เอเจนซีส์ - “ทรัมป์” ตราหน้า WHO “หุ่นเชิดจีน” ขู่ซ้ำอาจระงับหรือยกเลิกการให้เงินอุดหนุน รวมทั้งทบทวนการเป็นสมาชิกองค์กรนี้ นอกจากนั้น คณะบริหารสหรัฐฯ ยังโจมตีปักกิ่งเบี่ยงเบนความสนใจด้วยการประกาศบริจาคเงิน 2,000 ล้านดอลลาร์สู้โควิด ด้านจีนยืนยันเปิดเผยการระบาดทันทีและโปร่งใส เรียกร้องประเทศต่างๆ ต่อต้านข่าวลือ การตีตรา และการเลือกปฏิบัติ ขณะที่ WHO รับปากเปิดการตรวจสอบอิสระการรับมือโรคระบาดใหญ่โดยเร็วตามเสียงเรียกร้องของนานาชาติ
อเมริกาเปิดสงครามปากกับจีนเรื่องการระบาดของไวรัสโคโรนา รวมทั้งโจมตีองค์การอนามัยโลก (WHO) ที่เปิดประชุมเสมือนจริงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เมื่อวันจันทร์ (18) โดยหนึ่งในประเด็นพิจารณาสำคัญคือ ร่างญัตติของสหภาพยุโรป (อียู) ที่เรียกร้องให้ทำการประเมินการรับมือโรคระบาดของนานาชาติอย่างอิสระ ครอบคลุมรอบด้าน และเป็นกลาง
เทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการ WHO ยอมรับว่ามีข้อผิดพลาด และให้สัญญาว่าจะเริ่มการประเมินอย่างอิสระโดยเร็วที่สุดเพื่อทบทวนประสบการณ์และบทเรียนที่ได้รับจากวิกฤตโรคระบาดครั้งนี้ ตลอดจนให้คำแนะนำเพื่อปรับปรุงการเตรียมพร้อมรับมือโรคระบาดในอนาคตทั้งในระดับประเทศและระดับโลก
อย่างไรก็ดี เกเบรเยซุสสำทับว่า WHO เตือนภัยโรคระบาดแต่เนิ่นๆ และบ่อยครั้ง เช่น ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระดับโลกเมื่อวันที่ 30 มกราคม ซึ่งขณะนั้นยังพบผู้ติดเชื้อนอกจีนไม่ถึง 100 คน และไม่มีผู้เสียชีวิต
คำอธิบายของ WHO ได้รับการรับรองจากรายงานการตรวจสอบการจัดการโรคระบาดฉบับแรกของคณะกรรมการอิสระที่กำกับดูแลการทำงานของ WHO ซึ่งระบุว่า WHO แสดงความเป็นผู้นำและมีความคืบหน้าสำคัญในการรับมือโควิด-19 คณะกรรมการชุดนี้ยังเห็นด้วยกับการตรวจสอบที่นานาชาติเรียกร้อง แต่ตั้งข้อสังเกตว่า การดำเนินการในขณะนี้อาจบ่อนทำลายการจัดการโรคระบาดของ WHO
แม้ผู้นำและรัฐมนตรีสาธารณสุขหลายประเทศยกย่องความพยายามของ WHO แต่ อเล็กซ์ อาซาร์ รัฐมนตรีสาธารณสุขอเมริกา กลับโจมตีว่า WHO ล้มเหลวในการได้รับและแจกจ่ายข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับโควิด-19 ซึ่งเป็นสาเหตุให้ไวรัสระบาดจนเกินการควบคุมและผู้คนมากมายล้มตาย
วอชิงตันระงับการให้เงินสนับสนุนและกล่าวหา WHO ใกล้ชิดกับจีนมากเกินไป รวมทั้งปกปิดและจัดการโรคระบาดผิดพลาด
อาซาร์ยังกล่าวหาจีนลอยๆ โดยไม่ระบุชื่อว่า สมาชิกชาติหนึ่งพยายามปกปิดการระบาดอย่างชัดเจนด้วยการประกาศสนับสนุนเงินมหาศาลช่วยเหลือโลก
ไวรัสโคโรนาที่อุบัติขึ้นในจีนเมื่อปลายปีที่แล้ว ทำให้มีผู้ติดเชื้อเกือบ 4.8 ล้านคน และเสียชีวิตกว่า 317,000 คนทั่วโลกในขณะนี้ โดยที่อเมริกาครองสถิติสูงสุดทั้งสองประเภท
วันเดียวกันนั้น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันว่ากำลังพิจารณาลดหรือยกเลิกการให้เงินสนับสนุนWHO รวมทั้งทบทวนการเป็นสมาชิก หากไม่มีการปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้นภายใน 30 วัน
ทรัมป์กล่าวจากทำเนียบขาวว่า WHO เป็นหุ่นเชิดของจีนและเอาใจจีน แต่กลับให้คำปรึกษาที่แย่มากแก่อเมริกา
อย่างไรก็ตาม ตัวทรัมป์เองถูกวิจารณ์ว่าพยายามเบี่ยงเบนความสนใจไปจากการจัดการวิกฤตโรคระบาดในสหรัฐฯอย่างผิดพลาดของตนเอง
การประชุมสมัชชาอนามัยโลก (เอเอชเอ) ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี แต่สำหรับปีนี้ซึ่งต้องจัดในแบบออนไลน์ ได้ลดระยะเวลาจากปกติ 3 สัปดาห์เหลือเพียง 2 วัน และมุ่งเน้นที่การระบาดของโควิด-19
ภายหลังการวิจารณ์ของวอชิงตัน หม่า เสียวเหว่ย รัฐมนตรีสาธารณสุขของจีน แถลงว่า ปักกิ่งเปิดเผยการระบาดทันทีและโปร่งใส รวมทั้งยังแบ่งปันข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับลำดับพันธุกรรม และเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ต่อต้านข่าวลือ การตีตรา และการเลือกปฏิบัติ
ทางด้านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ยืนยันว่า จีนดำเนินการอย่างเปิดเผย โปร่งใส และรับผิดชอบ พร้อมประกาศอัดฉีดเงิน 2,000 ล้านดอลลาร์ใน 2 ปีข้างหน้าเพื่อจัดการวิกฤตโรคระบาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศกำลังพัฒนา ทั้งยังให้คำมั่นว่า หากพัฒนาวัคซีนสำเร็จจะแจกจ่ายให้ทั่วโลก
เงินจำนวนดังกล่าวเกือบเท่ากับงบประมาณโครงการประจำปีทั้งหมดของ WHO ปีที่แล้ว และมากกว่าเงินอุดหนุนรายปีของอเมริกามูลค่า 400 ล้านดอลลาร์ที่ทรัมป์สั่งระงับเมื่อไม่นานมานี้
เกี่ยวกับวัคซีนต่อต้านโควิด-19 นั้น ปัจจุบัน จีนมีวัคซีน 5 ตัวที่อยู่ระหว่างการทดสอบทางคลินิก
ในส่วนของ ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส และนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี ต่างแสดงความเห็นพ้องกับสีว่า ประชากรโลกทุกคนควรสามารถเข้าถึงวัคซีนที่ผลิตได้