เอเจนซีส์ - ยอดตัวเลขผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯล่าสุดวันนี้ (29 เม.ย.) อยู่ที่ 58,355 คน แซงหน้าจำนวนทหารอเมริกันที่เสียชีวิตในสมัยสงครามเวียดนาม ติดเชื้อรวม 1,012,583 คน เกิดขึ้นหลังมีผู้เสียชีวิตจากโรคไวรัสโคโรนาเกือบ 70 คน ในศูนย์ทหารผ่านศึกรัฐแมสซาชูเซตส์ โฮลโยค (Holyoke Soldiers' Home) และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มจำนวนขึ้น พร้อมในค่ำวันอังคาร (28 เม.ย.) ผู้นำสหรัฐฯลงนามในคำสั่งป้องกันการผลิตปี 1950 ให้โรงงานผลิตเนื้อสัตว์เปิดทำการท่ามกลางวิกฤตโรคระบาด ที่มีพนักงานโรงงานผลิตเนื้อสัตว์ในสหรัฐฯราว 3,300 คน มีผลการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นบวก และตายไปแล้วจำนวน 20 ราย
บีบีซี สื่ออังกฤษรายงานวันนี้ (29 เม.ย.) ว่า ล่าสุด ค่ำวันอังคาร (28) ผู้นำสหรัฐฯได้ใช้กฎหมายป้องกันการผลิต (Defense Production Act) ปี 1950 หรือตั้งแต่สมัยสงครามเกาหลีออกคำสั่งให้โรงงานผลิตเนื้อทั่วประเทศ ยังเปิดต่อไปเพื่อให้สหรัฐฯยังคงมีเนื้อสัตว์ในการบริโภคช่วงวิกฤตการระบาดโรคไวรัสโคโรนา
ทั้งนี้ มีการประเมินว่า มีพนักงานโรงงานผลิตเนื้อสัตว์ในสหรัฐฯราว 3,300 คน มีผลการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นบวก และตายไปแล้วจำนวน 20 ราย
ซึ่งในเดือนที่ผ่านมา สหประชาชาติออกมาเตือนถึงภัยคุกคามฉุกเฉินต่อโครงสร้างซัปพลายอาหารโลก
โรงงานผลิตเนื้อสัตว์ทั่วเขตมิดเวสต์ของสหรัฐฯ จำนวน 22 แห่ง ปิดระหว่างการระบาด ซึ่งรวมไปถึงโรงฆ่าสัตว์ที่มีเจ้าของเป็นผลิตเนื้อสัตว์รายใหญ่สุดของประเทศ ได้แก่ บริษัท สมิธฟิลด์ ฟู๊ดส์ (Smithfield Foods) บริษัท ไทสัน ฟู๊ดส์ (Tyson Foods) บริษัท คาร์กิล (Cargill) และบริษัท JBS USA.
ทำเนียบขาวออกมาเปิดเผยว่า “การปิดเช่นนั้นกระทบต่อซัปพลายเชนขบวนการผลิตอย่างต่อเนื่องของเนื้อสัตว์และสัตว์ปีกของประเทศ เป็นภัยคุกคามต่อระบบโครงสร้างพื้นฐานสำคัญระหว่างภาวะฉุกเฉินทั่วสหรัฐฯ” รายงานจากคำสั่งทางบริหารของประธานาธิบดีสหรัฐฯ
และในคำสั่งยังกล่าวต่อว่า “จากยอดโวลูมของผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และสัตว์ปีกที่ผ่านกระบวนการของหลายโรงงาน การปิดโดยที่ไม่จำเป็นอาจส่งผลกระทบมหาศาลอย่างรวดเร็วต่อโครงสร้างสายส่งอาหารได้”
สหภาพโรงงานเนื้อสัตว์สหรัฐฯ UFCW (United Food and Commercial Workers International Union) ซึ่งใหญ่ที่สุดในประเทศออกมาชี้ว่า การนำกฎหมายป้องกันการผลิตปี 1950 ออกมาใช้จะเป็นเกราะกำบังทางกฎหมายให้กับบริษัทในกรณีที่พนักงานในโรงงานติดไวรัสโควิด-19 ในโรงงาน
ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯล่าสุดประจำวันพุธ (29) อ้างอิงจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ อยู่ที่ 58,355 คน แซงหน้าจำนวนทหารอเมริกันที่เสียชีวิตในสมัยสงครามเวียดนามที่มีราว 58,000 นายโดยประมาณ ส่วนตัวเลขติดเชื้อ 1,012,583 คน ส่วนผู้เสียชีวิตรวมทั่วโลกอยู่ที่ 217,212 คน อิตาลีมีจำนวนผู้เสียชีวิต 27,359 คน ติดเชื้อรวมทั่วโลก 3,117,880 คน
เอพีรายงานว่า ศูนย์ดูแลทหารผ่านศึกสหรัฐฯ โฮลโยค (Holyoke Soldiers' Home) ซึ่งเป็นของรัฐอยู่ในรัฐแมสซาชูเซสต์ซึ่งเป็นสถานดูแลอดีตทหารผ่านศึกผู้สูงวัย พบมีผู้เสียชีวิตเกือบ 70 ราย และมีแนวโน้มว่าตัวเลขจะสูงขึ้น
โดยในเวลานี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบว่าผู้ที่พักอยู่ด้านในนั้น ถูกปฏิเสธการรักษาอย่างเหมาะสมหรือไม่ รวมไปถึงอัยการประจำรัฐกำลังอยู่ในระหว่างการตัดสินใจว่าจะดำเนินคดีทางกฎหมายเพื่อเอาผิดหรือไม่
เอพีชี้ว่า มีอดีตทหารผ่านศึกสหรัฐฯจำนวน 68 คน ที่มีผลการตรวจเชื้อเป็นบวกได้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่กล่าวในวันอังคาร (28) และยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า มีอีกรายที่เสียชีวิตเกิดมาจากโรคโควิด-19 หรือไม่ และนอกจากนี้ ยังพบว่า มีผู้ที่พักอยู่อีก 82 คน และเจ้าหน้าที่ดูแลอีก 81 คน ล้วนมีผลการตรวจเชื้อไวรัสเป็นบวกทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม เบนเนตต์ วอลช์ (Bennett Walsh) ผู้กำกับการดูแลศูนย์ทหารผ่านศึกโฮลโยค ที่ถูกสั่งพักงานออกมาปฏิเสธความรับผิดชอบ โดยชี้ไปที่เจ้าหน้าที่รัฐที่อ้างอย่างผิดพลาดที่ไม่ตระหนักถึงขอบเขตของปัญหา
วอลช์ กล่าวเมื่อต้นเดือนนี้ว่า เจ้าหน้าที่รัฐแมสซาชูเซตส์รู้ว่าศูนย์ทหารผ่านศึกโฮลโยคอยู่ในขั้นวิกฤตในเรื่องการขาดกำลังเจ้าหน้าที่ และได้รับแจ้งบ่อยครั้งเกี่ยวกับการติดเชื้อด้านใน
โดย โจน มิลเลอร์ (Joan Miller) พยาบาลที่ทำงานอยู่ที่แห่งนี้ ชี้ว่า ปัญหาขาดกำลังเจ้าหน้าที่มาหลายปีได้ทำให้การแพร่กระจายไวรัสโคโรนานั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
หนังสือพิมพ์บอสตันโกลบ รายงานว่า สถานการณ์ภายในบ้านพักดูแลเวลานี้อยู่ในการควบคุม เพราะมีอดีตทหารผ่านศึกจำนวนไม่มากนักยังคงอาศัยอยู่ด้านใน โดยช่วงปลายเดือนมีนาคมมีผู้อาศัยอยู่เกือบ 230 คน และในวันจันทร์ (27) มีอยู่แค่ราว 100 คนเท่านั้น
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา พบว่า รัฐบาลของผู้ว่าการรัฐแมสซาชูเซตส์จากพรรครีพับลิกัน ชาร์ลี เบเกอร์ (Charlie Baker) ได้จากทนายความคนนอกให้มาทำการสอบสวนสาเหตุการเสียชีวิต ส่วนอัยการประจำรัฐแมสซาชูเซตส์ มอยรา ฮีลลีย์ (Maura Healey) สอบสวนว่ามีการกระทำผิดเกิดขึ้นภายในศูนย์ทหารผ่านศึกโฮลโยคหรือไม่ เพื่อดำเนินคดีเอาผิดต่อไป