รอยเตอร์ - ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ทั่วโลกพุ่งเกิน 3 ล้านคนแล้วในวันจันทร์ (27 เม.ย.) ในนั้นแค่สหรัฐฯ ชาติเดียวก็ปาข้าไปเกือบ 1 ล้านคนแล้ว จากการนับของสำนักข่าวรอยเตอร์ และมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์
ตัวเลขที่พุ่งเหนือ 3 ล้านคนทั่วโลก มึขึ้นในขณะที่หลายประเทศเริ่มดำเนินการต่างๆ ในการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ซึ่งทำให้โลกหยุดยิ่งมาเป็นเวลากว่า 8 สัปดาห์
นับตั้งแต่ผู้ติดเชื้อ 41 เคสแรกได้รับการยืนยันในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน เมื่อวันที่ 10 มกราคม ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใม่ใช้เวลาไม่ถึง 4 เดือนในการแพร่เชื้อสู่คน 3 ล้านคนทั่วโลก ในขณะที่ข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่าในแต่ละปีจะมีเคสผู้ป่วยอาการรุนแรงจากไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลปีละราวๆ 3 ถึง 5 ล้านคน
สัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ทั่วโลกเฉลี่ยแล้ว 82,000 คนต่อวัน โดยในนั้นราว 1 ใน 4 อยู่ในสหรัฐฯ และกว่า 43% อยู่ในยุโรป
ในส่วนของตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทั่วโลกก็พุ่งเกิน 208,000 คนจนถึงวันจันทร์ (27 เม.ย.) ในนั้นกว่า 56,000 ศพอยู่ในสหรัฐฯ ในขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตสะสมรวมทุกชาติในยุโรปก็เพิ่มขึ้นเหนือ 125,000 ศพแล้วเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม บางประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดในยุโรป ไม่ว่าจะเป็นอิตาลี, ฝรั่งเศส และสเปน รายงานพบเห็นจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันลดลงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา กระนั้นตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ก็ยังคงอยู่ที่ระดับราวๆ 2,000-5,000 คนต่อวันในสัปดาห์ที่แล้ว
ในวันจันทร์ (27 เม.ย.) สเปนซึ่งเป็นชาติที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หนักหน่วงที่สุดในยุโรป รายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,793 คน และเสียชีวิตเพิ่ม 331 คน ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเป็น 229,422 คน เสียชีวิตสะสม 23,521 คน อันดับ 2 ได้แก่ อิตาลี รายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพียง 1,739 คน ต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 199,414 คน ขณะที่พบผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 333 คน ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 26,977 คน
อันดับ 3 ในยุโรป ได้แก่ฝรั่งเศส รายงานพบผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 437 คน ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 23,293 คน ถือเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงที่สุดในรอบ 4 วัน ที่ 1.9% แต่ต่ำกว่าระดับเมื่อ 10 วันก่อนเป็นอย่างมาก โดยช่วงนั้นพบเห็นอัตราการเพิ่มขึ้นอยู่จำนวนผู้เสียชีวิตในแต่ละวันมากกว่า 4% ส่วนผู้ติดเชื้อรายใหม่รายวันพบ 3,742 คน ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 165,842 คน
ส่วนอันดับ 5 ได้แก่ เยอรมนี พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพียง 372 คน ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 158,142 คน และเสียชีวิตเพิ่มแค่ 9 คน ยอดผู้เสียชีวิตสะสมเป็น 5,985 คน ด้านสหราชอาณาจักรพบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 360 คน ถือเป็นจำนวนผู้เสียชีวิตรายวันต่ำที่สุดในรอบ 4 สัปดาห์ ยอดผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 21,092 คน ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันอยู่ที่ 4,310 คน ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเป็น 157,149 คน หลังจากประเทศแห่งนี้เข้าสู่สัปดาห์ที่ 6 ของมาตรการล็อกดาวน์
ตัวเลขผู้ติดเชื้อรวมทั่วโลกเพิ่มขึ้นเพียง 2.5% เมื่อวันอาทิตย์ (26 เม.ย.) ถือเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นรายวันต่ำที่สุดในรอบเกือบ 2 เดือน และลดลงจากช่วงพีกสุดในช่วงปลายเดือนมีนาคม โดยช่วงนั้นจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% ต่อวัน
สหรัฐฯเคยรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยแล้วมากกว่า 30,000 คนต่อวันในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เวลานี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่เหลืออยู่แค่ราวๆ 1 ใน 3 ทั้งนี้จนถึงวันจันทร์ (27 เม.ย.) จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมในอเมริกา อยู่ที่ราวๆ 972,000 คน
อิตาลี มีแผนอนุญาตให้โรงงานบางแห่งกลับมาเปิดปฏิบัติการได้ในวันที่ 4 พฤษภาคม ส่วนหนึ่งในการเปิดอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ขณะที่สเปนเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เมื่อวันอาทิตย์ (26 เม.ย.) อนุญาตให้เด็กออกนอกบ้านได้ภายใต้การดูแลของผู้ปกครอง
หลายรัฐของสหรัฐฯ ก็เริ่มกลับมาเปิดธุรกิจแล้วเช่นกัน ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าอัตราคนว่างงานในเดือนเมษายนจะพุ่งแตะระดับ 16%
ในเอเชีย ซึ่งไม่ผู้ติดเชื้อคิดเป็นไม่ถึง 7% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด มีบางประเทศำลังดิ้นรนพยายามควบคุมไม่ให้เกิดการระบาดระลอกใหม่ ในนั้นรวมถึงญี่ปุ่นและสิงคโปร์ ซึ่งพบเห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อกลับมาพุ่งขึ้นอีกในเดือนเมษายน แม้ก่อนหน้านี้เคยประสบความสำเร็จในการชะลอการแพร่ระบาดมาแล้ว
แต่ขณะเดียวกันก็มีอีกหลายประะทศในภูมิภาคที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้แล้ว ในนั้นรวมถึงเกาหลีใต้ ซึ่งตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมารายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ราวๆ 10 คนต่อวัน ลดลงจากระดับพีคสุดกว่า 1,000 คนต่อวันในเดือนกุมภาพันธ์
ในจีน แหล่งอุบัติของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ รายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพียง 3 คนเมื่อวันอาทิตย์ (26 เม.ย.) และบอกว่าคนไข้ทุกคนในเมืองอู่ฮั่น ศูย์กลางดั้งเดิมของการแพร่ระบาด เวลานี้ออกจากโรงพยาบาลได้หมดแล้ว
อีกด้านหนึ่งในละตินอเมริกา และแอฟริกา สถานการณ์เริ่มไม่สู้ดีนัก ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเร็วว่าค่าเฉลี่ยของโลก โดยยอดผู้ติดเชื้อสะสมในเม็กซิโกเพิ่มขึ้น 7%-10% ต่อวันในเดือนที่แล้ว แตะระดับ 13,800 คน ในขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อในบราซิล พุ่งเกิน 60,000 คนไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ กว่า 40% ของจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมดในทวีปแอฟริกานั้นอยู่ในทางตอนเหนือของทวีป โดยมีโมร็อกโก, อียิปต์ และแอลจีเรีย มีรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดรุนแรง
