เอเจนซีส์ - FBI ปลดล็อกโทรศัพท์มือถือไอโฟนทหารอากาศกองทัพซาอุฯ โมฮัมเหม็ด ซาอิด อัลชามรานี ที่ก่อเหตุกราดยิงภายในฐานทัพเรือเพนซาโคลา รัฐฟลอริดา ปีที่แล้ว พบเชื่อมโยงกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ และมีความสัมพันธ์ย้อนไปไกลถึงปี 2015 ด้านแอปเปิลถูกวิจารณ์ที่ไม่ยอมให้ความช่วยเหลือ FBI ทำการปลดล็อก
เอบีซีนิวส์ สื่อสหรัฐฯ รายงานวันนี้ (19 พ.ค.) ว่า รัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐฯ วิลเลียม บาร์ และผู้อำนวยการสำนักงาน FBI สหรัฐฯ คริสโตเฟอร์ เรย์ (Christopher Wray) แถลงในวันจันทร์ (18) ว่า ผู้ต้องสงสัยกราดยิงฐานทัพเรือเพนซาโคลา รัฐฟลอริดา เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว โมฮัมเหม็ด ซาอิด อัลชามรานี นั้น มีการติดต่อโดยตรงกับมือปฏิบัติการกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์
ซึ่งบาร์และเรย์ ชี้ว่า การโจมตีมีการวางแผนมานานหลายปีในข้อมูลใหม่นี้ได้จากหลักฐานที่ถูกพบในโทรศัพท์มือถือไอโฟนของทหารอากาศซาอุดีอาระเบียนายนี้
บาร์เปิดเผยว่า อัลชามรานีพยายามทำลายโทรศัพท์ของตัวเอง และพบว่าได้ยิงกระสุนหนึ่งนัดใส่โทรศัพท์หนึ่งเครื่องจากจำนวนทั้งหมด
ในแถลงการณ์เขากล่าวว่า “โทรศัพท์เหล่านี้มีข้อมูลใหม่ที่ไม่เคยพบมาก่อนต่อทางเรานั้นได้ทำให้สามารถแสดงความเชื่อมโยงความสัมพันธ์ที่สำคัญระหว่างอัลชามรานีต่อเครือข่ายอัลกออิดะห์ในกลุ่มคาบสมุทรอาระเบีย (AQAP) ที่ไม่ใช่แค่ก่อนการโจมตีแต่ก่อนที่เขาจะเดินทางเข้าสหรัฐฯ ในเวลานี้เรามีความเข้าใจมากถึงความเกี่ยวข้องของอัลชามรานีและความเคลื่อนไหวนานนับปี นับเดือน และนับวันที่นำมาสู่การลงมือของเขา”
การปลดล็อกโทรศัพท์ไอโฟนของมือกราดยิงทำโดยเจ้าหน้าที่เทคนิค FBI หลังจากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากบริษัท แอปเปิล ซึ่งผู้อำนวยการสำนักงาน FBI กล่าวโจมตีแอปเปิล โดยชี้ว่าทางบริษัทไม่ยอมให้ความร่วมมือในการสอบสวนแม้แต่น้อย
ในรายงานของ CNN เรย์ยืนยันว่า การพัฒนาที่ทำให้ทางเจ้าหน้าที่เทคนิค FBI สามารรถปลดล็อกได้นั้นเป็นแอปพลิเคชันที่ใช้อย่างจำกัด แต่เขาชี้ว่าการที่ใช้เวลาปลดล็อกไอโฟนนั้นทำให้การสอบสวนคดีนี้มีความล่าช้าเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ รัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐฯยังโจมตีแอปเปิลที่ไม่ยอมให้ความร่วมมือ โดยกล่าวว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ร้องขอบริษัทแอปเปิลให้ช่วยเหลือ แต่ทางแอปเปิลตอบปฏิเสธ
ซึ่งในแถลงการณ์บริษัท แอปเปิล ที่ออกมาในบ่ายวันจันทร์ (18) ระบุว่า ทางบริษัทได้ตอบสนองต่อคำขอครั้งแรกจาก FBI สำหรับข้อมูลไม่กี่ชั่วโมงหลังเกิดการโจมตีเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2019 และยังคงสนับสนุนเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายตลอดการสอบสวน
“เราได้ให้ข้อมูลที่ทางเรามี รวมไปถึงข้อมูลแบ็กอัปบน iCloud รายละเอียดของแอกเคานต์ และข้อมูลต่างๆ สำหรับหลายบัญชี และทางเรายังคงให้การสนับสนุนในการสอบสวนทางด้านเทคนิกต่อสำนักงาน FBI ในแจ็คสันวิล (Jacksonville) เพนซาโคลา และนิวยอร์ก เป็นเวลาร่วมเดือนนับตั้งแต่นั้น” รายงานจากแถลงการณ์บริษัท แอปเปิล
อย่างไรก็ตาม ในแถลงการณ์ของแอปเปิลออกมาตอบโต้ข้อกล่าวหาจากที่ไม่ยอมให้ความร่วมมือในการปลดล็อกโทรศัพท์มือถือไอโฟนของอัลชามรานี โดยชี้ว่า ข้อกล่าวหานี้มีเพื่อทำให้ระบบป้องกันความปลอดภัยของระบบโทรศัพท์ไอโฟนอ่อนแอซึ่งเป็นระบบที่ปกป้องยูสเซอร์หลายล้านและความมั่นคงสหรัฐฯ และทางแอปเปิลชี้ว่า เหตุนี้บริษัทจึงมีความรับผิดชอบต่อความมั่นคงชาติและไม่ต้องการที่จะให้มีกลไกประตูหลังที่เรียกว่า “แบ็กดอร์” ซึ่งจะทำให้โทรศัพท์ไอโฟนทั้งหมดตกอยู่ในความเสี่ยงและเป็นผลร้ายต่อความมั่นคงสหรัฐฯในที่สุด
เอบีซีนิวส์รายงานว่า FBI ค้นพบว่า มือกราดยิงซึ่งเป็นทหารกองทัพอากาศซาอุฯ ถูกล้างสมองให้กลายเป็นพวกหัวรุนแรงไม่เฉพาะแต่ในสหรัฐฯ แต่สามารถย้อนหลังไปไกลถึงปี 2015 และหลังจากนั้น อัลชามรานียังคงติดต่อและมีความสัมพันธ์กับมือปฏิบัติการกลุ่ม AQAP จำนวนมากที่เป็นตัวอันตรายนับตั้งแต่นั้น
ในแถลงการณ์ของคนทั้งคู่ชี้ว่า ข้อมูลใหม่แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงของมือกราดยิงกับกลุ่มอัลกออิดะห์แล้ว ยังรวมไปถึงวิธีการที่มือกราดยิงซ่อนเร้นจนทางการสหรัฐฯจับไม่ได้ ซึ่งในการก่อเหตุ อัลชามรานีได้สังหารทหารสหรัฐฯเสียชีวิตไป 3 คนก่อนเขาจะถูกวิสามัญในที่เกิดเหตุ
ทั้งนี้ ในการแถลงข่าวเมื่อมกราคมต้นปีนี้ ทางกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯได้เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเลกทรอนิกส่วนตัวของทหารซาอุดีอาระเบียทั้งหมด 21 นาย ที่มี 12 นาย ถูกฝึกที่ฐานทัพเรือเพนซาโคลา ส่วนอีก 9 นายถูกฝึกที่ฐานทัพอื่นทั่วสหรัฐฯ พบว่า 17 คน มีโซเชียลมีเดียที่มีข้อมูลเกี่ยวข้องกับญิฮัดและข้อความแสดงความเกลียดชังอเมริกัน แต่บาร์กล่าวว่า ไม่พบหลักฐานเชื่อมโยงเกี่ยวพันกับกลุ่มก่อการร้าย และมีอีกราว 15 นาย ที่มีบางส่วนอยู่ในกลุ่ม 17 คนเกี่ยวข้องกับภาพลามกอนาจารเด็ก
ทหารซาอุฯทั้งหมดไม่ได้ถูกดำเนินคดีในสหรัฐฯ แต่ถูกกองทัพซาอุฯสั่งปลดออกจากราชการ
