xs
xsm
sm
md
lg

อินเดียคุมไม่อยู่ ‘ติดเชื้อ’ ทะลุ 2 แสนคน อิตาลี-เยอรมนีพร้อมเปิดประเทศรับนักเดินทาง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ญาติๆ ของผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ กำลังประกอบพิธีเผาศพในนิวเดลี ประเทศอินเดีย ในวันพุธ (3 มิ.ย.) ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศยังคงวิกฤต ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 200
เอเจนซีส์ - สถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาใน 2 ประเทศตลาดเกิดใหม่ระดับบิ๊กของโลก ยังอยู่ในขั้นวิกฤต โดยอินเดียที่เริ่มเปิดเมืองอีกครั้ง เผยยอดผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 200,000 คน ส่วนบราซิลมีคนตายจากโรคนี้เกิน 30,000 คน ขณะที่หลายประเทศในยุโรปลุยปลดล็อกต่อเนื่อง โดยอิตาลีและเยอรมนีพร้อมอ้าแขนรับนักเดินทางภายในภูมิภาค

กระทรวงสาธารณสุขอินเดีย ประเทศที่มีประชากรสูงสุดอันดับ 2 ของโลก เปิดเผยเมื่อวันพุธ (3 พ.ค.) ว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใหม่ถึง 8,909 คน ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดรายวันอีกครั้ง และทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 207,615 คน

สภาวิจัยทางการแพทย์ของอินเดียยังคาดว่า กว่าสถานการณ์จะเลวร้ายถึงขีดสุด คตงต้องใช้เวลาอีกหลายสัปดาห์

ส่วนยอดผู้เสียชีวิตในอินเดียอยู่ที่ 5,815 คน ซึ่งแม้เป็นสัดส่วนค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ที่มีผู้ติดเชื้อมากกว่า เช่น อเมริกา อังกฤษ และ บราซิล แต่อัตราการติดเชื้อของอินเดียเพิ่มขึ้นต่อเนื่องขณะที่รัฐบาลยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ที่บังคับใช้ตั้งแต่เดือนมีนาคม

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเผยว่า คนงานมากมายกำลังเดินทางจากบ้านที่เป็นศูนย์กลางการระบาด เช่น ในมุมไบและเดลี ไปทำงานในเมืองต่างๆ ซึ่งขณะนี้เริ่มพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น

ด้านบราซิลรายงานเมื่อคืนวันอังคาร (2) ว่า พบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มขึ้นเป็น 31,199 คน สูงสุดอันดับ 4 ของโลกรองจากอเมริกา อังกฤษ และอิตาลี

ตัวเลขนี้ได้รับการเปิดเผยขณะที่รัฐต่างๆ ในบราซิลเริ่มปลดล็อก หลังจากมาตรการกักตัวนานหลายสัปดาห์กัดกินเศรษฐกิจเสียหายรุนแรง แม้องค์การอนามัยโลก (ฮู) และนักระบาดวิทยาในประเทศหลายคนเตือนไม่ให้ผ่อนกฎมากเกินไปและเร็วเกินไปก็ตาม

ญาติๆ ของผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ กำลังประกอบพิธีเผาศพในนิวเดลี ประเทศอินเดีย ในวันพุธ (3 มิ.ย.) ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศยังคงวิกฤต ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 200
โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจนี้ทำให้ทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตเกือบ 400,000 คน และติดเชื้อกว่า 6.2 ล้านคน นับจากที่อุบัติขึ้นครั้งแรกในจีนเมื่อปลายปีที่แล้ว โดยศูนย์กลางการระบาดขณะนี้ย้ายไปอยู่ที่ละตินอเมริกาที่มียอดผู้ติดเชื้อทะลุ 1 ล้านราย สดๆ ร้อนๆ ในสัปดาห์นี้ และกว่าครึ่งอยู่ในบราซิลคือ 555,383 คน ทำให้แดนแซมบ้ากลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดอันดับ 2 ของโลก รองจากอเมริกา โดยที่ในสหรัฐฯ ผู้เชี่ยวชาญกำลังกังวลว่า การประท้วงทั่วประเทศจากกรณีตำรวจฆาตกรรมชายผิวดำไม่มีอาวุธในมินนิอาโปลิส อาจทำให้ไวรัสโคโรนาระบาดรุนแรงอีกรอบ

ฮูยังกังวลกับระบบสาธารณสุขในละตินอเมริกา พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ขณะนี้ เปรู ชิลี และเม็กซิโก มีผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นจำนวนมาก

นอกจากนั้น ยังมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงติดเชื้อของนักข่าว หลังจากสหภาพผู้สื่อข่าวเปรูเผยว่า นักข่าวอย่างน้อย 20 คนเสียชีวิตจากไวรัสโคโรนา ซึ่งส่วนใหญ่ติดเชื้อระหว่างการรายงานข่าว

เปรูเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 รุนแรงที่สุดอันดับ 2 ในละตินอเมริกา รองจากบราซิล โดยมีผู้ติดเชื้อกว่า 170,000 คน และเสียชีวิต 4,600 คน

ตรงข้ามกับจีนที่เปิดเผยผลสำเร็จล่าสุดในการควบคุมไวรัส โดย เฟิง จือเจี้ยน รองผู้อำนวยการศูนย์เพื่อการควบคุมและป้องกันโรค เผยว่า การตรวจหาเชื้อประชาชนเกือบ 10 ล้านคนในเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการระบาด พบผู้มีผลตรวจเป็นบวกเพียง 300 คนเท่านั้น

ที่ยุโรป ซึ่งประเทศส่วนใหญ่มีผู้ติดเชื้อลดต่ำอย่างชัดเจน จึงมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์อย่างค่อยเป็นค่อยไปและต่อเนื่อง เช่น อิตาลีที่เริ่มเปิดพรมแดนรับนักเดินทางจากประเทศอื่นๆ ภายในภูมิภาคตั้งแต่วันพุธ หลังจากปิดประเทศมานาน 3 เดือนเพื่อควบคุมการระบาด

วันเดียวกันนั้น เยอรมนีเผยว่า จะยกเลิกคำเตือนการเดินทางชาติสมาชิกสหภาพยุโรป รวมทั้งอังกฤษ ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ ลิกเตนสไตน์ และสวิตเซอร์แลนด์ นับจากวันที่ 15 ที่จะถึงนี้ โดยจะเปลี่ยนเป็นคำแนะนำสำหรับแต่ละประเทศแทน ตราบเท่าที่ประเทศเหล่านั้นไม่แบนนักเดินทางต่างชาติ หรือบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ขนาดใหญ่ และอาจออกคำเตือนใหม่สำหรับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อ 50 คนต่อประชากร 10,000 คนใน 1 สัปดาห์


กำลังโหลดความคิดเห็น