รอยเตอร์ - พวกผู้ประท้วงปะทะกับตำรวจจลาจลที่ยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่เป็นคืนที่ 2 ติดต่อกัน ในเมืองมินนีอาโปลิส รัฐมินเนโซตา สหรัฐฯ คืนวันพุธ (27 พ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ในขณะที่ประชาชนแสดงความไม่พอใจต่อการตายของชายผิวดำคนหนึ่ง ซึ่งปรากฏอยู่ในวิดีโอที่เผยแพร่อย่างกว้างขวาง ว่า เขาถูกตำรวจผิวขาวใช้เข่ากดบริเวณคอจนหมดสติระหว่างการจับกุม จนกระทั่งเสียชีวิต
ในวิดีโอที่บันทึกไว้ได้โดยผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่ง เป็นเหตุการณ์เผชิญหน้ากันระหว่างตำรวจ กับ จอร์จ ฟลอยด์ วัย 46 ปี เมื่อคืนวันจันทร์ (25 พ.ค.) โดยในภาพพบเห็น ฟลอยด์ อยู่ในสภาพนอนคว่ำหน้าราบไปกับพื้นและถูกสวมกญแจมือ ถูกตำรวจใช้เข่ากดลงไปบริเวณคอ ระหว่างนั้นเขาพยายามส่งเสียงพึมพำขอความช่วยเหลือ “ได้โปรด ผมหายใจไม่ออก” ก่อนค่อยๆ หมดสติไป
คืนที่ 2 ของการประท้วง ซึ่งมาพร้อมกับเหตุปล้นสะดมและก่อจลาจล เริ่มต้นไม่นานหลังจากนายกเทศมนตรี เจค็อบ เฟรน เรียกร้องคณะอัยการยื่นดำเนินคดีอาญากับตำรวจผิวขาวที่กดคอฟลอยด์บนถนน
ฟลอยด์ ซึ่งไม่มีอาวุธและตกเป็นผู้ต้องสงสัยฐานพยายามจ่ายธนบัตรปลอมแก่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ถูกนำตัวขึ้นรถฉุกเฉินออกไปจากที่เกิดเหตุ และเสียชีวิตอย่างเป็นทางการในคืนเดียวกันที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
ตำรวจที่ถูกพบเห็นใช้เข่ากดบริเวณคอของฟลอยด์ และเพื่อนร่วมงานอีก 3 คน ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ โดนปลดพ้นจากกรมตำรวจในวันอังคาร (26 พ.ค.) และเอฟบีไอได้เปิดการสืบสวนในเรื่องนี้แล้ว
อย่างไรก็ตาม มันไม่อาจสยบความไม่พอใจของประชาชน โดยผู้ประท้วงหลายร้อยคน จำนวนมากใช้หน้ากากปกปิดใบหน้า ออกอาละวาดไปตามท้องถนนสายต่างๆ รอบๆ สถานีตำรวจเติร์ด พรีซิงท์ ในช่วงค่ำวันพุธ (27 พ.ค.) ราว 800 เมตร จากจุดที่ฟลอยด์ถูกจับกุม พร้อมกับตะโกนว่า “ไม่มีความยุติธรรม ไม่มีสันติภาพ” และ “ฉันหายใจไม่ออก”
ฝูงชนเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเข้าสู่ยามค่ำคืน และเหตุประท้วงกลายเป็นการเผชิญหน้าบริเวณด้านนอกสถานีตำรวจ โดยตำรวจในชุดปราบจลาจลตั้งแนวกั้น ส่วนผู้ชุมนุมตะโกนถากถางพวกเขาจากด้านหลังแนวกั้นชั่วคราวที่สร้างขึ้นมาเอง
ตำรวจซึ่งบางส่วนประจำที่มั่นบริเวณดาดฟ้าของอาคารต่างๆ ใช้แก๊สน้ำตา, กระสุนยางและระเบิดควัน ในความพยายามควบคุมฝูงชน แต่ทางพวกผู้ประท้วงตอบโต้ด้วยก้อนหินและวัตถุอื่นๆ บางส่วนขว้างกระป๋องแก๊สน้ำตากลับเข้าหาเจ้าหน้าที่ด้วย
ภาพข่าวสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งที่ถ่ายจากเฮลิคอปเตอร์ที่บินวนเหนือพื้นที่ พบเห็นผู้คนหลายสิบคนกำลังปล้นสะสมสาขาหนึ่งของห้างค้าปลีกทาร์เก็ต ฉวยเสื้อผ้าและสินค้าต่างๆ วิ่งหนีออกจากร้าน
นอกจากนี้แล้ว ยังเห็นเปลวไฟปะทุขึ้นในห้างร้านธุรกิจต่างๆ ในนั้นรวมถึงร้านอะไหล่รถยนต์แห่งหนึ่ง โดยผู้เห็นเหตุการณ์เชื่อว่าเหตุเพลิงไหม้เหล่านี้น่าจะเป็นฝีมือของพวกก่อจลาจล ขณะที่สื่อมวลชนรายงานว่า พบเห็นการชุมนุมขนาดเล็กกว่าและเป็นไปอย่างสันติอีกจุด บริเวณด้านนอกบ้านพักของหนึ่งในตำรวจที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้
ความขุ่นเคืองต่อการเสียชีวิตของฟลอยด์ ยังกระตุ้นให้เกิดการเดินขบวนของประชาชนหลายร้อยคนในนามของเขา ประท้วงพฤติกรรมโหดเหี้ยมของตำรวจในย่านกลางเมืองลอสแองเจลิสในช่วงบ่ายวันพุธ (27 พ.ค.)
การชุมนุมดังกล่าวเลี้ยวเข้าสู่ความรุนแรงเช่นกัน หลังจากฝูงชนไหลบ่าไปยังถนนสายหนึ่งที่อยู่ใกล้เคียงและปิดกั้นการจราจร จากนั้นก็โจมตีรถสายตรวจทางหลวงแคลิฟอร์เนีย 2 คัน ทุบกระจกรถจนแตก
วิดีโอของเหตุเผชิญหน้ากันระหว่างตำรวจมินนีอาโปลิส กับ ฟลอยด์ กระตุ้นให้เกิดเสียงเรียกร้องให้ ไมค์ ฟรีแมน อัยการเฮนเนพิน เคาน์ตี ดำเนินคดีกับตำรวจที่เข้าจับกุมฟลอยด์ในคดีนี้
อย่างไรก็ตาม ทางสหภาพตำรวจท้องถิ่น บอกว่า พวกเจ้าหน้าที่ให้ความร่วมมือกับการสืบสวนเป็นอย่างดี และเตือนประชาชนว่าอย่าเพิ่งด่วนตัดสินเร็วเกินไป “เราต้องตรวจสอบทุกวิดีโอ เราต้องรอรายงานจากเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพ”