เอเจนซีส์ - จำนวนผู้เสียชีวิตโควิด-19 ทั่วโลกวันนี้ (28 เม.ย.) อยู่ที่ 3,042,444 คน เสียชีวิตรวม 211,221 คน ขณะที่สหรัฐฯดับ 56,253 ราย ติดเชื้อ 988,469 ราย ผู้นำสหรัฐฯออกมายืนยันเมื่อวานนี้ (27 เม.ย.) ว่า ไม่รับผิดชอบหลังมียอดชาวอเมริกันใช้สารเคมีฆ่าเชื้อโรคสำหรับทำความสะอาดอย่างไม่เหมาะสม หลังในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์ออกไอเดียให้ฉีดสารที่ว่าเข้าร่างกายเพื่อทำความสะอาดปอด ส่วนอินเดียสุดเก๋ แจกร่มจำนวน 10,000 คัน ให้ประชาชนหมู่บ้านแห่งหนึ่งในรัฐเกรละใช้เพื่อรักษาระยะห่างทางสังคมตามมาตรการนิวเดลี
CNN สื่อสหรัฐฯรายงานวันนี้ (28 เม.ย.) ว่า อ้างอิงจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ พบว่า จำนวนผู้เสียชีวิตโควิด-19 ทั่วโลกวันนี้ (28 เม.ย.) อยู่ที่ 3,042,444 คน เสียชีวิตรวม 211,221 คน ขณะที่สหรัฐฯดับ 56,253 ราย เสียชีวิตมากกว่า 1 ใน 4 ของตัวเลขผู้เสียชีวิตทั่วโลก ติดเชื้อ 988,469 ราย โดยมีจำนวนผู้เสียชีวิตในเมืองนิวยอร์ก ซิตีที่ 17,515 ราย สูงสุดในประเทศ
ทั้งนี้ พบว่า เฟสแรกของการผ่อนคลายการปิดเมืองของรัฐนิวยอร์ก คาดว่า จะสามารถเริ่มได้หลังจากวันที่ 15 พ.ค.ในบางพื้นที่ อ้างอิงจากผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก แอนดรูว์ โคโม
ส่วนองค์การอนามัยโลก WHO ออกมาเตือนว่า อย่าเพิ่งวางใจในวิกฤตโรคระบาด เพราะมีแนวโน้มที่จะเห็นตัวเลขเพิ่มขึ้นในแอฟริกา ยุโรปตะวันออก ละตินอเมริกา และบางส่วนของเอเชีย
ขณะที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สร้างสีสันให้กับการแถลงข่าวโควิด-19 และล่าสุด ในวันจันทร์ (27) ผู้นำสหรัฐฯออกมายืนยันกับนักข่าวหลังถูกถาม โดยยืนยันว่า เขาจะไม่รับผิดชอบต่อจำนวนที่เพิ่มขึ้นของประชาชนชาวอเมริกันที่ใช้สารเคมีฆ่าเชื้อโรคสำหรับการทำความสะอาดอย่างไม่เหมาะสม หลังในการแถลงข่าวสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์ออกมาให้คำแนะนำอย่างเป็นอันตรายต่อประชาชน ว่า คิดว่าน่าจะลองใช้น้ำยาทำความสะอาดเหล่านี้ฉีดเข้าร่างกายเพื่อรักษาโรคไวรัสโคโรนา รวมถึงทรัมป์ยังมีแนวคิดให้นำแสงเข้าไปภายในร่างกายเพื่อส่องฆ่าเชื้อโรค
โดยนักข่าวได้ถามผู้นำสหรัฐฯถึงการเพิ่มจำนวนขึ้นของผู้ใช้ ทำให้ทรัมป์ตอบกลับมาว่า “ผมไม่รู้ว่าทำไม” และเมื่อทางนักข่าวถามต่อว่าจะรับผิดชอบต่อจำนวนที่เพิ่มขึ้นหรือไม่ ทรัมป์กล่าวว่า “ไม่ ผมไม่รับ”
ทั้งนี้ ในวันอาทิตย์ (26) ผู้ว่าการรัฐแมรีแลนด์จากพรรครีพับลิกัน แลร์รี โฮแกน (Larry Hogan) ออกมาเปิดเผยว่า มีคนในรัฐร่วมหลายร้อยคนได้โทรศัพท์มาสอบถามว่า การกินหรือการฉีดสารเคมีฆ่าเชื้อนั้นจะช่วยฆ่าไวรัสโควิด-19 ได้หรือไม่
โฮแกนกล่าวแสดงความคิดเห็นว่า ท่ามกลางความวิตกของประชาชนต่อโรคระบาดที่ลามไปทั่วโลก ในการแถลงข่าวของประธานาธิบดีสหรัฐฯสมควรที่ต้องแสดงให้เห็นถึงข้อเท็จจริง
ส่วนรัฐอิลลินอยส์ออกมาเปิดเผยคล้ายกันว่า มีสายโทรศัพท์จำนวนมากโทรมาสอบถามตามคำแนะนำของประธานาธิบดีสหรัฐฯ รวมไปถึงมีคำถามที่ว่า สามารถใช้ผงซักฟอกละลายน้ำผสมน้ำเกลือเพื่อล้างจมูกสำหรับโรคไซนัสได้หรือไม่ ส่วนอีกรายต้องการใช้น้ำยาฟอกผ้าขาวผสมเจือจางเพื่อบ้วนปากสำหรับฆ่าไวรัสโควิด-19 แทนลิสเตอร์รีน
ขณะเดียวกัน อินเดียที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตล่าสุดเกือบพันราย อ้างอิงจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ โดยอยู่ที่ 939 ราย และจำนวนผู้ติดเชื้อล่าสุดที่ 29,451 ราย
สำนักข่าวซินหัวของจีน กระทรวงสาธารณสุขอินเดียแถลงวันนี้ (26) ว่า มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 1,055 คน และเสียชีวิตใหม่อีก 48 ราย คำสั่งปิดตายทั่วประเทศของอินเดียครบวันที่ 35 ในวันอังคาร (28) เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด โดยถูกใช้ครั้งแรกในวันที่ 25 มี.ค และได้ถูกขยายใช้ต่อไปจนถึงวันที่ 3 พ.ค
CNN รายงานเมื่อวานนี้ (27) ว่า ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในรัฐเกรละของอินเดียออกไอเดียเก๋ในการบังคับมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมด้วยการแจกร่มจำนวน 10,000 คัน
พีเอส จโยติ (PS Jyothi) ประธานสภาหมู่บ้านธานเนอร์มุคคอม (Thannermukkom) กล่าวถึงในเรื่องนี้ว่า “เราหวังว่าเมฆหมอกของวิกฤตโควิด-19 จะหายไปในไม่ช้า แต่ในระหว่างช่วงหน้าร้อนและไม่กี่วันที่ฝนกำลังจะมา ขอให้เรารักษาระยะห่างทางสังคมด้วยการกางร่ม”
เขาเสริมว่า เป็นไอเดียที่ให้ชาวหมู่บ้านรักษาระยะห่างระหว่างกันอย่างน้อย 1 เมตร ด้วยการกางร่ม ซึ่งนอกเหนือจากร่มขนาดใหญ่ที่จะแจกฟรีแล้วยังรวมไปถึงหน้ากากอีก 2 ชิ้นอีกด้วยเรียกเสียงฮือฮาไปทั่ว
ภายใต้โครงการนำร่องคูดุมบาชรี (Kudumbashree) ของรัฐเกรละ ได้มีการระดมกำลังกลุ่มสตรีเพื่อเย็บหน้ากาก 100,000 ชิ้น เพื่อให้ผู้หญิงในท้องที่ร่วมกำลังในการต่อสู้กับวิกฤตโรคระบาด
นอกจากนี้ รัฐเกรละยังตั้งตู้ตรวจโควิด-19 ซึ่งจะรวบรวมตัวอย่างสารคัดหลั่งในร่างกายเป็นต้นว่า จมูก ที่ผู้ที่เข้ารับบริการสามารถเดินมาใช้บริการได้ถึงที่ทันใจโดยเริ่มกันมาตั้งแต่ต้นเดือนนี้
และที่โรงพยาบาลในรัฐเกรละยังได้มีการใช้หุ่นยนต์ในการส่งยาและอาหารแก่ผู้ป่วยในหอผู้ป่วยกักกันโรคเพื่อลดการสัมผัสจากมนุษย์
ทั้งนี้ รัฐเกรละถือเป็นรัฐแรกในอินเดียที่พบการติดเชื้อเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ยอดติดเชื้อรวมปัจจุบันอยู่ที่ 481 คน หายป่วย 355 คน และเสียชีวิต 4 ราย
