เอพี - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ยุติการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวของเขาอย่างกะทันหันเมื่อวันจันทร์ (11 พ.ค.) ภายหลังเขาประคารมกับ 2 นักข่าวหญิง ได้แก่ เว่ยเจี่ย เจียง แห่ง ซีบีเอสนิวส์ และ แคตลัน คอลลินส์ แห่งซีเอ็นเอ็น
เจียงถามทรัมป์ว่า ทำไมเขาจึงกำลังตอกย้ำมากเหลือเกินเกี่ยวกับจำนวนการตรวจทดสอบไวรัสโคโรนาที่ได้ดำเนินการไปแล้วในสหรัฐฯ
“ทำไมเรื่องนี้มีความสำคัญอะไรด้วยหรือ?” เจียง ถาม “ทำไมเรื่องนี้จึงกลายเป็นการแข่งขันในระดับโลกสำหรับท่าน ถ้าหากทุกๆ วันชาวอเมริกันยังคงสูญเสียชีวิตของพวกเขา และเราก็กำลังได้เห็นเคสใหม่ๆ เพิ่มขึ้นทุกๆ วัน?”
ทรัมป์ตอบว่า “พวกเขาก็กำลังมีการสูญเสียชีวิตในทุกหนทุกแห่งในโลกนะแหละ และบางทีคำถามนี้คุณควรไปถามจีนนะ อย่ามาถามผม เอาคำถามนี้ไปถามจีน”
เขาตัดบทโดยเรียกให้นักข่าวคนอื่นถามคำถามต่อไป แต่ยังไม่ได้รับการตอบสนองในทันที
“ท่านคะ ทำไมท่านจึงพูดยังงี้กับดิฉัน อย่างเป็นการเฉพาะเจะจงเลยเช่นนี้” เจียงถาม เจียงนั้นทำงานให้ซีบีเอสนิวส์ (ฝ่ายข่าวของเครือข่ายโทรทัศน์ซีบีเอสของสหรัฐฯ) มาตั้งแต่ปี 2015 เธอเกิดที่เมืองเซี่ยเหมิน ประเทศจีน และอพยพมาอยู่สหรัฐฯพร้อมกับครอบครัวของเธอตั้งแต่เธออายุ 2 ขวบ
ทรัมป์กล่าวว่า เขาจะพูดอย่างนั้นกับ “ใครก็ตามที่ถามคำถามน่าสะอิดสะเอียน”
“มันไม่ได้เป็นคำถามน่าสะอิดสะเอียน” เจียงบอก “ทำไมเรื่องนั้นท่านจึงถือเป็นเรื่องสำคัญคะ?”
ทรัมป์ถามอีกว่าใครมีคำถามอื่นอีกไหม จากนั้นก็บอกว่า “ม่าย งั้นก็โอเค” และโบกมือไล่ คอลลินส์ ของซีเอ็นเอ็น เมื่อเธอเดินตรงมาที่ไมโครโฟน
“ท่านชี้มาที่ดิฉัน” คอลลินส์ กล่าวท้วงติง
ประธานาธิบดีพูดตอบว่า “ผมชี้ไปที่คุณ แต่คุณไม่ได้ตอบสนองอะไรนี่” คอลลินส์อธิบายว่าเธอกำลังให้เวลาเจียงสำหรับจบการซักถามของเธอ
“ดิฉันขอถามคำถามได้ไหม?” คอลลินส์กล่าว
พอถึงตรงนี้ ทรัมป์ก็บอกยุติการแถลงข่าว ซึ่งจัดขึ้นที่สวนกุหลาบของทำเนียบขาว แล้วเดินจากไป
เจียง กับ คอลลินส์ ต่างสวมหน้ากากอนามัยขณะเข้าร่วมรับฟังการแถลงข่าว เช่นเดียวกับผู้สื่อข่าวส่วนใหญ่ ภายหลังจากมีรายงานเมื่อเร็วๆ นี้ว่า มีพนักงานลูกจ้าง 2 คนของทำเนียบขาว --คนหนึ่งเป็นผู้ช่วยอาวุโสของรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ อีกคนหนึ่งเป็นทหารทำหน้าที่เป็นคนรับใช้ชายของ (valet) ประธานาธิบดี— มีผลตรวจไวรัสโคโรนาออกมาเป็นบวก