เอเจนซีส์ – องค์การอนามัยโลก (ฮู) ยกย่องความคืบหน้าในการรับมือไวรัสทั่วโลก แต่กำชับให้เฝ้าระวังการระบาดรอบสองอย่างเต็มที่ สอดคล้องกับที่ผู้เชี่ยวชาญชื่อดังของอเมริกาเตือนว่า การเร่งเปิดเมืองนอกจากทำให้มีผู้ป่วยและเสียชีวิตเพิ่มโดยไม่จำเป็นแล้ว ยังบ่อนทำลายความพยายามในการรีสตาร์ทเศรษฐกิจ ทางด้านจีนสั่งลุยตรวจชาวเมืองอู่ฮั่นทั้ง 11 ล้านคนหลังพบเคสใหม่เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ไวรัสโคโรนาทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 285,000 คน และติดเชื้อกว่า 4.1 ล้านคนทั่วโลกในขณะนี้
เทดรอส อัดดานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ตั้งข้อสังเกตในการแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ (11 พ.ค.) ว่า อัตราการติดเชื้อในหลายประเทศเริ่มลดลงอันเป็นผลจากมาตรการล็อกดาวน์นานหลายสัปดาห์
กระนั้น ไมเคิล ไรอัน ผู้อำนวยการฝ่ายสถานการณ์ฉุกเฉินของฮู เตือนเกี่ยวกับการระบาดรอบสอง และแสดงความผิดหวังที่รัฐบาลบางประเทศเพิกเฉยต่อจุดบอดนี้ ด้วยการไม่รีบเพิ่มศักยภาพในการตรวจสอบหาผู้ติดเชื้อและติดตามผู้สัมผัสโรค
คำเตือนนี้สอดคล้องกับท่าทีของแอนโธนี ฟาวซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อและที่ปรึกษาระดับสูงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เตรียมไปให้การต่อคณะกรรมาธิการวุฒิสภาในวันอังคาร (12) โดยมีรายงานข่าวว่าเขาจะไปเตือนว่า หากเปิดเมืองเร็วเกินไป อาจมีผู้ได้รับผลกระทบและล้มตายเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น และอเมริกาเสี่ยงที่จะเผชิญการระบาดในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ รวมทั้งทำให้ความพยายามในการฟื้นสภาวะปกติถอยหลังลงคลอง
ช่วงไม่กี่วันมานี้หลายพื้นที่ในอเมริกาที่ถือเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดเริ่มเปิดเมืองทั้งที่มีคำเตือนว่า ยังไม่สามารถควบคุมการระบาดได้อย่างสมบูรณ์
นอกจากนั้นแม้มีข่าวดีออกมาในวันจันทร์ (11) ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตในช่วง 24 ชั่วโมงล่าสุดอยู่ที่ 830 คน ถือเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันที่ตัวเลขต่ำกว่า 900 คน ทว่า ยอดผู้เสียชีวิตรวมในอเมริกาล่าสุดทะลุ 80,000 คน และตัวเลขจริงอาจสูงกว่านี้มาก
โดยผลศึกษาของศูนย์กลางเพื่อการควบคุมและการป้องกันโรคติดต่อ (ซีดีซี) ของอเมริการะบุว่า จำนวนผู้เสียชีวิตในนิวยอร์กอาจสูงกว่ารายงานของทางการราว 30%
กระนั้น อีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าชื่อดัง เทสลา ประกาศว่า จะฝ่าฝืนกฎของรัฐแคลิฟอร์เนียและเปิดโรงงานผลิตอีกครั้งในวันจันทร์ สะท้อนกระแสการประท้วงต่อต้านการล็อกดาวน์ที่เกิดขึ้นทั่วอเมริกา รวมทั้งในหลายประเทศ ขณะที่มีข้อมูลใหม่ตอกย้ำว่า ผู้คนทั่วโลกกำลังแบกรับความเจ็บปวดทางเศรษฐกิจจากมาตรการรับมือการระบาด
วันอังคาร ฝรั่งเศสรายงานว่า กิจกรรมเศรษฐกิจประจำเดือนเมษายนดิ่งลง 27% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโรคระบาด
สำหรับที่ญี่ปุ่น โตโยต้า มอเตอร์ คาดว่า กำไรจากการดำเนินงานประจำปีการเงินปัจจุบันจะทรุดลง 79.5% อันเป็นผลกระทบที่ครอบคลุมและร้ายแรงจากโควิด-19
ขณะที่ เดวิด คัลฮูน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของบริษัทโบอิ้งในสหรัฐฯ ตอบผู้สื่อข่าวที่ถามว่า ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้าจะมีสายการบินชั้นนำของอเมริกาล้มละลายหรือไม่ว่า มีแนวโน้มมากที่สุด โดยจะมีบางสิ่งเกิดขึ้นในเดือนกันยายน พร้อมระบุว่า การเดินทางทางอากาศจะไม่ฟื้นตัว 100% หรือแม้แต่ 25% ยังเป็นไปไม่ได้
ที่จีน สื่อของทางการรายงานเมื่อวันอังคารว่า อู่ฮั่น เมืองที่เป็นจุดเริ่มต้นของการระบาดของไวรัสโคโรนาเมื่อปลายปีที่แล้ว มีแผนปูพรมตรวจประชาชนทั้ง 11 ล้านคน หลังพบผู้ติดเชื้อใหม่เป็นครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์
ข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่ของเมืองได้สั่งการให้แต่ละเขตส่งแผนการดำเนินการภายในเที่ยงวันอังคารและจัดการให้มีการทดสอบกรดนิวคลิอิกเพื่อตรวจหาผู้ติดเชื้อภายใน 10 วัน แต่ไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า จะเริ่มต้นเมื่อใด
แผนการนี้มีขึ้นหลังจากอู่ฮั่นรายงานว่า พบการติดเชื้อแบบกลุ่มก้อนครั้งแรกนับจากยุติการล็อกดาวน์ที่กินเวลา 76 วัน เมื่อวันที่ 8 เมษายน โดยมีการรายงานเคสใหม่ 14 คน และ 17 คนในวันอาทิตย์และจันทร์ (10-11) ตามลำดับ
อย่างไรก็ดี ไม่พบเคสใหม่ในเมืองนี้ในวันอังคาร รวมทั้งไม่มีผู้เสียชีวิตเป็นวันที่ 27 ติดต่อกัน
นับจากที่โรคนี้ระบาดในเดือนธันวาคมจนถึงขณะนี้ มีผู้เสียชีวิตในอู่ฮั่น 3,869 คน จาก 4,633 คนทั่วประเทศ ส่วนยอดผู้ติดเชื้อทั้งหมดในจีนอยู่ที่ 82,919 คน
ปัจจุบัน จีนควบคุมการระบาดได้เป็นส่วนใหญ่ แต่ยังคงเฝ้าระวังการระบาดรอบสองขณะที่ทางการผ่อนคลายการล็อกดาวน์และมาตรการจำกัดต่างๆ ทั่วประเทศ