xs
xsm
sm
md
lg

ละตินอเมริกากลับมาใช้‘ล็อกดาวน์’อีกเพื่อสู้ไวรัส ขณะอังกฤษจัดซัมมิตระดมทุนพัฒนาวัคซีน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


หลุมศพว่างที่เพิ่งขุดใหม่ๆ เรียงรายเป็นแถวสุดลูกหูลูกตา ภายในสุสานเซาลูอิซ ซึ่งใช้เป็นที่ฝังศพผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในเมืองเซาเปาลู เมืองใหญ่ที่สุดของบราซิล ในภาพนี้ซึ่งถ่ายวันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน
เอเจนซีส์ – บราซิลและเม็กซิโกรายงานยอดผู้เสียชีวิตรายวันพุ่งทำลายสถิติ ขณะที่รัฐบาลหลายประเทศในละตินอเมริกาพยายามต่อสู้กับการระบาดของไวรัสโคโรนาด้วยการฟื้นมาตรการล็อกดาวน์และเคอร์ฟิว ด้านอังกฤษเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดเพื่อระดมทุนพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19ทั่วโลก

ละตินอเมริกากลายเป็นศูนย์กลางการระบาดล่าสุดของไวรัสโคโรนาที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 385,000 คนทั่วโลก

วันพุธ (3 มิ.ย.) เม็กซิโกรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,000 คนเป็นวันแรก ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตในบราซิลพุ่งทำสถิติรายวันใหม่ที่ 1,349 คน

แม้ประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู ของบราซิล ต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์อย่างดุเดือด แต่ยังถูกท้าทายโดยผู้ว่าการรัฐหลายแห่ง และขณะที่สถานการณ์การระบาดรุนแรงขึ้น รัฐบาเฮียได้ประกาศใช้มาตรการเคอร์ฟิวตั้งแต่วันพุธ

เช่นเดียวกับรัฐบาลชิลีที่ขยายมาตรการล็อกดาวน์กรุงซานติอาโก หลังยอดผู้เสียชีวิตรายวันเพิ่มขึ้นสูงสุดทำสถิติ

ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากเตือนว่า ทั่วโลกยังจำเป็นต้องจำกัดการเดินทางในบางรูปแบบจนกว่าจะคิดค้นวัคซีนสำเร็จ ล่าสุด อังกฤษเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมที่มีผู้เข้าร่วมจากกว่า 50 ชาติ รวมทั้งบุคคลทรงอิทธิพล อาทิ บิลล์ เกตส์ เพื่อระดมทุนสำหรับ “เกวี” หรือกลุ่มพันธมิตรวัคซีนโลก

เกวีและพันธมิตรจะเริ่มการระดมทุนเพื่อจัดซื้อวัคซีนที่มีศักยภาพในการต้านโควิด-19 รวมทั้งหนุนให้เพิ่มกำลังผลิต และสนับสนุนการจัดส่งไปยังประเทศกำลังพัฒนา

ที่กรุงบรัสเซลส์ เอกอัครราชทูตประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป หารือกันเมื่อวันพุธเพื่อเตรียมนำเงินจากกองทุนฉุกเฉิน 2,700 ล้านดอลลาร์มาใช้เร่งรัดการจัดซื้อวัคซีนต้านโควิด-19 หลังจากเยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี และเนเธอร์แลนด์ เผยว่า กำลังเร่งเจรจากับบริษัทยาหลายแห่งเพื่อรับประกันการเข้าถึงวัคซีนที่อยู่ระหว่างการพัฒนา

ทั้ง 4 ชาติยุโรปยังอยู่ระหว่างการหารือกับอังกฤษ นอร์เวย์ สิงคโปร์ และญี่ปุ่นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการร่วมมือในเรื่องนี้

ขณะเดียวกัน จะมีการเริ่มทดสอบวัคซีนที่อาจต้านไวรัสโคโรนาได้ซึ่งพัฒนาโดยมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดของอังกฤษ กับอาสาสมัครบริการสาธารณสุข 2,000 คนในบราซิลสัปดาห์หน้า

ในวันพุธ องค์การอนามัยโลก (ฮู) เผยว่า จะกลับมาทำการทดลองการใช้ยาต้านมาเลเรีย “ไฮดรอกซีคลอโรควิน” เพื่อใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 อีกครั้ง หลังจากระงับไปก่อนหน้านี้เนื่องจากมีรายงานฉบับหนึ่งตั้งข้อสงสัยว่า ยาตัวนี้อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเสียชีวิต

กระนั้น โดนัลด์ ทรัมป์ และโบลโซนารู ต่างยังคงสนับสนุนให้ใช้ไฮดรอกซีคลอโรควิน โดยเมื่อต้นสัปดาห์วอชิงตันได้จัดส่งยาชนิดนี้ให้บราซิล 2 ล้านโดส

ทว่า ในรายงานอีกฉบับที่เผยแพร่ในวารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์เมื่อวันพุธ บ่งชี้ว่า การใช้ยาต้านมาเลเรียหลังได้รับเชื้อไวรัสโคโรนาไม่นาน ไม่ได้ช่วยป้องกันการติดเชื้อที่มีนัยสำคัญเชิงสถิติแต่อย่างใด

แม้ยังไม่มีวัคซีนหรือยารักษาที่มีประสิทธิภาพ แต่หลายประเทศไม่สามารถรอได้และประกาศเร่งฟื้นธุรกิจและเศรษฐกิจที่ได้รับความเสียหายรุนแรงจากมาตรการล็อกดาวน์

อิตาลีเปิดพรมแดนรับนักเดินทางในยุโรปอีกครั้งตั้งแต่วันพุธ เพื่อฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยว แม้ดูเหมือนยังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าที่อุตสาหกรรมนี้จะฟื้นเต็มที่ก็ตาม

ด้านอเมริกายังคงเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตไวรัสรุนแรงที่สุดในโลก ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 1.85 ล้านคนและเสียชีวิต 107,000 คน ซ้ำยังมีความกังวลว่า การประท้วงต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติทั่วประเทศอาจทำให้ไวรัสแพร่ระบาดรุนแรงขึ้น

ภาพถ่ายเมื่อวันพุธ (3 มิ.ย.)  ขณะผู้มาเยือนเดินทางถึง “ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอส์” ในเมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา สหรัฐฯ  ทั้งนี้สวนสนุกแห่งนี้เปิดขึ้นอีกครั้งภายหลังการล็อกดาวน์ โดยผู้ถือบัตรผ่านตลอดฤดูได้สิทธิเข้าตั้งแต่วันพุธ (3) และจะเปิดต้อนรับประชาชนทั่วไปวันศุกร์ (5) นี้
ขณะเดียวกัน จะมีการเริ่มทดสอบวัคซีนที่อาจต้านไวรัสโคโรนาได้ซึ่งพัฒนาโดยมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดของอังกฤษ กับอาสาสมัครบริการสาธารณสุข 2,000 คนในบราซิลสัปดาห์หน้า

ในวันพุธ องค์การอนามัยโลก (ฮู) เผยว่า จะกลับมาทำการทดลองการใช้ยาต้านมาเลเรีย “ไฮดรอกซีคลอโรควิน” เพื่อใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 อีกครั้ง หลังจากระงับไปก่อนหน้านี้เนื่องจากมีรายงานฉบับหนึ่งตั้งข้อสงสัยว่า ยาตัวนี้อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเสียชีวิต

กระนั้น โดนัลด์ ทรัมป์ และโบลโซนารู ต่างยังคงสนับสนุนให้ใช้ไฮดรอกซีคลอโรควิน โดยเมื่อต้นสัปดาห์วอชิงตันได้จัดส่งยาชนิดนี้ให้บราซิล 2 ล้านโดส

ทว่า ในรายงานอีกฉบับที่เผยแพร่ในวารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์เมื่อวันพุธ บ่งชี้ว่า การใช้ยาต้านมาเลเรียหลังได้รับเชื้อไวรัสโคโรนาไม่นาน ไม่ได้ช่วยป้องกันการติดเชื้อที่มีนัยสำคัญเชิงสถิติแต่อย่างใด

แม้ยังไม่มีวัคซีนหรือยารักษาที่มีประสิทธิภาพ แต่หลายประเทศไม่สามารถรอได้และประกาศเร่งฟื้นธุรกิจและเศรษฐกิจที่ได้รับความเสียหายรุนแรงจากมาตรการล็อกดาวน์

อิตาลีเปิดพรมแดนรับนักเดินทางในยุโรปอีกครั้งตั้งแต่วันพุธ เพื่อฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยว แม้ดูเหมือนยังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าที่อุตสาหกรรมนี้จะฟื้นเต็มที่ก็ตาม

ด้านอเมริกายังคงเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตไวรัสรุนแรงที่สุดในโลก ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 1.85 ล้านคนและเสียชีวิต 107,000 คน ซ้ำยังมีความกังวลว่า การประท้วงต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติทั่วประเทศอาจทำให้ไวรัสแพร่ระบาดรุนแรงขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น