xs
xsm
sm
md
lg

นานทีปีหน! UN ประณามเหตุผู้ต้องสงสัยตายคามือ ตร.สหรัฐฯ ร้องหยุดฆ่าคนผิวสีไม่มีอาวุธ (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์










เอเอฟพี - หัวหน้าหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ ในวันพฤหัสบดี (28 พ.ค.) ประณามตำรวจอเมริกากรณีผู้ต้องสงสัยชายผิวสี จอร์จ ฟลอยด์ ตายระหว่างถูกจับกุม พร้อมเรียกร้องเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ดำเนินการอย่างจริงจังในหยุดฆ่าพลเมืองอเมริกาเชื้อสายแอฟริกัน และวิงวอนขอความสงบ หลังเกิดเหตุประท้วงรุนแรงต่อเหตุเสียชีวิตของชายรายดังกล่าว

“นี่คือกรณีล่าสุดของคดีฆ่าพลเมืองอเมริกาเชื้อสายแอฟริกันผู้ไม่มีอาวุธโดยตำรวจและเจ้าหน้าที่รัฐของสหรัฐฯ ที่ยาวเป็นหางว่าว“ มิเชล บาเชเลต์ ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติกล่าวในถ้อยแถลง

“ฉันอนาถใจที่จำเป็นต้องเพิ่มชื่อ จอร์จ ฟลอยด์ ตามหลัง บรีออนนา เทย์เลอร์, เอริก การ์เนอร์, ไมเคล บราวน์ และพลเมืองอเมริกาเชื้อสายแอฟริกันคนอื่นๆ อีกมากมายที่เสียชีวิตด้วยน้ำมือของตำรวจตลอดหลายปีที่ผ่านมา” ถ้อยแถลงระบุ

ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ยังพาดพิงถึงชื่อของ อาห์มูด อาร์เบอรี และเทรย์วอน มาร์ติน ซึ่งถูกสังหารโดยเจ้าหน้าที่รัฐติดอาวุธ “เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ต้องดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อหยุดการฆ่าลักษณะนี้ และเพื่อรับประกันว่าความยุติธรรมจะต้องเกิดขึ้น”


ความเห็นของเธอมีขึ้นหลังจาก ฟลอยด์ วัย 46 ปี คนงานของร้านอาหารแห่งหนึ่ง ถูกตำรวจผิวขาวใช้เข่ากดบริเวณคอจนหมดสติระหว่างการจับกุม จนกระทั่งเสียชีวิตในมินนีอาโปลิสเมื่อวันจันทร์ (25 พ.ค.)ที่ผ่านมา จุดชนวนการประท้วงรุนแรง จลาจล และปล้นสะดม 2 คืนติด

ในวิดีโอที่บันทึกไว้ได้โดยผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่ง เป็นเหตุการณ์เผชิญหน้ากันระหว่างตำรวจ กับ จอร์จ ฟลอยด์ วัย 46 ปี เมื่อคืนวันจันทร์ (25 พ.ค.) โดยในภาพพบเห็น ฟลอยด์ อยู่ในสภาพนอนคว่ำหน้าราบไปกับพื้นและถูกสวมกุญแจมือ ถูกตำรวจใช้เข่ากดลงไปบริเวณคอ ระหว่างนั้นเขาพยายามส่งเสียงพึมพำขอความช่วยเหลือ “ได้โปรด ผมหายใจไม่ออก” ก่อนค่อยๆ หมดสติไป

ฟลอยด์ซึ่งไม่มีอาวุธและตกเป็นผู้ต้องสงสัยฐานพยายามจ่ายธนบัตรปลอมแก่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ถูกนำตัวขึ้นรถฉุกเฉินออกไปจากที่เกิดเหตุ และเสียชีวิตอย่างเป็นทางการในคืนเดียวกันที่โรงพยาบาล

“ขั้นตอนต่างๆ ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ต้องมีการนำระบบป้องกันมาใช้ และเหนือสิ่งอื่นใด ตำรวจทุกคนที่เลือดหนทางของการใช้กำลังเกินกว่าเหตุควรถูกดำเนินคดีและตัดสินว่ามีความผิดฐานก่ออาชญากรรม” บาเชเลต์กล่าว


อดีตประธานาธิบดีหญิงของชิลี แสดงความยินดีที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ให้ความสำคัญกัต่อการสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เธอบอกว่า “มีหลายคดีในอดีตที่การสืบสวนลงความเห็นที่เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม ว่าการฆ่าลักษณะนี้มีความชอบธรรม”

นอกจากนี้แล้ว ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ยังพูดถึงเหตุประท้วงรุนแรงที่ปะทุขึ้นนับตั้งแต่การเสียชีวิตของฟลอยด์ โดยเธอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายอยู่ในความสงบ

พวกผู้ประท้วงทั้งปะทะกับตำรวจ ปล้นสะดมร้านค้าต่างๆ และจุดไฟเผา ขณะที่เจ้าหน้าที่ตอบโต้ด้วยแก๊สน้ำตาและกระสุนยาง ทั้งนี้มีรายงานว่ามีบุคคลรายหนึ่งเสียชีวิตจากบาดแผลกระสุนปืนในวันพฤหัสบดี (28 พ.ค.) โดยเวลานี้ตำรวจอยู่ระหว่างสืบสวนว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่เขาอาจถูกยิงโดยเจ้าของร้านค้าระหว่างเกิดเหตุจลาจลรุนแรง

“ความรุนแรงและการทำลายทรัพย์สินไม่ช่วยแก้ปัญหาการกระทำโหดร้ายของตำรวจหรือการเลือกปฏิบัติ ดิฉันของเรียกร้องให้พวกผู้ประท้วงแสดงออกถึงความต้องการความยุติธรรมอย่างสันติ และฉันขอเรียกร้องตำรวจระมัดระวังอย่างที่สุด ไม่โหมกระพือสถานการณ์ปัจจุบัน หรือแม้กระทั่งใช้กำลังเกินกว่าเหตุอีก” เธอกล่าว




กำลังโหลดความคิดเห็น