รอยเตอร์ - ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ทั่วโลกพุ่งเหนือ 2.5 ล้านคนในวันอังคาร (21 เม.ย.) จากการนับของรอยเตอร์ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ตัวเลขผู้ติดเชื้อทะลุ 800,000 คน
ขณะเดียวกัน ทั่วโลกยังพบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เกินกว่า 170,000 คน ในนั้น 2 ใน 3 เสียชีวิตในยุโรป
ไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ ใช้เวลาราวๆ 75 วัน สำหรับแพร่เชื้อติดผู้คนทั่วโลก 500,000 รายแรก แต่สำหรับ 500,000 คนหลังสุดนั้น มันใช้เวลาแพร่เชื้อเพียงแค่ 6 วันเท่านั้น
นับตั้งแต่เคสผู้ติดเชื้อ 45 รายแรกได้รับการยืนยันเมื่อวันที่ 10 มกราคม จนถึงตอนนี้หลังผ่านไปราวๆ 3 เดือน จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่า 70,000 คนในแต่ละวันในเดือนเมษายน
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกพบว่า หากนำโควิด-19 ไปเปรียบเทียบกับไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลนั้น จะพบว่ามีผู้ป่วยอาการรุนแรงจากไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลถึงปีละราวๆ 3 ถึง 5 ล้านคน และจากจำนวนผู้ป่วยนี้ได้มีงานวิจัยประเมินว่าน่าจะมีผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่ปีละ 389,000 คน
ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อที่แท้จริงของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ น่าจะสูงกว่าที่รายงานกันในปัจจุบัน แต่จำนวนก็ยังคงห่างไกลจากไข้หวัดสเปน ซึ่งเริ่มแพร่ระบาดในปี 1918 และมีผู้ติดเชื้อราวๆ 500 ล้านคนทั่วโลก
แม้จำนวนผู้ติดเชื้อในโรคระบาดใหญ่ปัจจุบันยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่พบเห็นสัญญาณการแพร่ระบาดที่ชะลอตัวลงในหลายประเทศซึ่งบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์
ในช่วงต้นเดือนเมษายน ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในอัตราราวๆ 8-9% ต่อวัน ทว่านับตั้งแต่นั้นมันได้ชะลอตัวลงเหลืออยู่ระหว่าง 3%-4% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ยุโรป ยังเป็นอีกหนึ่งแก่นกลางของการแพร่ระบาดนอกเหนือจากสหรัฐฯ โดยมีรายงานพบผู้ติดเชื้อแล้วมากกว่า 1.1 ล้านคน ในนั้นเกือบ 400,000 คนอยู่ในสเปน และอิตาลี สองชาติที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุด ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตสะสมใน 2 ประเทศรวมกันแล้วคิดเป็นราวๆ 10% ของยอดรวมผู้เสียชีวิตในยุโรป
สถานการณ์ใน 5 อันดับแรกของยุโรปในวันอังคาร (21 เม.ย.) อันดับ 1 สเปน รายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,968 คน ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 204,178 คน ขณะเดียวกัน พบผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 430 คน ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 21,282 คน อันดับ 2 อิตาลี รายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,729 คน ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 183,957 คน พบผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 534 คน ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 24,648 คน
อันดับ 3 ของยุโรป ได้แก่ ฝรั่งเศส พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,667 คน ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 158,050 คน ผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 531 คน ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 20,796 คน อันดับ 4 เยอรมนี พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,109 คน ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 148,174 คน พบผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 99 คน ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 4,961 คน และอันดับ 5 สหราชอาณาจักร พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,301 คน ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 129,044 คน เสียชีวิตเพิ่มเติม 828 คน ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 17,337 คน
อเมริกาเหนือมีจำนวนผู้ติดเชื้อคิดเป็น 1 ใน 3 ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด แต่จนถึงตอนนี้ภูมิภาคแห่งนี้มีอัตราการเสียชีวิตโดยรวมระดับต่ำ โดยประเทศที่มีอัตราการติดเชื้อและเสียชีวิตในระดับสูงมีเพียงสหรัฐฯ และแคนาดา
ในสหรัฐฯ ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 811,478 คน และเสียชีวิตสะสม 44,752 คน สูงสุดในโลกทั้งสองกรณี โดยวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 25,985 คน เสียชีวิต 2,804 คน ถือเป็นสถิติใหม่ของจำนวนผู้เสียชีวิตในวันเดียว ส่วนแคนาดาจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 38,205 คน ในนั้นเสียชีวิต 1,831 คน
อย่างไรก็ตาม ที่น่าสนใจก็คือ ในละตินอเมริกาซึ่งพบว่ามีอัตราการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อสูงกว่าภูมิภาคอื่นๆ และแตะระดับเกือบๆ 100,000 คนแล้ว
