xs
xsm
sm
md
lg

‘ทรัมป์’ยอมรับอ้อมๆ ‘รองปธน.’อยู่รหว่างกักตัว ‘ทำเนียบขาว’หวั่นหลังป่วยหลายคน สั่งจนท.สวมหน้ากาก

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ขณะแถลงข่าวเรื่องไวรัสโคโรนา ที่สวนกุหลาบ ของทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ (11 พ.ค.)
เอเจนซีส์ – “ทรัมป์”คลายกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มไวรัสโคโรนาระบาดในทำเนียบขาว แต่ยอมรับว่า อาจจำกัดการติดต่อกับรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ เวลาเดียวกันทำเนียบขาวสั่งเจ้าหน้าที่ทุกคนสวมหน้ากากเมื่อเข้าสู่เขต “เวสต์วิง” ในอีกด้านหนึ่ง ผู้นำสหรัฐฯ ยังปิดการแถลงข่าวดื้อๆ หลังปะทะคารมกับผู้สื่อข่าวหญิงเชื้อสายจีนเกี่ยวกับการรับมือไวรัสโคโรนา

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่สวมหน้ากากป้องกันระหว่างการแถลงข่าวที่สวนกุหลาบ “โรสการ์เด้น” ในทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ (11 พ.ค.) เพื่อโน้มน้าวให้ประชาชนมั่นใจว่า อเมริกากำลังสามารถคลายมาตรการล็อกดาวน์และเปิดเมืองอย่างปลอดภัย แต่เวลาเดียวกันก็บอกเป็นนัยว่า รองประธานาธิบดีเพนซ์ อยู่ระหว่างการกักกันตัวเอง หลังจาก เคที มิลเลอร์ โฆษกประจำตัว ของเขา ตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 เมื่อสัปดาห์ที่แล้วพร้อมกับพลทหารอีกนายที่ทำงานรับใช้ทรัมป์ในทำเนียบขาว

ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา 3 แพทย์ใหญ่ของสหรัฐฯซึ่งต่างเป็นสมาชิกในทีมเฉพาะกิจรับมือไวรัสโคโรนา ต่างสมัครใจกักกันตัวเองเช่นกัน ได้แก่ แอนโธนี ฟาวซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ, โรเบิร์ต เรดฟิลด์ ผู้อำนวยการศูนย์เพื่อการควบคุมและการป้องกันโรคติดต่อ (ซีดีซี) และสตีเฟน ฮาห์น ผู้ว่าการสำนักงานอาหารและยา (เอฟดีเอ)

แม้ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โฆษกของเพนซ์ปฏิเสธว่า รองประธานาธิบดีไม่ได้กักตัว แต่ทรัมป์กลับส่งสัญญาณตรงกันข้ามหลังจากถูกถามว่า จะจำกัดการติดต่อกับเพนซ์หรือไม่ โดยตอบว่า อาจมีการพูดคุยกันบ้าง แต่ยังไม่ได้พบกันเลยตั้งแต่เพนซ์กักตัว แม้ผลตรวจหาเชื้อออกมาเป็นลบก็ตาม

ทรัมป์ยังพยายามคลายความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ไวรัสโคโรนาจะระบาดในส่วนเวสต์วิงของทำเนียบขาวที่มีห้องทำงานรูปไข่ของประธานาธิบดีตั้งอยู่ โดยบอกว่า เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ที่เข้าออกในบริเวณดังกล่าว รวมถึงเข้าไปในห้องทำงานของตนจะได้รับการตรวจหาเชื้อก่อน

อย่างไรก็ตาม นอกจากมีห้องทำงานประธานาธิบดีแล้ว พื้นที่เวสต์วิงยังค่อนข้างแออัดทำให้เป็นอุปสรรคต่อการเว้นระยะห่างทางสังคม

พื้นที่ส่วนนี้ของทำเนียบขาวยังมีห้องทำงานของที่ปรึกษาที่ใกล้ชิดทรัมป์ที่สุดบางคน ห้องแถลงข่าว ห้องทำงานของผู้สื่อข่าวที่เบียดเสียด ถึงขนาดที่เควิน แฮสเส็ตต์ ที่ปรึกษาอาวุโสด้านเศรษฐกิจของทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกสยองเวลาไปทำงาน และคิดว่า อยู่บ้านปลอดภัยกว่า แม้ที่เวสต์วิงมีอุปกรณ์ตรวจสอบหาผู้ติดเชื้อและทีมแพทย์ที่เก่งที่สุดในโลกก็ตาม

สื่อมวลชนสหรัฐฯรายงานวันจันทร์ว่า ทำเนียบขาวยังได้ออกบันทึกความเข้าใจสั่งให้เจ้าหน้าที่ทุกคนสวมหน้ากากเมื่อเข้าสู่เวสต์วิง และถอดได้เมื่ออยู่ในห้องทำงานของตัวเองหรืออยู่ห่างจากเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ อย่างน้อย 2 เมตร

คำสั่งดังกล่าวเห็นได้ชัดว่า ไม่ครอบคลุมทรัมป์ วัย 73 ปี ที่ไม่ยอมสวมหน้ากากในที่สาธารณะ โดยบอกว่า หน้ากากมีทั้งข้อดีและข้อเสีย

เขาสำทับว่า อเมริกามีความคืบหน้าในการตรวจหาผู้ติดเชื้อและจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงอย่างรวดเร็ว และเสริมว่า ประชาชนต้องการให้เปิดประเทศ

เว่ยเจี่ย เจียง นักข่าวประจำทำเนียบขาวของเครือข่ายโทรทัศน์ซีบีเอส นิวส์ ดึงหน้ากากอนามัยของเธออกมา ภายหลังถามประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ในการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาว เมื่อวันจันทร์ (11 พ.ค.)
ทว่า ผู้นำสหรัฐฯ ยุติการแถลงข่าวกะทันหันในวันเดียวกัน หลังจากโต้ตอบกับเว่ยเจี่ย เจียง ผู้สื่อข่าวหญิงเชื้อสายจีนของเครือข่ายโทรทัศน์ซีบีเอส นิวส์ ที่ถามจี้ใจดำว่า เหตุใดจึงยืนยันว่า อเมริการับมือไวรัสโคโรนาได้ดีกว่าประเทศอื่นในแง่การตรวจหาผู้ติดเชื้อ ทั้งที่คนอเมริกันยังเสียชีวิตเพิ่มขึ้นทุกวัน

ทรัมป์ตอบว่า “คนตายเพราะไวรัสทั่วโลก” และโบ้ยให้เว่ยเอาคำถามนี้ไปถามจีน จึงถูกนักข่าวหญิงถามกลับว่า ทำไมถึงเฉพาะเจาะจงพูดเรื่องนี้กับตน และประมุขสหรัฐฯ ตอบว่า เขาพูดแบบนี้กับทุกคนที่ถามคำถามน่าสะอิดสะเอียน ก่อนจบการแถลงข่าวดื้อๆ

ปรากฏว่าโลกออนไลน์ออกมาให้กำลังใจเจียงอย่างรวดเร็ว ทำให้แฮชแท็ก #StandWithWeijiaJiang ติดเทรนด์ทวิตเตอร์

เอพริล ไรอัน ผู้สื่อข่าวและนักวิเคราะห์การเมืองของซีเอ็นเอ็นที่เคยเจอฤทธิ์เดชทรัมป์มาก่อน ทวิตว่า “ขอต้อนรับเข้ากลุ่ม! น่าคลื่นไส้ นี่ล่ะนิสัยเขา!”

ทรัมป์ที่ไม่เคยเก้อเขินเกี่ยวกับการรังเกียจสื่อของตัวเอง ได้ปะทะกับนักข่าวบ่อยครั้งระหว่างการแถลงข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์โรคระบาด ซึ่งจากข้อมูลล่าสุดของมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ ระบุว่า อเมริกามีผู้เสียชีวิตกว่า 80,000 คน และติดเชื้อกว่า 1.3 ล้านคนในขณะนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น