินค้าอเมริกันอีก 200,000 ล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 2 ปี ทว่าวิกฤตโรคระบาดที่เกิดขึ้นทำให้ยอดส่งออกสินค้าจากสหรัฐฯ ไปจีนลดลงในไตรมาสแรกของปีนี้ และกลายเป็นปัญหาท้าทายสำหรับ ทรัมป์ ซึ่งจะต้องเผชิญศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีในอีกไม่ถึง 5 เดือนข้างหน้า