ซีเอ็นเอ็น - ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เวลานี้พุ่งเกิน 300,000 คนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตามข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ในขณะที่โรคระบาดใหญ่ผ่านอีกหลักชัยอันน่าเศร้าในวันพฤหัสบดี (14 พ.ค.)
จากการนับของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้วกว่า 4.4 ล้านคน ในนั้นเสียชีวิต 300,315 คน อย่างไรก็ตามเชื่อว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตที่แท้จริงน่าจะสูงกว่านี้มาก
ถึงกระนั้นรัฐบาลชาติต่างๆ ได้เริ่มค่อยๆ ทยอยผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์กันแล้ว ในนั้นรวมถึงชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร แม้ว่าทั้งสองชาติยังคงดิ้นรนในความพยายามควบคุมการแพร่ระบาด
ยอดผู้เสียชีวิตที่พุ่งเกิน 3 แสนคน เกิดขึ้นเพียง 1 วันหลังจากองค์การอนามัยโลกเตือนว่าบางทีไวรัสชนิดนี้อาจไม่มีวันหายไปจากโลก พร้อมแนะนำให้เรียนรู้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับโรคนี้แบบเดียวกับเชื้อเอชไอวี
แม้แต่บางชาติที่ดูเหมือนจะผ่านพ้นจุดเลวร้ายสุดของวิกฤตไปแล้วอย่างจีนและเกาหลีใต้ ก็ยังคงต้องหาทางคืนสู่ภาวะปกติ ในกระบวนการที่เชื่อว่าต้องใช้เวลาอีกนานและเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน
ข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ระบุว่า ราวๆ 84,000 ศพ หรือมากกว่า 1 ใน 4 ของผู้เสียชีวิตทั้งหมดทั่วโลก อยู่ในสหรัฐฯ
ขณะที่เว็บไซต์ worldometers.info รายงานตัวเลขล่าสุด มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกทั้งสิ้น 4,524,652 คน เสียชีวิตรวม 303,345 คน โดยสหรัฐอเมริกามีผู้ติดเชื้อเพิ่มในวันที่ 14 พ.ค.จำนวน 27,246 คน เสียชีวิตอีก 1,715 คน ยอดรวมผู้ติดเชื้อทั้งหมด 1,457,593 คน เสียชีวิตรวม 86,912 คน
ประเทศที่พบผู้เสียชีวิตพุ่งทะยานตลอดทั้งเดือนเมษายน และยังคงทรงตัวอยู่ในอัตราโดยเฉลี่ยแล้ว 1,500 ศพต่อวัน ครองอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมและผู้เสียชีวิตสะสมมานานหลายสัปดาห์
อย่างไรก็ตาม รัฐส่วนใหญ่ของสหรัฐฯ ได้เริ่มต้นแผนกลับมาเปิดเศรษฐกิจอย่างเป็นขั้นเป็นตอนกันแล้ว และในสัปดาห์นี้ ได้มีการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์บางส่วนเกือบครบทุกรัฐ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้โหมกระพือความกังวลแก่เหล่าผู้เชี่ยวชาญบางส่วน ในขณะที่โมเดลหนึ่งของทางทำเนียบขาว คาดการณ์ว่ายอดผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯอาจแตะระดับ 147,000 คนในช่วงเดือนสิงหาคม อันเนื่องจากการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์
นอกเหนือจากสหรัฐฯแล้ว สถานการณ์ในอเมริกาใต้ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่น่ากังวลเช่นกัน หลังพบหลายชาติในละตินอเมริการายงานพบผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่วัน
บราซิล ดินแดนที่ประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู ยืนกรานปฏิเสธภัยคุกคามจากไวรัส กำลังพบเห็นจำนวนผู้ติดเชื้อที่พุ่งพรวดและยอดผู้เสียชีวิตที่มากกว่า 13,500 คนแล้ว นอกจากนี้ยังพบเห็นอัตราการแพร่ระบาดที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในเอกวาดอร์และเปรู ขณะที่เม็กซิโก พบผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 4,000 คน
ในยุโรป บางประเทศเริ่มแถลงก้าวย่างในทางบวกเพิ่มเติม โดยอดีตจุดร้อนอย่างสเปนและอิตาลี ค่อยๆ กลับมาเปิดทำการธุรกิจบางประเภทอย่างระมัดระวัง หลังรายงานผู้เสียชีวิตรายวันทรงตัวอยู่ในหลักร้อย ต่ำลงอย่างมากจากระดับเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคมและต้นเดือนเมษายน
กระนั้นแนวโน้มในสหราชอาณาจักร ยังคงน่ากังวลอยู่ หลังกลายเป็นชาติทีมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในยุโรปเป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่สัปดาห์ก่อน