เอเอฟพี - รัฐบาลเกาหลีใต้จะส่งหน้ากากอนามัยจำนวน 1 ล้านชิ้น ไปยังอดีตทหารต่างชาติที่เคยร่วมรบในสงครามเกาหลี เพื่อแสดงความขอบคุณเนื่องในวาระครบ 70 ปีของสงคราม
สงครามเกาหลีซึ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงปี 1950-53 เป็นการสู้รบระหว่างเกาหลีใต้ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกองกำลังสหประชาชาติกับเกาหลีเหนือ ซึ่งมีทหารจีนหนุนหลัง สุดท้ายสงครามถูกระงับไว้ด้วยข้อตกลงหยุดยิง และยังไม่มีการทำสนธิสัญญาสันติภาพจนกระทั่งทุกวันนี้
ทหารและบุคลากรการแพทย์เกือบ 2 ล้านคน จากรัฐสมาชิกยูเอ็น 22 ประเทศ รวมถึงสหรัฐฯ อังกฤษ และ ตุรกี ได้เข้าร่วมในมหาสงครามครั้งนี้ และมีทหารล้มตายไปทั้งสิ้น 37,902 นาย บาดเจ็บอีก 103,460 นาย ตามสถิติจากรัฐบาลโซล
นับแต่นั้นมา เกาหลีใต้ได้พลิกฟื้นตัวจากสงครามและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นชาติที่มีเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 12 ของโลก และในปีนี้ซึ่งเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ก็ยังได้รับเสียงชื่นชมอย่างกว้างขวางว่ามีมาตรการควบคุมโรคที่ได้ผลดีจากการ “ติดตาม, ตรวจ และรักษา” อย่างครอบคลุม
“ทั้ง 22 ประเทศ ล้วนเผชิญความยากลำบากจากไวรัสโคโรนา และมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องจัดส่งหน้ากากอนามัยไปช่วยปกป้องเหล่าทหารผ่านศึกซึ่งเวลานี้มีอายุเฉลี่ย 88 ปีกันแล้ว และเป็นกลุ่มที่เปราะบางต่อเชื้อไวรัส” กระทรวงกิจการทหารผ่านศึกและผู้รักชาติของเกาหลีใต้ ระบุในถ้อยแถลง
หน้ากากอนามัยที่จะจัดส่งไปนี้ “ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความสำนึกบุญคุณในสิ่งที่เกาหลีใต้เคยได้รับเมื่อ 70 ปีที่แล้ว”
โครงการนี้ได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษจากรัฐบาลเกาหลีใต้ เนื่องจากขณะนี้ยังคงมีคำสั่งห้ามส่งออกหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันปัญหาขาดแคลน
หน้ากากอนามัยราวครึ่งหนึ่งจะถูกส่งไปยังสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นชาติพันธมิตรรายใหญ่ โดยทหารอเมริกันคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 90% ของกองกำลังสหประชาชาติในสงครามเกาหลี
สถานทูตเกาหลีใต้ในแต่ละประเทศจะทำหน้าที่แจกจ่ายหน้ากากอนามัยไปยังอดีตทหารผ่านศึก 400,000 นาย ที่ยังคงมีชีวิตอยู่
“เรามีแผนงานที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ แต่วิธีการหนึ่งก็คือ ให้เจ้าหน้าที่สถานทูตนำหน้ากากอนามัยไปส่งให้ที่บ้านของทหารแต่ละนาย หากสามารถทำได้” จาง ยังนัม เจ้าหน้าที่กระทรวงกิจการทหารผ่านศึก และผู้รักชาติของเกาหลีใต้ ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี