เอเจนซีส์ – ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกออกมาประณามผู้นำสหรัฐฯล่าสุดที่แนะนำให้ฉีดสารเคมีฆ่าเชื้อโรคประเภทสารฟอกขาวเข้าสู่ปอดเพื่อทำความสะอาดปอดนั้นอาจทำให้ผู้ป่วยถึงตาย ส่งผลให้บริษัทเช่น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเช่น ไลซอล(Lysol)ออกมาเตือนทางเว็บไซต์ห้ามทำตามเด็ดขาด
หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้ (24 เม.ย) แพทย์ทั่วโลกต่างออกมาเตือนถึงอันตรายที่อาจถึงเสียชีวิตหากทำตามคำแนะนำของผู้นำสหรัฐฯ
เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากระหว่างการแถลงข่าวประจำวันในวันพฤหัสบดี(23)ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้เสนอแนะวิธีรักษาไวรัสโคโรนาที่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ร่วมตกใจว่า “และที่ผมเห็นว่าสารเคมีฆ่าเชื้อโรค (disinfectant) มันจะสามารถจัดการได้ภายในแค่นาทีเดียว” และชี้ว่า “หนึ่งนาที! และนี่เป็นวิธีที่เราจะจัดการกับบางสิ่งด้วยการฉีดเข้าไปข้างในหรือการที่ทำความสะอาดเกือบทั้งหมด เพราะคุณจะเห็นว่ามันเข้าไปถึงในปอดและมันทำงานจำนวนมากในปอด ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจที่ต้องเช็กกันในเรื่องนี้ ดังนั้นคุณจำเป็นต้องใช้แพทย์ในเรื่องนี้ แต่มันน่าสนใจสำหรับผม”
ซึ่งในการแถลงข่าว ผู้นำสหรัฐฯไม่ได้เจาะจงไปถึงประเภทของสานเคมีที่ว่านี้
สื่ออังกฤษชี้ว่า ดร.เดบอราห์ เบิร์กซ์ (Dr Deborah Birx) ผู้เชี่ยวชาญซึ่งอยู่ร่วมในการแถลงข่าวกับทรัมป์เอาแต่นั่งเงียบ แต่โซเชียลมีเดียพากันแสดงความไม่พอใจและขบขันต่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่มีสถิติในการให้คำแนะนำที่ขัดแย้งกับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ครั้งแล้วครั้งเล่า
NBC News สื่อสหรัฐฯรายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบบหายใจ ดร. วิน กุปตา(Dr. Vin Gupta) ได้แสดงความเห็นคัดค้านในเรื่องนี้ทันที โดยกล่าวแสดงความเห็นว่า “เรื่องการฉีดหรือกินผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเพื่อให้เข้าสู่ร่างกายนั้นถือเป็นการไร้ความรับผิดชอบและยังเป็นอันตราย” และเขาเสริมต่อว่า “ถือเป็นวิธีการทั่วไปที่ผู้คนใช้มันเมื่อพวกเขาต้องการปลิดชีพตัวเอง”
ทั้งนี้พบว่าในเดือนที่ผ่านมามีชายชาวรัฐแอริโซนาเสียชีวิตหลังได้กลืนยาคลอโรควินฟอสเฟต(Chloroquine phosphate)โดยเชื่อว่ามันจะช่วยป้องกันจากการติดเชื้อไวรัสได้ ซึ่งภรรยาของชายผู้นี้ได้เปิดเผยกับ NBC News ว่า เธอได้ชมการแถลงข่าวสรุปไวรัสโคโรนาและมีประธานาธิบดีสหรัฐฯออกมาแถลงความมั่นใจถึงประโยชน์ของยาตัวนี้
ด้านโรเบิร์ต ริค( Robert Reich) ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายสาธารณะประจำมหาวิทยาลัย UC Berkeley และอดีตรัฐมนตรีแรงงานสหรัฐฯอดรนทนไม่ไหวต้องทวีตว่า “การแถลงข่าวของทรัมป์ทำอันตรายต่อระบบสุขภาพสาธารณะ ขอให้บอยคอตข่าวโคมลอย ฟังผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น และได้โปรดอย่าดื่มสารเคมีฆ่าเชื้อ”
NBC News สื่อสหรัฐฯชี้ว่า การออกมาให้คำแนะนำเรื่องใช้สารเคมีฆ่าเชื้อเพื่อทำความสะอาดปอดนั้นเกิดขึ้นหลังรักษาการผู้อำนวยการกรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีประจำกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิสหรัฐฯ บิล ไบรอัน (Bill Bryan) ออกมารายงานว่า การวิจัยชี้ไปว่าไวรัสจะอยู่ได้ไม่นานในอากาศที่อบอุ่นและชื้นขึ้น “ไวรัสตายอย่างรวดเร็วในแสงแดด” และส่งผลทำให้ผู้นำสหรัฐฯเกิดความสงสัยว่า จะสามารถนำแสงแดดเข้าไปภายในร่างกายได้หรือไม่ เพื่อให้แสงยูวีฆ่าเชื้อไวรัส
ผู้นำสหรัฐฯกล่าวกับไบรอันกลางงานแถลงข่าวว่า “หากสมมุติว่าเราให้ร่างกายถูกแสงจำนวนมหาศาลเช่น รังสีอุลตราไวโอเลตหรือแสงจำนวนมาก และผมคิดว่าคุณได้บอกว่ามันยังไม่มีการตรวจสอบเพราะการทดสอบ” และเขาชี้ว่า “ดังนั้นผมขอกล่าวว่า หากว่าคุณสามารถนำแสงเข้าไปในร่างกายคนได้ที่คุณอาจทำโดยผ่านทางผิวหนังหรืออย่างหนึ่งอย่างใด คุณพูดว่าคุณจะทำการทดลองในเรื่องนี้”
ด้านบริษัทผู้ผลิตผลิจภัณฑ์ทำความสะอาด ไลซอล (Lysol)ออกคำเตือนทันทีบนเว็บไซต์ในวันศุกร์(24)ว่า ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฉีดเข้าร่างกายหรือดื่มกิน
โดยบริษัท เรคคิตต์ เบนค์คิเซอร์ ( Reckitt Benckiser) ออกมาชี้แจงว่า ผลิตภัณฑ์ของบริษัทหลากหลายตั้งแต่สารเคมีฆ่าเชื้อโรคและสารทำความสะอาดจะต้องไม่เข้าสู่ร่างกายผ่านการฉีด กิน หรือวิธีทางหนึ่งทางใดเด็ดขาด CNN รายงาน
“เรามีความรับผิดชอบในการให้ข้อมูลที่ทันสมัยและถูกต้องแก่ผู้บริโภคตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญชั้นนำด้านสาธารณสุข” รายงานจากแถลงการณ์ของบริษัทเรคคิตต์ เบนค์คิเซอร์
CNNชี้ว่าที่ผ่านมาองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ FDA มักจะออกคำเตือนไม่ให้ดื่มสารฟอกขาว เช่น ผลิตภัณฑ์ไฮเตอร์ หรือแม้แต่สูดดมเข้าไป นอกจากนี้สารฟอกขาวสามารถทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังได้
ซึ่งในวันจันทร์(20) สำนักงานควบคุมโรคและการป้องกันสหรัฐฯ CDC ออกมาชี้ว่า มีโทรศัพท์ร้องเรียนเกี่ยวกับการเกิดพิษเนื่องมาจากผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหรือสารเคมีฆ่าเชื้อโรคกว่า 20% ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้เนื่องมาจากวิกฤตโรคไวรัสโคโรนา