xs
xsm
sm
md
lg

ทุบสถิติ!! สหรัฐฯ ติดเชื้อใหม่วันเดียวเกือบ 40,000 คน ผู้ว่าฯ ‘เทกซัส’ สั่งเบรกแผนคลายล็อกดาวน์

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์ – สหรัฐฯ พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพิ่มขึ้นทั่วประเทศถึง 39,818 รายเมื่อวานนี้ (25 มิ.ย.) ทุบสถิติยอดผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาด ขณะที่ผู้ว่าการรัฐเทกซัสสั่งระงับแผนผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ หลังจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยที่ต้องเข้าโรงพยาบาลยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

รัฐเทกซัสซึ่งพยายามปลดล็อกข้อจำกัดต่างๆ เพื่อเดินหน้าฟื้นเศรษฐกิจมีรายงานผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นถึง 6,000 คนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (22)

“การระงับแผนเปิดเมืองชั่วคราวจะช่วยชะลอการแพร่ระบาด จนกว่าเราจะสามารถก้าวสู่เฟสถัดไปได้อย่างปลอดภัย” เกร็ก แอบบ็อตต์ ผู้ว่าการรัฐเทกซัส ระบุในถ้อยแถลง

รัฐทางใต้แห่งนี้มีผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นถึง 13 วันต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ แอบบ็อตต์ ต้องมีคำสั่งให้โรงพยาบาลในเมืองฮิวสตัน, แดลลัส, ออสติน และซานแอนโตนิโอ งดบริการผ่าตัดที่ไม่เร่งด่วน (elective surgery) เพื่อสงวนเตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาลไว้

รัฐอื่นๆ ที่พบผู้ติดเชื้อใหม่มากเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์นี้ ได้แก่ แอละแบมา, แอริโซนา, แคลิฟอร์เนีย, ฟลอริดา, ไอดาโฮ, มิสซิสซิปปี, มิสซูรี, เนวาดา, โอคลาโฮมา, เซาท์แคโรไลนา และไวโอมิง

แม้ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นบางส่วนอาจจะมาจากการตรวจคัดกรองที่มากขึ้น ทว่าเปอร์เซ็นต์ของผลตรวจที่เป็นบวกก็พุ่งทะยานขึ้นเช่นเดียวกัน

รัฐบาลประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ยังพยายามปฏิเสธความร้ายแรงของสถานการณ์ในเวลานี้ แม้หลายสิบรัฐจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างน่ากังวลก็ตาม

“รัฐบาลทำงานร่วมรัฐต่างๆ และผู้นำส่วนท้องถิ่นอย่างจริงจัง แต่สิ่งสำคัญที่ชาวอเมริกันควรรับรู้ก็คือ มันเป็นเพียงสถานการณ์ระดับท้องถิ่นเท่านั้น” อเล็กซ์ อาซาร์ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ของสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับฟ็อกซ์นิวส์

“เทศมณฑลที่พบการแพร่ระบาดรุนแรงจริงๆ นั้นคิดเป็นเพียง 3% ของทั้งประเทศ” เขากล่าว

ผู้เชี่ยวชาญของรัฐบาลสหรัฐฯ เชื่อว่ามีชาวอเมริกันติดโควิด-19 มากกว่า 20 ล้านคน หรือกว่า 20 เท่าของตัวเลขผู้ป่วยสะสมอย่างเป็นทางการในเวลานี้ นั่นหมายความว่ายังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่อาจจะมีเชื้อหรือเคยมีเชื้ออยู่ในตัว ทว่าไม่แสดงอาการ

ทั้งนี้ ผู้ที่มีเชื้อโควิด-19 ยังสามารถแพร่เชื้อไปสู่บุคคลอื่นได้ แม้ว่าตนเองจะไม่มีอาการป่วยเลยก็ตาม

ศูนย์กลางการแพร่ระบาดเริ่มย้ายจากพื้นที่นิวยอร์กไปสู่รัฐทางใต้และตะวันตกของสหรัฐฯ ไม่เว้นแม้แต่เขตชนบทที่มีประชากรเบาบาง

ออริกอนและยูทาห์เป็นอีก 2 รัฐที่ตัดสินใจระงับหรือชะลอการผ่อนคลายข้อจำกัดต่างๆ ขณะที่ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย เกวิน นิวซัม ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านงบประมาณ (budget emergency) เพื่อยกระดับต่อสู้โควิด-19

แคลิฟอร์เนียพบผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น 5,350 รายในรอบ 24 ชั่วโมง ลดลงจากสถิติ 7,149 รายเมื่อวันพุธ (24) ทว่าจำนวนผู้ป่วยที่อาการหนักกลับเพิ่มสูงขึ้น และทำให้สถิติการใช้เตียงผู้ป่วยไอซียูทั่วทั้งรัฐเพิ่มจาก 29% เมื่อวันพุธ (24) กลายเป็น 34%

รัฐนิวยอร์ก, นิวเจอร์ซีย์ และคอนเน็ตทิคัต มีคำสั่งให้ผู้ที่เดินทางมาจาก 8 รัฐ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรัฐทางใต้ รวมถึงพลเมืองของทั้ง 3 รัฐที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากพื้นที่ดังกล่าว ต้องกักตัวเป็นเวลา 2 สัปดาห์

แอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก แถลงวานนี้ (25) ว่า สถานการณ์ในรัฐแห่งนี้คลี่คลายลงมาก และยังเหลือผู้ป่วยโควิด-19 ในโรงพยาบาลเพียง 996 ราย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค. ที่ยอดผู้ป่วยในโรงพยาบาลลดต่ำกว่า 1,000 คน

คูโอโม ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคเดโมแครตยังให้สัมภาษณ์ตำหนิประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และคนของรีพับลิกันว่าเป็นต้นเหตุทำให้ผู้ติดเชื้อในรัฐอื่นๆ เพิ่มขึ้น

“คุณพยายามเล่นการเมืองกับโรคระบาด และสุดท้ายพวกคุณก็แพ้” คูโอโม ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็น


กำลังโหลดความคิดเห็น