เอเจนซีส์ – องค์การอนามัยโลก WHO แถลงวันเสาร์(25 เม.ย)ว่า ไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่า ไม่มี Immunity passport อยู่จริงไม่พบหลักฐานผู้ป่วยโควิด-19ที่หายดีแล้วจะไม่กลับมาติดเชื้อใหม่ ยอดติดเชื้อทั่วโลกล่าสุดที่ 2,982,933 คน เสียชีวิตทั่วโลก 206,811 คน ขณะที่สหรัฐฯมีจำนวนผู้เสียชีวิตมากที่สุดที่ 54,877 คน และติดเชื้อ 965,933 คน
NBC NEWS สื่อสหรัฐฯรายงานเมื่อวานนี้(26 เม.ย)ว่า องค์การอนามัยโลก WHO ได้ทวีตว่า ทางหน่วยงานยังคงตรวจสอบหลักฐานที่ว่า แอนติบอดี้ นั้นมีปฎิกริยาต่อเชื้อโควิด-19 และเสริมต่อว่าการศึกษาส่วนใหญ่บ่งชี้ว่า ผู้ป่วยที่หายจากการติดเชื้อนั้นมีแอนติบอดี้ต่อสู้กับเชื้อไวรัส
“อย่างไรก็ตามพบว่ามีบางส่วนของคนกลุ่มนี้มีระดับแอนติบอดี้ต่ำในกระแสเลือด”
และทางองค์การอนามัยโลก WHO ยังได้ออกคำเตือนไปยังกระแสข่าวลือเรื่องการมีภูมิคุ้มกันต้านไวรัสโคโรนาที่เรียกว่า “immunity passport” จากการที่บางประเทศเริ่มอนุญาตให้ประชาชนกลับไปทำงานหรือสามารถเดินทางได้จากพื้นฐานความเชื่อที่ว่า คนเหล่านี้มีภูมิคุ้มกันจากโควิด-19แล้ว
และจากจุดนี้ WHO ยืนยันว่า ยังไม่มีหลักฐานแน่นหนาเกี่ยวกับประสิทธิภาพของภูมิคุ้นกันแอนติบอดี้ที่ยืนยันความถูกต้องของภูมิคุ้มกันต้านโควิด-19 เช่นนี้ หรือการมีภูมิคุ้มกันปลอดจากไวรัส 100%
ดร. โจเซฟ แฟร์ (Dr. Joseph Fair) นักไวรัสวิทยาประจำ NBC NEWS แสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่า มีเพียงแต่เวลาเท่านั้นที่จะสามารถบอกเราได้ว่าประเภทใดของภูมิคุ้มกันที่ผู้ป่วยมีจากโรคโควิด-19 หลังจากที่หายป่วยแล้วและมันจะอยู่นานเท่าใด
CNN รายงานว่า ขณะนี้นักวิจัยทั่วสหรัฐฯกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อหาวิธีต่อสู้กับไวรัสโคโรนา
ดร. เควิน เทรซีย์ (Dr. Kevin Tracey) ประธานสถาบันไฟน์สไตน์เพื่อการวิจัยสุขภาพ(Feinstein Institutes for Medical Research) ประจำนอร์ทเวลล์ เฮลท์( Northwell Health) เปิดเผยว่าผลการวิจัยเบื้องต้นในการศึกษาทางคลินิกในการใช้ยารักษาอาการแสบร้อนกลางหน้าอก (heartburn)ที่รู้จักโดยทั่วไปเพื่อรักษาโรคโคโรนาไวรัสจะออกมาในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
“เราไม่รู้ว่ามันจะได้ผลหรือไม่ เราไม่รู้จริงๆ สาบานได้” และเสริมต่อว่า “ผู้คนต่างตั้งความหวังว่าอะไรก็ได้ที่ได้ผล แต่เราต้องทำการทดลองทางคลีนิกวิทยาในสิ่งนี้”
เป็นที่คาดกันว่าผลการทดสอบสุดท้ายน่าจะออกมาประมาณกลางเดือนหรือปลายเดือนพฤษภาคมนี้ ส่วนผลการทดสอบเบื้องต้นของยา remdesivir คาดว่าน่าจะออกมาได้ในอีก 1 -2 สัปดาห์ข้างหน้าอ้างอิงจาก ดร. อังเดร คาลิล(Dr. Andre Kalil)ที่กล่าวไว้ในวันอาทิตย์(27)
แพทย์ที่โรงพยาบาลในเมืองออร์ลานโด รัฐฟลอริดาเปิดเผยในวันอาทิตย์(26)ว่า มีผู้ป่วยอย่างน้อย 2 คนมีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดหลังจากเปลี่ยนถ่าย convalescent plasma ที่ใช้แอนติบอดี้ของผู้ป่วยโควิด-19ที่หายดีแล้ว
การออกมาเตือนของWHO เกิดขึ้นหลังจากที่ทั่วทั้งโลกมีจำนวนผู้ติดเชื้อล่าสุดวันจันทร์(27)ที่ ที่ 2,982,933 คน เสียชีวิต 206,811 คน ขณะที่สหรัฐฯยังมีจำนวนผู้เสียชีวิตมากที่สุดที่ 54,877 คน และติดเชื้อ 965,933 คน
มีหลายรัฐในสหรัฐฯเริ่มที่จะกลับมาอนุญาตธุรกิจให้เปิดอีกครั้งท่ามกลางเศรษฐกิจย่ำแย่ รัฐเหล่านี้ได้แก่ รัฐโคโลราโด รัฐมิสซิสซิปปี รัฐมินเนโซตา รัฐมอนทานา และรัฐเทนเนสซี โดยบรรดานักเศรษฐศาสตร์ต่างคาดการณ์ถึงอัตตราการว่างงานอยู่ที่ 16% หรือสูงกว่าในเดือนเมษายน
ส่วนผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก แอนดรูว์ โคโม แถลงเมื่อวานนี้(26)ว่า บางส่วนของรัฐอาจสามารถเปิดทำการได้ในไม่ช้า เป็นต้นว่า อัปสเตทนิวยอร์ก (upstate New York) ภายใต้เงื่อนไขมาตรการป้องกัน และถือเป็นข่าวดีของนิวยอร์กที่พบว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตในวันอาทิตย์(26)ต่ำกว่าในวันเสาร์(25)