เอเจนซีส์ - รัฐสภาจีนลงมติรับรองในวันพฤหัสบดี (28 พ.ค.) แผนการที่จะบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกง ซึ่งพวกนักเคลื่อนไหวประชาธิปไตย และประเทศตะวันตก บอกว่า กลัวเกรงจะลดทอนเสรีภาพของศูนย์กลางการเงินเอเชียแห่งนี้ ทั้งนี้ ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากอเมริกาประกาศเพิกถอนสถานะพิเศษทางเศรษฐกิจซึ่งตนให้แก่ฮ่องกง
การประชุมเต็มคณะของสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติของจีน (เอ็นพีซี) ในวันพฤหัสบดี ยังคงลงมติเห็นชอบเรื่องนี้ตามคาดหมาย หลังจาก ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงที่กรุงวอชิงตันวันพุธ (27) ว่า ไม่สามารถรับรองได้แล้วว่าฮ่องกงมีสิทธิปกครองตนเองในระดับสูง ซึ่งจะปูทางสู่การยกเลิกสิทธิพิเศษทางการค้าและเศรษฐกิจที่สหรัฐฯให้แก่เกาะแห่งนี้
ทั้งนี้ สหรัฐฯได้ออกกฎหมายฉบับหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว เพื่อเป็นการสนับสนุนการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง โดยมีเนื้อหาระบุว่า คณะบริหารของสหรัฐฯต้องรับรองว่าฮ่องกงยังคงเสรีภาพตามที่จีนได้ตกลงไว้กับองกฤษตอนรับมอบอธิปไตยของดินแดนแห่งนี้เมื่อปี 1997 ไม่เช่นนั้น สหรัฐฯก็จะเพิกถอนสถานะพิเศษทางเศรษฐกิจที่ให้แก่ฮ่องกง
ขณะที่ทางฝ่ายจีนถือเรื่องการนำกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติออกมาใช้ในฮ่องกงนี้ เป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญของการประชุมเต็มคณะของเอ็นพีซีปีนี้ หลังจากฮ่องกงเกิดการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยครั้งใหญ่เขย่าการเมืองและสร้างความวุ่นวายนานถึง 7 เดือนเมื่อปีที่แล้ว
เนื้อหาสำคัญของกฎหมายความมั่นคงนี้ มุ่งลงโทษผู้ที่พยายามแบ่งแยกดินแดน ล้มล้างอำนาจรัฐ ก่อการร้าย และกระทำการใดๆ ที่เป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ ตลอดทั้งยังอนุญาตให้หน่วยงานด้านความมั่นคงของจีนเข้าไปปฏิบัติการในฮ่องกงอย่างเปิดเผย
หลังจากผ่านการรับรองในหลักการด้วยคะแนนเกือบเป็นเอกฉันท์ของที่ประชุมเต็มคณะของเอ็นพีซี ซึ่งปีนี้ประชุมกันเป็นวันสุดท้ายในวันพฤหัสบดีแล้ว ต่อจากนี้ก็เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการประจำของเอ็นพีซีที่จะร่างกฎหมายฉบับนี้ออกมา โดยคาดหมายกันว่า จะสามารถบังคับใช้เป็นกฎหมายได้ก่อนเดือนกันยายน
ทางด้าน แคร์รี ลัม ประธานผู้บริหารของฮ่องกง แถลงว่า เธอยินดีที่ญัตติเรื่องนี้ผ่านออกมาได้ และเธอจะปฏิบัติตามข้อกำหนดในญัตติฉบับนี้ ด้วยการทำรายงานต่อปักกิ่งเป็นประจำ และ “ยกระดับการบังคับใช้กฎหมายและการให้การศึกษาทางการเมืองเพื่อปกป้องความมั่นคงแห่งชาติ”
ก่อนหน้านี้ หวัง เฉิน รองประธานคณะกรรมการประจำของเอ็นพีซี กล่าวไว้ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วว่า การที่ฮ่องกงล่าช้าในการผลักดันกฎหมายความมั่นคงของตนเอง ทั้งที่กลับมาอยู่ภายใต้การปกครองของจีนมากว่า 20 ปี สืบเนื่องจากการบ่อนทำลายและการขัดขวางของกลุ่มคนที่พยายามสร้างปัญหาให้ฮ่องกงและจีน รวมถึงกลุ่มอำนาจจากภายนอกนั้น ได้บีบให้ผู้นำจีนต้องลงมือจัดการเอง
อย่างไรก็ดี กลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงได้แสดงการคัดค้านเรื่องนี้อย่างดุเดือด
คลอเดีย โม สมาชิกสภานิติบัญญัติฮ่องกง ซึ่งเป็นฝ่ายโปรตะวันตก บอกว่า นี่คือจุดสิ้นสุดของฮ่องกง และเสริมว่า จีนกำลังบดขยี้ค่านิยม เช่น สิทธิมนุษยชน ประชาธิปไตย และหลักนิติธรรมของฮ่องกง และจากนี้ไปฮ่องกงจะเป็นแค่เมืองๆ หนึ่งของจีนเท่านั้น
ขณะที่ โจชัว หว่อง นักเคลื่อนไหวประชาธิปไตยคนดัง บอกว่า กฎหมายความมั่นคงนี้ “จะฆ่าขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยของฮ่องกง”
ในอีกด้านหนึ่ง วอชิงตันก็โหมกระพือว่า การตัดสินใจของตนในการเพิกถอนสถานะพิเศษ จะทำให้ฮ่องกงสูญเสียสิทธิพิเศษทางการค้า เช่น การถูกจัดเก็บภาษีศุลกากรในระดับที่ต่ำกว่าจีน
เดวิด สติลเวลล์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เผยว่า ถัดจากนี้ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ จะตัดสินใจว่า จะจัดการกับประเด็นฮ่องกงอย่างไรภายในสัปดาห์นี้ ในเมื่อไม่มีแนวโน้มว่า จีนจะยอมเปลี่ยนความประพฤติ และสำทับว่า อเมริกาไม่ต้องการทำร้ายคนฮ่องกง แต่การตัดสินใจที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้นเป็นผลจากปักกิ่ง
สติลเวลล์ยังบอกอีกว่า มาตรการตอบโต้ของทรัมป์อาจรวมถึงการแบนวีซ่าและการแซงก์ชันทางเศรษฐกิจ
ในเวทีสหประชาชาติวันพุธ อเมริกาและจีนก็ได้ปะทะฝีปากกัน เมื่อวอชิงตันพยายามขอให้จัดการประชุมคณะมนตรีความมั่นคง เพื่อหารือเรื่องกฎหมายความมั่นคงของจีน โดยอ้างว่า เป็นประเด็นเร่งด่วนระดับโลกที่มีผลต่อสันติภาพและความมั่นคงระว่างประเทศ แต่ปักกิ่งคัดค้านโดยสวนกลับว่า กฎหมายความมั่นคงเป็นกิจการภายในของจีน
ความเคลื่อนไหวของวอชิงตันคราวนี้ยังมีขึ้นหลังจากชาวฮ่องกงออกมาประท้วงอีกครั้งในวันพุธ (27) เพื่อต่อต้านการที่สภานิติบัญญัติฮ่องกงกำลังพิจารณาออกกฎหมายเพลงชาติที่มีบทลงโทษผู้ที่หมิ่นเพลงชาติจีนด้วยการจำคุกสูงสุด 3 ปี
มีรายงานว่า ตำรวจระดมกำลังจำนวนมากออกมารายล้อมอาคารสภาที่กำลังมีการอภิปรายร่างกฎหมายดังกล่าว และยิงกระสุนพริกไทยสลายผู้ชุมนุม รวมทั้งจับกุมประชาชนกว่า 300 คน ส่วนใหญ่ภายใต้ข้อหาชุมนุมโดยไม่ได้รับอนุญาต
ต่อมาในวันพฤหัสฯ ตำรวจจลาจลฮ่องกงกระจายกำลังทั่วเมืองเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ ขณะที่สภาอภิปรายกฎหมายฉบับนี้ต่อ