xs
xsm
sm
md
lg

คอลัมน์นอกหน้าต่าง : ทำไม ‘คนหนุ่มสาวรักสนุก’ จึงกำลังทำให้ยอดติดเชื้อไวรัสในรัฐท่องเที่ยวอย่าง ‘ฟลอริดา’ พุ่งพรวด?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ผู้คนเดินกันที่ถนนโอเชียนไดรฟ์ บริเวณชายหาดไมอามี รัฐฟลอริดา เมื่อวันพุธ (24 มิ.ย.)  ผลจากการปลดล็อกดาวน์ทำให้ผู้คนจำนวนมากโดยเฉพาะคนหนุ่มสาวออกมาใช้ชีวิตสนุกสนาน หลังจากต้องอุดอู้มาเป็นแรมเดือน  แต่นั่นก็ทำให้อัตราการแพร่ระบาดของโรคติดต่อโควิด-19 ในรัฐท่องเที่ยวชื่อดังแห่งนี้พุ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
พวกเขากำลังคันหัวใจด้วยความกระสันอยากใช้ชีวิตสนุกสนานให้เต็มแมกฯ หลังต้องอุดอู้มาเป็นเดือนๆ เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์ และระอุด้วยอารมณ์ที่จะแช่งด่าเจ้าไวรัสโคโรนาตัวร้ายนั่น

ทว่า ในสภาพเช่นนี้เองคนหนุ่มสาวในรัฐฟลอริดาของอเมริกา ก็กำลังกลายเป็นผู้เติมเชื้อเพลิงให้แก่การระบาดขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็วและอันตรายยิ่งของโรคติดต่อโควิด-19


ด้วยความรู้สึกเหมือนกับตัวเองเป็นอมตะไม่มีวันตาย ผู้คนที่ต้องการความเพลิดเพลินสำราญอารมณ์เหล่านี้ ได้เริ่มรวมตัวกันตามบาร์, ไนต์คลับ และสถานที่อื่นๆ หลังจากรัฐที่มีสมญาเรียกขานกันว่า “ซันชายน์ สเตท” แห่งนี้ เริ่มเปิดเศรษฐกิจของตนขึ้นมาใหม่ในเดือนนี้ -- ถึงแม้ล่าสุดฟลอริดาเพิ่งกลับมาประกาศใช้มาตรการห้ามชีวิตกลางคืนที่หล่อเลี้ยงด้วยแอลกอฮอล์อีกรอบหนึ่งแล้ว

ลองเช็กอินสตาแกรมดู จะเจอนัดหมายจัดงานปาร์ตี้กันอยู่เรื่อยๆ อาจจะแถวชายหาดที่ไหนสักแห่ง, หรือที่ริมสระว่ายน้ำ, หรือบนเรือยอชต์ที่เช่ามาแถวๆ ฟลอริดาใต้ ซึ่งพวกสถานที่ให้บริการชีวิตยามค่ำคืนนอกเหนือจากภัตตาคารร้านอาหาร ยังคงต้องปิดกันอยู่

ไม่เพียงเท่านั้น มีรถบัสที่สามารถว่าจ้างมาจัดงานปาร์ตี้สาวโสด ซึ่งมักอุดมพรั่งพร้อมไปด้วยผู้คนมาดิ่มเบียร์, แดนซ์กันกับจังหวะดนตรีเรเกตอน –พร้อมๆ กับแพร่เชื้อไวรัสโคโรนาไปด้วย

อัตราการติดต่อโรคโควิด-19 ของมลรัฐทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯแห่งนี้ เคยอยู่ในระดับคงที่ เมื่อตอนที่ฟลอริดาเข้าร่วมกับส่วนอื่นๆ ของอเมริกาในการใช้มาตรการล็อกดาวน์ช่วงระหว่างเดือนมีนาคมจนถึงพฤษภาคม แต่แล้วมันก็ไต่ขึ้นมาในเดือนมิถุนายนภายหลังทางมลรัฐเคลื่อนไหวดำเนินการเพื่อเปิดประตูออกไปใหม่ และพวกนักท่องเที่ยวจากที่อื่นๆ ทั่วประเทศพากันเริ่มต้นหลั่งไหลเข้ามา

บริเวณถนนโอเชียน ไดร์ฟ ซึ่งเหมือนกับเป็นจุดศูนย์กลางอันครึกครื้นไปด้วยบรรยากาศของงานปาร์ตี้ในพื้นที่ชายหาดเมืองไมอามี นักเดินทางผู้มาเยือนจากรัฐมิสซูรี, เทกซัส, จอร์เจีย, และอื่นๆ พากันเตร็ดเตร่แถวริมทะเล

ช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน ไมค์ โอวิเวรา ผู้มาเยือนวัย 25 ปีจากรัฐนิวยอร์ก นั่งอยู่บนกำแพงแนวกั้นพื้นที่สำหรับเดินเล่นริมทะเล และคอยแอบจิบเหล้าว็อดก้ากับเพื่อนผู้ร่วมทางคนหนึ่ง ขณะสายตามองไปที่มนุษย์หนุ่มสาวใบหน้าใสสดที่เดินทอดน่องไหลผ่านไปผ่านมาไม่ขาดสาย

ลองฟังดูเถอะว่า โอริเอวรา ห่วงใยอะไรแค่ไหน ในเรื่องเกี่ยวกับการสวมหน้ากากและการเว้นระยะห่างทางสังคม: “ผมต้องการมีเพศสัมพันธ์น่ะ” เขาพูดตรงๆ ขณะอธิบายให้ฟังว่าทำไมเขาจึงเดินทางมาที่ไมอามี

โอลิเวราหัวเราะคิกคัก จากนั้นจึงขยายความ เขาเดินทางมาจากนิวยอร์ก ที่เคยเป็นศูนย์กลางการระบาดของโรคติดต่อโควิด-19 ในสหรัฐฯเมื่อไม่กี่เดือนก่อน และมีการบังคับใช้กฎระเบียบการเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเข้มงวด

“ผมจึงต้องการพักผ่อนสักหน่อยหนึ่ง เพี่อที่จากนั้นจะได้สามารถทำอะไรต่างๆได้ มาหาโอกาสพบปะเจอะเจอกับคนที่น่าสนใจ และเตร็ดเตร่ไปเรื่อยๆ” โอลิเวรา บอก

สาวๆ ในรถคันหนึ่งขณะขับผ่านหาดไมอามี รัฐฟลอริดา วันศุกร์ (26 มิ.ย.)

บรรยากาศงานปาร์ตี้สาวโสดงานหนึ่งซึ่งจัดขึ้นที่ถนนโอเชียนไดรฟ์ เมืองไมอามี วันศุกร์ (26 มิ.ย.)
ด้วยการที่ผู้คนจำนวนมากต่างมีทัศนคติทำนองเดียวกันนี้ ฟลอริดาจึงทำลายสถิติจำนวนเคสติดเชื้อรายใหม่แทบทุกวันในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา – โดยอยู่ในระดับมากกว่า 5,000 รายทั้งในวันพุธ (24 มิ.ย.) และวันพฤหัสบดี (25) ขณะที่อัตราการติดเชื้อทั้งที่นี่และที่อื่นๆ ในบริเวณอื่นๆ ทางภาคใต้และภาคตะวันตกของสหรัฐฯ ต่างทะยานขึ้นอย่างน่ากลัวเช่นเดียวกัน

เมื่อวันจันทร์ (22) ฟลอริดามียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่ยืนยันแล้วทะลุหลัก 100,000 ราย ขณะที่อายุเฉลี่ยของคนซึ่งป่วยตอนนี้อยู่ที่ 33 ปี –ต่ำลงมาฮวบฮาบจาก 65 ปีเมื่อ 2 เดือนก่อน

รอน เดอแซนทิส ผู้ว่าการรัฐกล่าวยอมรับในสัปดาห์ที่แล้วว่า ฟลอริดากำลังเจอกับ “การระบาดอย่างระเบิดเถิดเทิงจริงๆ” ของการติดเชื้อไวรัสในหมู่คนหนุ่มสาว พร้อมกันนั้น เขาเตือนว่า พวกสถานที่ซึ่งเสิร์ฟเหล้าโดยไม่มีการดูแลบังคับให้ทำตามกฎการเว้นระยะห่างทางสังคม อาจจะเจอการถูกลงโทษถูกยึดใบอนุญาตจำหน่ายสุรา

ครั้นถึงวันศุกร์ (26) รัฐนี้ก็ต้องรีบประกาศห้ามการบริโภคแอลกอฮอล์ภายในบาร์ไปเลย สืบเนื่องจากอัตราการติดเชื้อซึ่งสูงโด่ง

น.พ.แอนโธนี เฟาซี ผู้เชี่ยวชาญชั้นนำทางด้านโรคติดต่อของสหรัฐฯ บอกว่า คนวัยหนุ่มสาวทั่วประเทศ ซึ่งจำนวนมากเป็นผู้ที่ติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการ และกำลังแพร่ไวรัสมรณะออกไปอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว เวลานี้กำลังกลายเป็นผู้ผลักดัน “การปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์” (paradigm shift) ในท่ามกลางการเคลื่อนไหวอย่างไม่หยุดยิ่งของโรคระบาดคราวนี้ เขาเตือนคนหนุ่มสาวเหล่านี้ด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า ควรจะต้องคำนึงถึงสุขภาพของคนอื่นๆ ด้วย

“ถ้าคุณเกิดติดเชื้อขึ้นมา คุณก็จะสามารถแพร่เชื้อไปติดคนอื่นๆ ได้เช่นกัน” เขากล่าวในการประชุมแถลงข่าวที่ทำเนียบขาว ภายหลังการประชุมคณะทำงานแห่งชาติว่าด้วยไวรัสโคโรนา ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกในรอบระยะเวลา 2 เดือน “แล้วจากนั้นในที่สุดคุณก็จะแพร่เชื้อไปติดคนที่อ่อนแอเปราะบางเข้าจนได้

“วิธีเดียวเท่านั้นที่เราจะสามารถหยุดยั้งเรื่องนี้ได้ ก็คือโดยร่วมมือหยุดยั้งมันด้วยกัน”

ในฟลอริดา พนักงานเสิร์ฟพากันสวมหน้ากากป้องกันใบหน้าและถุงมือพลาสติกขณะรอคอยลูกค้า ถึงแม้แสงแดดที่สดใสทำให้อากาศร้อนรุ่มจนเหงื่อไหล

ภัตตาคารร้านอาหารบางแห่งถูกสั่งปิด หรือสมัครใจปิดเอง ในความพยายามที่จะควบคุมสกัดกั้นการระบาดของไวรัสมรณะ ในรัฐซึ่งจริงๆ แล้วต้องพึ่งพาอาศัยรายได้จากการท่องเที่ยวอย่างหนัก

ผู้คนรอคิวอยู่บริเวณทางเข้าร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ถนนโอเชียนไดรฟ์ เมืองไมอามี วันศุกร์ (26 มิ.ย.)

ผู้คนเตร็ดเตร่กันที่ถนนโอเชียนไดรฟ์ เมืองไมอามี วันศุกร์ (26 มิ.ย.)
ใช้ชีวิตเหมือนอย่างปกติไม่ได้อีกแล้ว

โอลิเวราแสดงท่าทีไม่กลัวเกรงภัยคุกคามจากไวรัสโคโรนา

“ไม่หรอก ผมไม่รู้สึกว่าผมกำลังจะติดเชื้อหรอก ผมนะอายุ 25 นะ ผมไม่ได้รู้สึกเลยว่าผมมีอะไรจะต้องกังวลกับไวรัส” เขาบอก

“ผมเจอกับเรื่องที่น่าเกลียดเรื่องที่แย่ๆ ยิ่งกว่านี้มาแล้ว ผมมาจากเขตบรองซ์ (ในนิวยอร์ก) นะ คุณก็รู้ว่าผมหมายถึงอะไร ถ้าผมอยู่รอดปลอดภัยจากที่นั่นมาได้ ผมก็สามารถที่จะอยู่รอดปลอดภัยจากไมอามีได้เหมือนกัน” เขากล่าว จากนั้นก็ดวดว็อดก้าอึกใหญ่เข้าปาก

แต่สำหรับ แอนนาลิซา ทอร์เรส นักวิเคราะห์ข้อมูลที่เพิ่งจบการศึกษาหมาดๆ จากมหาวิทยาลัยฟลอริดา เธอคิดไปอีกแบบหนึ่ง เธอบอกว่ารู้สึกเซ็งมากที่เห็นผู้คนในวัยอายุเดียวกับเธอประพฤติปฏิบัติตัวแบบนี้

“เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องรับรู้จะต้องยอมรับว่า ในฐานะที่เป็นคนวัยหนุ่มสาว การกระทำต่างๆ ที่เราทำตลอดช่วงเกิดโรคระบาดนี้ ไม่ได้เพียงแค่มีผลกระทบกระเทือนตัวเราเองเท่านั้น แต่ยังไปถึงผู้คนซึ่งอยู่รอบๆ เราด้วย” เธอบอกขณะกักกันโรคตัวเองอยู่ในบ้านของเธอในไมอามี

“ในกรณีของเรา ฉันอยู่กับคุณพ่อคุณแม่และน้องชาย ฉันยอมอยู่กับบ้านไม่ใช่เพื่อตัวฉัน แต่เพื่อพวกเขา” ทอร์เรส กล่าว

ทางด้าน แมรี โจ เทรปกา นักระบาดวิทยาลัยซึ่งอยู่ที่มหาวิทยาลัยฟลอริดา อินเตอร์เนชั่นแนล ให้ความเห็นว่า ปัญหาอยู่ตรงที่ว่าเมื่อคนหนุ่มสาวได้รับการบอกกล่าวว่าพวกเขามีโอกาสติดเชื้อล้มป่วยจากไวรัสโคโรนาน้อยกว่าผู้คนในวัยอื่นๆ พวกเขาก็รู้สึกว่าไม่ต้องสะดุ้งสะเทือนอะไรกับไวรัสนี้อีกต่อไปแล้ว

“ข้อความข่าวสารที่ออกมาก็คือ โดยพื้นฐานเลยไวรัสนี้เป็นอันตรายร้ายแรงสำหรับคนอายุมาก ส่วนคนหนุ่มสาวมีโอกาสน้อยกว่าที่จะล้มป่วย” เธอพูดกับผู้สื่อข่าวเอเอฟพี

“นี่เป็นความจริงอย่างยิ่ง แต่ในทันทีที่คุณเริ่มพบว่ามีคนหนุ่มสาวมากมายกลับกำลังติดเชื้อกำลังป่วยกันขึ้นมาแล้วล่ะก้อ นั่นก็ย่อมหมายความว่าหนุ่มสาวบางคนกำลังจะป่วยหนัก และจะลงเอยด้วยการต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล” เทรปกา กล่าวต่อ

แล้วครอบครัวจำนวนมากในฟลอริดาใต้ มักเป็นครอบครัวที่มีผู้คนหลายรุ่นอายุอยู่ด้วยกัน ดังนั้นคนวัยหนุ่มสาวจึงมักมีการติดต่อสัมผัสอยู่บ่อยครั้งกับญาติผู้ใหญ่ของพวกเขาภายในบ้านเดียวกัน” เธอชี้

(เก็บความจากเรื่อง Fun-hungry young adults in Florida fuel rise in virus infections ของสำนักข่าวเอเอฟพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น