เอเอฟพี - สหรัฐฯในวันจันทร์ (18 พ.ค.) ประณามองค์การอนามัยโลก ต่อความล้มเหลวในการเข้าถึงและส่งมอบข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ข้อมูลที่อาจช่วยสกัดโรคระบาดใหญ่และปกป้องหลายชีวิต
“เราต้องพูดตรงๆ เกี่ยวกับหนึ่งในเหตุผลหลักๆ ที่โรคระบาดนี้ไม่อยู่ภายใต้การควบคุม นั่นคือ ความล้มเหลวขององค์กรแห่งนี้ในการได้มาซึ่งข้อมูลที่จำเป็นสำหรับทั่วโลก และความล้มเหลวนั้นต้องชดใช้ด้วยหลายชีวิต” อเล็กซ์ อาซาร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์แห่งสหรัฐฯ กล่าวปราศัยผ่ายวิดีโอต่อที่ประชุมประจำปีขององค์การอนามัยโลก
อาซาร์ ยืนยันว่า องค์การอนามัยโลกต้องเปลี่ยนแปลงและต้องโปร่งใสมากขึ้น พร้อมกับแสดงจุดยืนสนับสนุนให้ตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมาเพื่อทบทวนทุกแง่มุมเกี่ยวกับแนวทางตอบสนองต่อโรคระบาดใหญ่ของหน่วยงานสาธารณสุขของสหประชาชาติแห่งนี้
วอชิงตันติดหล่มในสงครามน้ำลายที่เผ็ดร้อนขึ้นเรื่อยๆ กับปักกิ่ง เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ในขณะที่พวกเขาก็โจมตีองค์การอนามัยโลกอย่างดุเดือดเช่นกัน
โรคระบาดใหญ่ซึ่งอุบัติขึ้นในจีนเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ได้คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกไปแล้วกว่า 31,000 คน และมีผู้ติดเชื้อกว่า 4,800,000 คน โดยที่สหรัฐฯเป็นชาติที่มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมากที่สุดในโลก
เมื่อช่วงกลางเดือนเมษายน วอชิงตันระงับเงินอุดหนุนที่มอบแด่องค์การอนามัยโลก โดยกล่าวหาองค์การแห่งนี้ว่าใกล้ชิดกับจีนมากเกินไป ทั้งปกปิดและบริหารจัดการโรคระบาดใหญ่ผิดพลาด
“ในพฤติกรรมที่ดูเหมือนเป็นความพยายามปกปิดการแพร่ระบาด มีรัฐสมาชิกอย่างน้อย 1 รัฐ ลบหลู่พันธสัญญาด้านความโปร่งใสของพวกเขา และทั้งโลกต้องชดใช้มหาศาล” อาซาร์ กล่าว “เราเห็นองค์การอนามัยโลกล้มเหลวในภารกิจหลักของพวกเขา ในด้านความโปร่งใสและแบ่งปันข้อมูล เมื่อมีรัฐสมาชิกหนึ่งๆไม่ได้ดำเนินการด้วยความจริงใจ”
“เรื่องนี้ไม่อาจปล่อยให้เกิดซ้ำได้อีก สถานะปัจจุบันมันสุดจะทน องค์การอนามัยโลกต้องเปลี่ยนแปลง และมันต้องมีความโปร่งใสและมีความรับผิดชอบมากกว่านี้อย่างมาก” อาซาร์ กล่าว พร้อมระบุว่า ในขณะที่ประเทศต่างๆ มุ่งเน้นในการตอบสนองต่อโรคระบาดใหญ่อย่างทันท่วงที พวกเขาจำต้องการองค์การอนามัยโลกที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม เพื่อมีชัยในสมรภูมินี้