ทรัมป์ประกาศภัยพิบัติทั้ง 50 รัฐ ทั่วสหรัฐฯ สุดฮือฮา! กว่า 2 ใน 3 ของผู้ป่วยหนักโควิด-19 ดีขึ้นหลังได้ยาทดลอง บ.ยาอเมริกัน
เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศภัยพิบัติโควิด-19 สำหรับรัฐไวโอมิง เมื่อวานนี้ (11 เม.ย.) กลายเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ที่มีการประกาศภัยพิบัติครบ 50 รัฐ ในเวลาเดียวกัน หลังสหรัฐฯมียอดดับสูงสุดในโลกที่ 20,608 คน ติดเชื้อ 529,951 คน และมีเคสตรวจเชื้อทั้งหมด 2,665,392 คน นิวยอร์ก ซิตี มีผู้ติดเชื้อสูงสุดที่ 6,367 คน ล่าสุด วารสารทางการแพทย์นิวอิงแลนด์ตีพิมวันศุกร์ (10 เม.ย.) พบผู้ป่วยวิกฤตไวรัสโคโรนามากกว่า 2 ใน 3 มีอาการดีขึ้นหลังรับยาทดลองบริษัท กิลลีด ไซเอนเซส อิงก์ สร้างความหวังไปทั่ว
ฟ็อกซ์นิวส์ สื่อสหรัฐฯรายงานเมื่อวานนี้ (11 เม.ย.) ว่า ผู้ช่วยเลขาด้านการสื่อสาร จั๊ดด เดียร์ (Judd Deere) ระบุว่า เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศภัยพิบัติทั้ง 50 รัฐ ในเวลาเดียวกัน
ความเคลื่อนไหวเกิดขึ้นหลังจากที่อ้างอิงจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ประจำวันอาทิตย์ (12) พบว่า สหรัฐฯมีตัวเลขผู้เสียชีวิตเป็นอันดับ 1 ของโลก ที่ 20,608 คน ติดเชื้อ 529,951 คน และมีเคสตรวจเชื้อทั้งหมด 2,665,392 คน นิวยอร์ก ซิตี มีผู้ติดเชื้อสูงสุดที่ 6,367 คน
สื่อสหรัฐฯชี้ว่า ยอดเสียชีวิตเพิ่มเป็น 2 เท่าอย่างรวดเร็ วภายในแค่ 5 วัน จาก 10,000 ราย มาถึง 20,000 รายล่าสุด ส่วนทั่วโลกมีจำนวนผู้ติดเชื้อรวม 1,777,666 คน และเสียชีวิต 108,867 คน
ขณะเดียวกัน รัสเซียพบจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานวันอาทิตย์ (12) ว่า โรงพยาบาลในกรุงมอสโก เห็นจำนวนผู้ป่วยไวรัสโคโรนาเข้ารับการรักษาเป็นจำนวนมาก หลังจากที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 100 ราย
ด้านโฆษกเครมลิน ดมิทรี เพสคอฟ แถลงผ่านการให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ ว่า “สถานการณ์ทั้งในกรุงเครมลิน และเมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก นั้น ตึงเครียด แต่ที่กรุงมอสโกนั้นเกิดขึ้นมากกว่า เป็นเพราะมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น”
และเสริมต่อว่า “มีการไหลเข้าของผู้ป่วย เราเห็นโรงพยาบาลต่างๆ ในกรุงมอสโกทำงานอย่างหนักในภาวะฉุกเฉินที่กล้าหาญ”
ทั้งนี้ พบว่า รัสเซียมีจำนวนผู้ติดเชื้อ108,867 คน และในวันเสาร์ (11) มีรายงานการเสียชีวิตเพิ่ม 12 ราย ส่งผลทำให้มียอดเสียชีวิตล่าสุดที่ 106 ราย
เพสคอฟเสริมว่า ในสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนมากขึ้นว่า รัสเซียใกล้จุดสูงสุดของการระบาดแล้วหรือไม่
ฟ็อกซ์นิวส์ รายงานว่า ไวโอมิงเป็นรัฐสุดท้ายที่ขอให้ผู้นำสหรัฐฯประกาศภัยพิบัติประกาศให้กับทางรัฐ โดยในวันพฤหัสบดี (9) ผู้ว่ารัฐไวโอมิง มาร์ค กอร์ดอน (Mark Gordon) ได้ยื่นหนังสืออย่างเป็นทางการส่งไปให้กับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อขอให้ประกาศภาวะฉุกเฉินหลังจากรัฐมีจำนวนผู้ติดเชื้อกว่า 200 รายในเวลานั้น
ซึ่งการประกาศภัยพิบัติที่ทรัมป์ได้ออกคำสั่งในวันเสาร์ (11) จะทำให้รัฐไวโอมิงสามารถนำเงินช่วยเหลือฉุกเฉินจากระดับรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นมาใช้ได้รวมไปถึงจากหน่วยงานไม่แสวงหาผลกำไร อ้างอิงจากทำเนียบขาว
เดอะการ์เดียน รายงานว่า ที่ผ่านมา ผู้นำสหรัฐฯต้องการผลักดันให้เปิดประเทศเพื่อที่จะให้เศรษฐกิจเดินหน้า แต่อย่างไรก็ตามในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวสในรายการ “ความยุติธรรมกับผู้พิพากษ์จินนีน (Jeanine)” เขายอมรับว่า
“ผมคิดว่า มันจะเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากที่สุดตั้งแต่ที่เคยมีมา และเป็นสิ่งยุ่งยากมากที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ทำ ผมหวังว่าผมคงจะตัดสินใจได้ถูกต้อง ผมจะตัดสินใจขึ้นอยู่กับผู้คนที่ชาญฉลาด บรรดาผู้เชี่ยวชาญ แพทย์และผู้นำทางธุรกิจ มีเป็นจำนวนมากที่จะเป็นปัจจัยในการตัดสินใจเช่นนั้น และมันจะขึ้นอยู่บนพื้นฐานของปัจจัยจำนวนมากและสัญชาตญาณ”
และเขาเสริมต่อว่า “ผู้คนต้องการกลับไป พวกเขาต้องการกลับไปทำงาน เราต้องเอาประเทศของเรากลับมา”
รอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้ (11) ว่า บริษัทยาสหรัฐฯ กิลลีด ไซเอนเซส อิงก์ (Gilead Sciences Inc) สร้างความหวังไปทั่วเกิดขึ้นหลังจากวารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์ชื่อดังได้ตีพิมพ์ผลงานการศึกษาในวันศุกร์ (10) ระบุว่า พบว่า มีผู้ป่วยขั้นวิกฤตมากกว่า 2 ใน 3 นั้น มีอาการดีขึ้นหลังได้รับยาทดลองของบริษัท อ้างอิงจากการเฝ้าสังเกตอาการผู้ป่วย
อย่างไรก็ตาม การศึกษาครั้งนี้ไม่ได้มีการเปิดเผยถึงวิธีการรักษาอื่นที่ผู้ป่วยจำนวน 61 คนได้รับ
เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศภัยพิบัติโควิด-19 สำหรับรัฐไวโอมิง เมื่อวานนี้ (11 เม.ย.) กลายเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ที่มีการประกาศภัยพิบัติครบ 50 รัฐ ในเวลาเดียวกัน หลังสหรัฐฯมียอดดับสูงสุดในโลกที่ 20,608 คน ติดเชื้อ 529,951 คน และมีเคสตรวจเชื้อทั้งหมด 2,665,392 คน นิวยอร์ก ซิตี มีผู้ติดเชื้อสูงสุดที่ 6,367 คน ล่าสุด วารสารทางการแพทย์นิวอิงแลนด์ตีพิมวันศุกร์ (10 เม.ย.) พบผู้ป่วยวิกฤตไวรัสโคโรนามากกว่า 2 ใน 3 มีอาการดีขึ้นหลังรับยาทดลองบริษัท กิลลีด ไซเอนเซส อิงก์ สร้างความหวังไปทั่ว
ฟ็อกซ์นิวส์ สื่อสหรัฐฯรายงานเมื่อวานนี้ (11 เม.ย.) ว่า ผู้ช่วยเลขาด้านการสื่อสาร จั๊ดด เดียร์ (Judd Deere) ระบุว่า เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศภัยพิบัติทั้ง 50 รัฐ ในเวลาเดียวกัน
ความเคลื่อนไหวเกิดขึ้นหลังจากที่อ้างอิงจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ประจำวันอาทิตย์ (12) พบว่า สหรัฐฯมีตัวเลขผู้เสียชีวิตเป็นอันดับ 1 ของโลก ที่ 20,608 คน ติดเชื้อ 529,951 คน และมีเคสตรวจเชื้อทั้งหมด 2,665,392 คน นิวยอร์ก ซิตี มีผู้ติดเชื้อสูงสุดที่ 6,367 คน
สื่อสหรัฐฯชี้ว่า ยอดเสียชีวิตเพิ่มเป็น 2 เท่าอย่างรวดเร็ วภายในแค่ 5 วัน จาก 10,000 ราย มาถึง 20,000 รายล่าสุด ส่วนทั่วโลกมีจำนวนผู้ติดเชื้อรวม 1,777,666 คน และเสียชีวิต 108,867 คน
ขณะเดียวกัน รัสเซียพบจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานวันอาทิตย์ (12) ว่า โรงพยาบาลในกรุงมอสโก เห็นจำนวนผู้ป่วยไวรัสโคโรนาเข้ารับการรักษาเป็นจำนวนมาก หลังจากที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 100 ราย
ด้านโฆษกเครมลิน ดมิทรี เพสคอฟ แถลงผ่านการให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ ว่า “สถานการณ์ทั้งในกรุงเครมลิน และเมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก นั้น ตึงเครียด แต่ที่กรุงมอสโกนั้นเกิดขึ้นมากกว่า เป็นเพราะมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น”
และเสริมต่อว่า “มีการไหลเข้าของผู้ป่วย เราเห็นโรงพยาบาลต่างๆ ในกรุงมอสโกทำงานอย่างหนักในภาวะฉุกเฉินที่กล้าหาญ”
ทั้งนี้ พบว่า รัสเซียมีจำนวนผู้ติดเชื้อ108,867 คน และในวันเสาร์ (11) มีรายงานการเสียชีวิตเพิ่ม 12 ราย ส่งผลทำให้มียอดเสียชีวิตล่าสุดที่ 106 ราย
เพสคอฟเสริมว่า ในสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนมากขึ้นว่า รัสเซียใกล้จุดสูงสุดของการระบาดแล้วหรือไม่
ฟ็อกซ์นิวส์ รายงานว่า ไวโอมิงเป็นรัฐสุดท้ายที่ขอให้ผู้นำสหรัฐฯประกาศภัยพิบัติประกาศให้กับทางรัฐ โดยในวันพฤหัสบดี (9) ผู้ว่ารัฐไวโอมิง มาร์ค กอร์ดอน (Mark Gordon) ได้ยื่นหนังสืออย่างเป็นทางการส่งไปให้กับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อขอให้ประกาศภาวะฉุกเฉินหลังจากรัฐมีจำนวนผู้ติดเชื้อกว่า 200 รายในเวลานั้น
ซึ่งการประกาศภัยพิบัติที่ทรัมป์ได้ออกคำสั่งในวันเสาร์ (11) จะทำให้รัฐไวโอมิงสามารถนำเงินช่วยเหลือฉุกเฉินจากระดับรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นมาใช้ได้รวมไปถึงจากหน่วยงานไม่แสวงหาผลกำไร อ้างอิงจากทำเนียบขาว
เดอะการ์เดียน รายงานว่า ที่ผ่านมา ผู้นำสหรัฐฯต้องการผลักดันให้เปิดประเทศเพื่อที่จะให้เศรษฐกิจเดินหน้า แต่อย่างไรก็ตามในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวสในรายการ “ความยุติธรรมกับผู้พิพากษ์จินนีน (Jeanine)” เขายอมรับว่า
“ผมคิดว่า มันจะเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากที่สุดตั้งแต่ที่เคยมีมา และเป็นสิ่งยุ่งยากมากที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ทำ ผมหวังว่าผมคงจะตัดสินใจได้ถูกต้อง ผมจะตัดสินใจขึ้นอยู่กับผู้คนที่ชาญฉลาด บรรดาผู้เชี่ยวชาญ แพทย์และผู้นำทางธุรกิจ มีเป็นจำนวนมากที่จะเป็นปัจจัยในการตัดสินใจเช่นนั้น และมันจะขึ้นอยู่บนพื้นฐานของปัจจัยจำนวนมากและสัญชาตญาณ”
และเขาเสริมต่อว่า “ผู้คนต้องการกลับไป พวกเขาต้องการกลับไปทำงาน เราต้องเอาประเทศของเรากลับมา”
รอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้ (11) ว่า บริษัทยาสหรัฐฯ กิลลีด ไซเอนเซส อิงก์ (Gilead Sciences Inc) สร้างความหวังไปทั่วเกิดขึ้นหลังจากวารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์ชื่อดังได้ตีพิมพ์ผลงานการศึกษาในวันศุกร์ (10) ระบุว่า พบว่า มีผู้ป่วยขั้นวิกฤตมากกว่า 2 ใน 3 นั้น มีอาการดีขึ้นหลังได้รับยาทดลองของบริษัท อ้างอิงจากการเฝ้าสังเกตอาการผู้ป่วย
อย่างไรก็ตาม การศึกษาครั้งนี้ไม่ได้มีการเปิดเผยถึงวิธีการรักษาอื่นที่ผู้ป่วยจำนวน 61 คนได้รับ