รอยเตอร์/เอเจนซีส์ – กระทรวงมหาดไทยริยาดแถลงวันอาทิตย์(12เม.ย)ว่า กษัตร์ย์ซัลมานแห่งซาอุฯทรงขยายมาตรการเคอร์ฟิวทั่วประเทศเนื่องมาจากสถานการณ์โควิด-19ออกไปไม่มีกำหนดหลังซาอุฯมีรายงานการติดเชื้อ 300 คนต่อวันติดต่อ 4 วันล่าสุดส่วนลอนดอนแถลงวันเดียวกัน ให้งบช่วยเหลือร่วม 200 ล้านปอนด์(248ล้านดอลลาร์)แก่องค์การอนามัยโลกและหน่วยงานการกุศลเพื่อสู้การการระบาดรอบ2
รอยเตอร์รายงานวันนี้(12 เม.ย)ว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา ซาอุดีอาระเบียออกคำสั่งปิดตายกรุงริยาดและเมืองใหญ่สำคัญอื่นภายใต้มาตรการเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมง ขณะที่อื่นมาตรการเคอร์ฟิวได้เริ่มมาตั้งแต่วันที่23 มี.ค ระหว่างเวลา 15.00 น – 06.00 น.
ซึ่งล่าสุดวันอาทิตย์(12)ซาอุมีจำนวนผู้ติดเชื้อรวม 4,033 คน เสียชีวิต52 คนเป็นจำนวนสูงสุดในชาติอ่าวอาหรับ 6 ชาติที่มียอดรวม13,200 คน และจำนวนผู้เสียชีวิต 88คนถึงแม้จะมีมาตรการจำกัดการเดินทางที่เข้มงวดบังคับใช้
ซึ่งที่ผ่านมาทางซาอุฯได้ประกาศห้ามเที่ยวบินระหว่างประเทศและระงับพิธีอุมเราะห์ และปิดสถานที่สาธารณะเกือบหมด พบว่ามีชาติอาหรับอื่นได้ใช้มาตรการที่คล้ายกัน
กระทรวงมหาดไทยซาอุฯแถลงว่ามาตรการเฝ้าระวังทั่วทั้ง 13 ภูมิภาคในราชอาณาจักรจะยังถูกใช้ต่อไป
และในแถลงการณ์ของกระทรวงมหาดไทยซาอุฯวันนี้(12)ระบุว่าสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บินอับดุลอะซีซ อาล ซะอูดทรงขยายระยะเวลาการใช้มาตรการเคอร์ฟิวเนื่องมาจากสถานการณ์การระบาดโควิด-19ออกไปไม่มีกำหนด
ขณะเดียวกันที่อิหร่านซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดหนักสุดในตะวันออกกลางอ้างอิงจากเดอะการ์เดียน กระทรวงสาธารณสุขอิหร่านแถลงว่าในระยะเวลา 24 ชั่วโมงมีจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่ม 117 ราย ส่งผลทำให้มีจำนวนผู้เสียชีวิตรวมที่ 4,474รายส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อรวมอยู่ที่71,686 ราย
และส่วนอื่นๆของโลกในวันอาทิตย์(12)สเปนมีจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่ม 619 คนนับตั้งแต่วันเสาร์(11)ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมที่ 16,972 คน
นอกจากนี้กระทรวงสาธารณสุขสเปนยังแถลงถึงจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มจาก161,852 รายของวันเสาร์(11) มาอยู่ที่ 166,019 คนในวันอาทิตย์(12)
ซึ่งตัวเลขการเพิ่มเคสใหม่ที่4,167 รายล่าสุดถือเป็นจำนวนที่ต่ำที่สุดเท่าที่เคยมีมานับตั้งแต่ในที่22 มี.ค
ส่วนที่รัสเซียมีรายงานการเพิ่มขึ้นสูงสุดภายในวันเดียของเคสใหม่อยู่ที่2,186 ราย ส่งผลทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อรวมที่ 15,770 รายและจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่ม 30 รายทำให้มีจำนวนผู้เสียชีวิตรวม 130 ราย
ขณะเดียวกันอังกฤษได้ออกมาประกาศบริจาคเงินให้กับองค์การอนามัยโลกWHOและองค์การกุศลอื่นรวม 200 ล้านปอนด์หรือราว 250 ล้านดอลลาร์โดยประมาณ หลังจากที่ผู้นำสหรัฐฯออกมาข่มขู่ที่จะตัดเงินช่วยเหลือ
บลูมเบิร์กสื่อธุรกิจรายงานวันอาทิตย์(12)ว่า ขณะที่อังกฤษประสบกับวิกฤตโรคไวรัสโคโรนาอย่างหนักจนถึงขั้นนายกรัฐมนตรีอังกฤษต้องเข้าห้องไอซียูและมีเชื้อพระวงศ์ต้องกักตัวเนื่องมาจากได้รับเชื้อตัวเลขติดเชื้อรวมของอังกฤษวันนี้(12) อยู่ที่ 79,885คน และเสียชีวิต 9,892คน
โดยกระทรวงเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ(Department for InternationalDevelopment)ของอังกฤษแถลงในวันนี้(12)ระบุว่าเงินสนับสนุนจะช่วบป้องกันไวรัสจากการระบาดในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาและการเกิดการระบาดระลอก2 ในอังกฤษเอง
การออกมาประกาศเสนอตัวบริจาคให้กับ
WHOเกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ได้ออกมาวิจารณ์องค์การอนามัยโลกว่าอิงปักกิ่งเกี่ยวกับวิกฤตการระบาดโควิด-19มากจนเกินไปและทรัมป์ยังข่มขู่ที่จะตัดเงินสนับสนุนในส่วนของสหรัฐฯแก่องค์การอนามัยโลก
ด้านผู้อำนวยการWHO เทดรอส อาดานอม เกเบรเยซุสแสดงความยินดีผ่านแถลงการณ์ว่า “การสนับสนุนอย่างใจกว้างของอังกฤษถือเป็นการส่งสารที่ชัดเจนว่าภัยคุกคามระดับโลกนี้ต้องการการตอบโต้ในระดับระหว่างประเทศ WHOมีความซาบซึ้งต่อรัฐบาลและประชาชนชาวอังกฤษในการสนับสนุนอย่างมหาศาลครั้งนี้”
รัฐมนตรีกระทรวงเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศอังกฤษแอนน์-มารีเทรฟเวเลียน(Anne-Marie Trevelyan)แถลงว่า มาตรการใหม่จะนำเงินช่วยเหลือของอังกฤษเพื่อต่อสู้ต่อไวรัส
อ้างอิงจากรอยเตอร์พบว่า130 ปอนด์จะมอบให้กับหน่วยงานต่างๆขององค์การสหประชาชาติ โดยที่องค์การอนามัยโลกจะได้รับ 65 ล้านปอนด์ ส่วนอีก 50 ล้านปอนด์จะมอบให้องค์การกาชาดสากลเพื่อช่วยเหลือในประเทศที่กำลังอยู่ในระหว่างสงครามและในส่วนที่ยากจะเข้าถึง ส่วนอีก 20 ล้านปอนด์จะให้องค์การกุศลอื่นๆ
เงินสนับสนุนครั้งนี้จะช่วยพื้นที่ซึ่งมีระบบสาธารณสุขที่ไม่สู้ดีเช่นเยเมน ที่มีรายงานเคสไวรัสโคโรนาครั้งแรกในวันศุกร์(10) และบังกลาเทศที่มีผู้ลี้ภัยโรฮิงญาอาศัยร่วม850,000คน