xs
xsm
sm
md
lg

In Clip : เปิดคลิป “ฟลอยด์” แค่ใช้แบงก์ $20 ปลอมซื้อบุหรี่ถูก ตร.ซ้อมลากลงจากรถ น้าเดือด! “สุนัขยังได้รับการปฏิบัติดีกว่า” อเมริกันเผาธงชาติหน้าทำเนียบขาว-จุดไฟเผาโบสถ์มหาวิหารเซนต์จอห์น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเจนซีส์ - ภาพจากกล้องวงจรปิดใหม่เปิดภาพ จอร์จ ฟลอยด์ แอฟริกันอเมริกัน วัย 46 ปี ถูกจับหลังใช้เงินธนบัตร 20 ดอลลาร์ปลอมซื้อบุหรี่ที่ซูเปอร์มาร์เกต ถูกตำรวจซ้อมที่หลังรถก่อนลากตัวออกไปและสังหาร ด้าน แองเจลา ฮาร์เรลสัน (Angela Harrelson) น้าเปิดใจ สุนัขยังได้รับการปฏิบัติดีกว่า ชี้คนอเมริกันก่อจลาจลทั่วประเทศเพราะทนไม่ได้กับวงจรอุบาทว์ซ้ำซาก ด้านตำรวจลับสหรัฐฯ ไม่ต่ำกว่า 50 คนได้รับบาดเจ็บหลังปะทะกับผู้ประท้วงด้านนอกทำเนียบขาว ประท้วงรุนแรงมีตั้งแต่กลุ่มผู้ประท้วงเผาธงชาติสหรัฐฯ ด้านหน้าทำเนียบขาว และมหาวิหารโบสถ์เซนต์จอห์นที่สร้างมาตั้งแต่ปี 1816 กลางกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เกิดเพลิงไหม้ ขณะที่มีผู้ประท้วงจุดไฟเผาธงชาติสหรัฐฯ ด้านหน้าทำเนียบขาว ปล้นสะดมร้านแบรนด์หรู กุชชี และชาเนล

เดลีเมล์ สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้ (31 พ.ค.) ว่า นักเคลื่อนไหว ฉวน คิง (Shaun King) โพสต์วิดีโอคลิปที่มาจากกล้องทีวีวงจรปิดล่าสุดแสดงให้เห็นช่วงเวลาก่อนการเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ (George Floyd) โดยชี้ว่า เพิ่งได้มาสดๆ ร้อนๆ เป็นภาพตำรวจกำลังทำร้ายฟลอยด์ ขณะที่อีกคนกำลังยืนดูอยู่ด้านนอกรถ

เดลีเมล์รายงานว่า และหลังจากนั้นเขาถูกนำตัวลงมาก่อนที่จะเสียชีวิตด้วยการถูกตำรวจกดลงที่พื้นและใช้เข่ากดที่คอของเขาไว้โดยไม่สนใจเสียงฟลอยด์ที่ร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดและกล่าวถ้อยคำสุดท้ายว่า “ผมหายใจไม่ออก..แม่ครับ” และ “ได้โปรด”




อ้างอิงจากสื่อ news8000.com ที่รายงานเมื่อวันศุกร์ (29 พ.ค.) พบว่า ดีเรค ชอวิน (Derek Chauvin) เจ้าหน้าที่ตำรวจมินนีแอโปลิสที่ทำให้ฟลอยด์เสียชีวิตและถูกไล่ออกและเขาถูกดำเนินคดีฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาและคดีฆ่าคนตาย

อ้างอิงจากคำฟ้องพบว่าชอวินใช้เข่ากดคอฟลอยด์นาน 8 นาที 46 วินาที และชี้ว่า “เวลา 2 นาทีและ 53 วินาทีหลังจากฟลอยด์หมดสติไปแล้ว”

และก่อนหน้าที่เขาจะหมดสติ ฟลอยด์กล่าวว่า “ผมหายใจไม่ออก” หลายครั้ง และพูดซ้ำว่า “แม่ครับ” และกล่าวว่า “ได้โปรด” ซึ่งคนที่เห็นเหตุการณ์ได้ถ่ายวิดีโอคลิปไว้แสดงภาพชอวินกดเข่าบนคอของฟลอยด์ขณะที่เขาร้องขออากาศหายใจ

บีบีซี สื่ออังกฤษรายงานว่าฟลอยด์ถูกจับกุมในข้อหาเล็กๆคือการใช้ธนบัตร 20 ดอลลาร์ปลอมจากที่เขาเข้าไปซื้อบุหรี่ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต คัพ ฟู๊ดส์ (Cup Foods) และพนักงานในร้านได้โทรแจ้งตำรวจเมื่อวันที่ 25 พ.ค ที่ผ่านมา

ผู้จัดการซุปเปอร์มาร์เก็ต ไมค์ อาบูเมย์ยาเลห์( Mike Abumayyaleh )ให้สัมภาษณ์กับ NBC ว่า เขาเป็นลูกค้าหน้าประจำ เป็นมิตรและไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ใคร

เบน ครัมป์ (Ben Crump) ทนายความประจำตระกูลฟลอยด์ออกมาแสดงความเห็นว่า เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดเจ้าหน้าที่ตำรวจรายนี้ถึงไม่ถูกตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา

ความรุนแรงในการทำงานตำรวจสหรัฐฯดูได้จากคลิปบีบีซีที่พบว่า เจ้าหน้าที่ผิวขาวจ่อปืนเตรียมลั่นไกไปที่ผู้ต้องสงสัยผิวสีที่ทำผิดกฎจราจรไม่ยอมหยุดที่ป้ายสั่งให้จอดและหนีการจับกุมตัว ซึ่งมีย่าวัย 90 ปีของหนุ่มผิวสีที่ต้องเดินด้วยไม้เท้าช่วยเข้าขวางไม่ให้ตำรวจยิงหลานชายตัวเองที่หน้าบ้าน



ด้าน แองเจลา ฮาร์เรลสัน (Angela Harrelson) น้าของฟลอยด์ให้สัมภาษณ์กับ RT สื่อรัสเซีย โดยชี้ว่า สุนัขยังได้รับการปฎิบัติที่ดีกว่านี้ พร้อมกล่าวว่า เธอไม่เห็นด้วยต่อการจลาจลเกิดขึ้นไปทั่วสหรัฐฯและมีการปล้นสะดมร้านค้า

RT รายงานว่า ฮาร์เรลสันกล่าวว่า เธอสามารถเข้าใจได้ว่าการตายของฟลอยด์ทำให้กลายเป็นเรื่องบานปลายเป็นการก่อจลาจลไปทั่วประเทศจากการที่อเมริกาต้องทนกับพฤติกรรมความรุนแรงของตำรวจผิวขาวที่ฆ่าคนผิวดำมานานและไม่มีทางแก้ไข

“เหตุผลที่ต้องใช้เวลานานสำหรับผู้คนที่จะสงบลงได้เป็นเพราะพวกเขาเห็นในสิ่งนี้ มันเหมือนกับว่าพวกเขาอยู่ที่นั่น คนเหล่านั้นเห็นการฆ่าคนตายด้วยตาของตัวเอง คุณไม่สามารถลบมันออกไปจากคนพวกนี้ได้” แองเจลา ฮาร์เรลสันกล่าวเปิดใจ

และเสริมต่อว่า “มีผู้คนมาบอกดิฉันว่าพวกเขาต้องการเข้าไปช่วยชีวิตฟลอยด์ผ่านทางทีวี”

น้าของฟลอยด์แสดงความวิตกไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 4 นายที่ยังไม่ถูกลงโทษ โดยเธอเชื่อว่าพวกเขาสมควรได้รับจากการเสียชีวิตของฟลอยด์

“ความยุติธรรมสำหรับจอร์จ ฟลอยด์ สำหรับคนเหล่านี้คือโทษคดีฆาตรกรรมเท่านั้น” เธอกล่าวและเสริมว่า “เรียกมันว่าเป็นครั้งแรก...เรียกมันในสิ่งที่มันเป็น มันเป็นการฆาตรกรรม”

และน้าฟลอยด์กล่าวทิ้งท้ายไปถึงผู้ประท้วงทั่วสหรัฐฯ ว่า “ดิฉันรู้สึกถึงมันและดิฉันซาบซึ้งจากห้วงลึกของหัวใจ” “การปล้นสะดม การทำลายทรัพย์สิน พวกเราต่างรับรู้ว่าไม่สมควรทำเช่นนั้น ดิฉันเข้าใจความโกรธและความสับสน ดิฉันเข้าใจในเหตุผลที่พวกเขาทำ”

การจลาจลเมื่อวานนี้ (31 พ.ค.) เดลีเมล์รายงานว่า ตำรวจลับสหรัฐฯ กว่า 50 รายได้รับบาดเจ็บหลังการปะทะกับผู้ประท้วงนอกรั้วทำเนียบขาว เจ้าหน้าที่ระดับสูงสหรัฐฯ เปิดเผยกับฟ็อกซ์นิวส์หลังจากกลุ่มผู้ประท้วงขว้างระเบิดเพลิงและขวดเข้าใส่

การประท้วงใหญ่ทั่วประเทศที่เกิดขึ้นกลายเป็นการประท้วงครั้งใหญ่ที่ไม่ได้เห็นมานานตั้งแต่การลอบสังหารของ ดร.คิง (ดร.มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์) ผู้นำการเปลี่ยนแปลงความเท่าเทียมทางสีผิวปี 1968 ที่ในการประท้วงครั้งนี้มีการเห็นเมืองไม่ต่ำกว่า 40 เมืองทั่วประเทศประกาศเคอร์ฟิวห้ามออกนอกบ้าน และทหารเนชันแนลการ์ดใน 26 รัฐและกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ถูกส่งให้ออกทำหน้าที่

มีผู้เสียชีวิตรวมระหว่างประท้วงจำนวนไม่ต่ำกว่า 5 คนเกิดขึ้นหลังมีปืนยิงออกมาที่เมืองดีทรอยด์ และเมืองอินดิแอนาโปลิส รวมที่เมืองโอมาฮา ผู้ประท้วงวัย 22 ปีถูกสังหารระหว่างการต่อสู้กับเจ้าของร้านค้า

นอกจากนี้ พบว่ามีตำรวจ 2 นายถูกไล่ออกในวันอาทิตย์ (31 พ.ค.) หลังมีคลิปหลุดแสดงให้เห็นว่าพวกเขาใช้ความรุนแรงระหว่างการประท้วงสุดสัปดาห์ โดยการใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าและลากตัวนักศึกษา 2 คนออกมาจากรถ

ขณะที่มหาวิหารโบสถ์เซนต์จอห์น (St. John's cathedral) กลางกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สร้างมาตั้งแต่ปี 1816 ถูกจุดไฟเผาโดยที่ไม่ทราบว่าเกิดเพลิงไหม้ได้อย่างไรในช่วงกลางคืนวันอาทิตย์ (31 พ.ค) แต่ไฟสามารถถูกดับลงได้หลังเวลา 23.00 น.ไปแล้ว

ซึ่งก่อนที่จะเกิดเหตุเพลิงไหม้ผู้ดูแลมหาวิหารโบสถ์เซนต์จอห์น กล่าวว่า รู้สึกขอบคุณที่โบสถ์ไม่ได้รับความเสียหายในวันก่อนหน้าจากการประท้วง

“พวกเราโชคดีที่ความเสียหายตัวอาคารมีจำกัด” สาธุคุณ ร็อบ ฟิชเชอร์( Rev. Rob Fischer) ผู้ปกครองมหาวิหารกล่าวในช่วงเช้าของวันก่อนที่ไฟจะเริ่มไหม้ในช่วงกลางคืน และเสริมว่าทางเจ้าหน้าที่โบสถ์ได้เก็บของมีค่าภายในแล้ว

ขณะที่สวนสาธารณะลาฟาเยตต์ (Lafayette Park) ที่อยู่ตรงข้ามกับทำเนียบขาวพบว่า มีผู้ประท้วงคนหนึ่งจุดไฟเผาธงชาติสหรัฐฯ ทำให้เกิดเพลิงไฟและควันดำพุ่งขึ้นฟ้าท่ามกลางผู้ประท้วง 1,000 คนชูกำปั้นเป็นสัญลักษณ์สมานฉันท์



และที่เมืองนิวยอร์กพบว่า เคียรา เด บลาสิโอ (Chiara de Blaio) บุตรสาวนายกเทศมนตรีนิวยอร์ก บิล เด บลาสิโอ ถูกจับกุมพร้อมกับผู้ประท้วงคนอื่นๆ ในคืนวันเสาร์ (30 พ.ค.) ที่หมู่บ้านกรีนวิช (Greenwich Village) ในข้อหาการรวมตัวผิดกฎหมายแต่ได้รับการปล่อยตัวในภายหลัง

มีการบุกเข้าปล้นสะดมร้านจำหน่ายแบรนด์หรู กุชชี และแชเนลที่ย่านโซโห และร้านกระเป๋าโค้ชที่ย่านมิดทาวน์ (Midtown) วันอาทิตย์ (31 พ.ค.)

สื่อนิวยอร์กโพสต์รายงานว่า มีกลุ่มผู้ประท้วงราว 12 คนบุกเข้าร้านแชเนลที่สปริงและวู๊ดเตอร์หลังเวลา 23.00 น. และพบชายคนหนึ่งหนีออกมาพร้อมกระเป๋า 4 ใบในมือ




























กำลังโหลดความคิดเห็น