รอยเตอร์ - สหรัฐฯ ในวันจันทร์ (18 พ.ค.) เหน็นแนมจีนว่าต้องจ่ายมากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ ที่พวกเขาประกาศบริจาคให้องค์การอนามัยโลก (WHO) เย้ยปักกิ่งแค่ทำพอเป็นพิธีเพื่อหันเหความสนใจไปจากคำกล่าวหาของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อความล้มเหลวของปักกิ่งในการแจ้งเตือนโลกอย่างเหมาะสมเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง แถลงผ่านทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ก่อนหน้านี้เมื่อวันจันทร์ (18 พ.ค) ระหว่างการประชุมประจำปีขององค์การอนามัยโลก ว่า พร้อมบริจาคให้ 2,000 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 2 ปีข้างหน้า เพื่อช่วยประเทศอื่นสู้โควิด-19 โดยเฉพาะเหล่าประเทศกำลังพัฒนา
จำนวนดังกล่าวเกือบจะพอๆ กับงบประมาณรายปีขององค์การอนามัยโลกเมื่อปีที่แล้ว และมากกว่าเงินสนับสนุนจากสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ที่ราวๆ 400 ล้านดอลลาร์ต่อปี แต่เวลานี้ถูกประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งระงับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้นำอเมริกาแย้มว่ากำลังพิจารณาที่จะกลับไปให้เงินสนับสนุนองค์การอนามัยโลกอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม John Ullyot โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว เรียกมันว่า เป็นการบริจาคพอเป็นพิธีเพื่อเบี่ยงความสนใจ ในขณะที่มีประเทศต่างๆ มากขึ้นเรื่อยๆ ที่เรียกร้องขอความรับผิดชอบจากรัฐบาลจีน ต่อความล้มเหลว “ในการเตือนโลกต่อสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น”
“คำสัญญาบริจาคของจีนเป็นการทำพอพิธีเพื่อหันเหความสนใจ ในขณะที่มีประเทศต่างๆ มากขึ้นเรื่อยๆ ที่เรียกร้องขอความรับผิดชอบจากรัฐบาลจีนที่ไม่ได้ทำตามพันธสัญญาและหน้าที่ที่ต้องบอกกับจริงและแจ้งเตือนโลกต่อสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น” โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวระบุในถ้อยแถลง
วอชิงตันติดหล่มในสงครามน้ำลายที่เผ็ดร้อนขึ้นเรื่อยๆ กับปักกิ่ง เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ในขณะที่พวกเขาก็โจมตีองค์การอนามัยโลกอย่างดุเดือดเช่นกัน
แม้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดจากสหรัฐฯ แต่ ณ ที่ประชุมทางไกล ทางองค์การอนามัยโลกกลับได้รับเสียงชื่นชมจากหลายประเทศ ในขณะที่บรรดาสมาชิกพยายามหาทางตกลงกันเกี่ยวกับแนวทางตอบสนองต่อวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 ร่วมกัน และรับประกันว่าวัคซีนใดๆ จะมีไว้สำหรับทุกคน
“โควิด-19 ควรเป็นสัญญาณเตือน มันเป็นเวลาที่ต้องหยุดความหยิ่งยะโส” อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติกล่าว “เราจะก้าวผ่านโรคระบาดใหญ่ด้วยกัน ไม่อย่างนั้นเราก็จะล้มเหลว”
ที่ประชุมสมัชชาอนามัยโลก หรือ World Health Assembly (WHA) ในปีนี้ถูกปรับลดเวลาเหลือเพียง 2 วัน จากเดิม 3 สัปดาห์ และมุ่งเน้นแต่เรื่องโรคระบาดใหญ่แต่เพียงอย่างเดียว ในขณะที่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกไปแล้ว 315,000 คน
ในการประชุมผ่านวิดีโอลิงก์ พวกผู้นำและรัฐมนตรีสาธารณสุขของหลายประเทศ ต่างยกย่องความพยายามขององค์การอนามัยโลกในการประสานงานตอบสนองโรคระบาดใหญ่ และเรียกร้องเพิ่มเงินบริจาค และให้การสนับสนุนหน่วยงานสาธารณะสหประชาชาติแห่งนี้หนักแน่นยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ประณามองค์การอนามัยโลก ต่อความล้มเหลวในการเข้าถึงและส่งมอบข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ ข้อมูลที่อาจช่วยสกัดโรคระบาดใหญ่และปกป้องหลายชีวิต
“เราต้องพูดตรงๆ เกี่ยวกับหนึ่งในเหตุผลหลักๆ ที่โรคระบาดนี้ไม่อยู่ภายใต้การควบคุม นั่นคือ ความล้มเหลวขององค์กรแห่งนี้ในการได้มาซึ่งข้อมูลที่จำเป็นสำหรับทั่วโลก และความล้มเหลวนั้นต้องชดใช้ด้วยหลายชีวิต” อเล็กซ์ อาซาร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์แห่งสหรัฐฯ ปราศัยผ่ายวิดีโอต่อที่ประชุมประจำปีขององค์การอนามัยโลก
เทดรอส อาดานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก เน้นย้ำกับที่ประชุมว่า องค์กรของเขาได้ “ส่งเสียงตั้งแต่ต้นและส่งเสียงเตือนบ่อยครั้ง” และในเรื่องนี้ กูเตอร์เรส เสริมว่า “หลายประเทศเพิกเฉยคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก โลกต้องชดใช้อย่างแสนสาหัสสำหรับยุทธศาสตร์ที่ไม่ไปในทิศทางเดียวกันในบางครั้ง”
แม้มีความตึงเครียดหนักหน่วงขึ้นระหว่างสหรัฐฯ กับจีน แต่รัฐสมาชิกต่างหวังว่าที่ประชุมสมัชชาอนามัยโลก จะเห็นชอบมติหนึ่งซึ่งมีเป้าหมายกำหนดแนวทางตอบสนองร่วม ในนั้นรวมถึงคำมั่นสัญญาเกี่ยวกับการเข้าถึงอย่างเท่าเทียมต่อแนวทางรักษาและวัคซีนต่างๆ