รอยเตอร์ – ปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาด้านการค้าของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ออกมากล่าวหาจีนว่าอาจจงใจปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในระยะเริ่มต้น ‘เพื่อประโยชน์ทางการค้า’ โดยหวังจะเป็นผู้ผลิตวัคซีนป้องกันได้ก่อนใคร
สหรัฐฯ ซึ่งเวลานี้กลายเป็นชาติที่ได้เดือดร้อนสาหัสที่สุดจากโรคระบาดใหญ่ (pandemic) โควิด-19 เคยเรียกร้องหลายครั้งให้ปักกิ่งแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสมรณะซึ่งระบาดในเมืองอู่ฮั่นเป็นที่แรก
“สาเหตุหนึ่งที่พวกเขาไม่อนุญาตให้เราเข้าไป และไม่แชร์ข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อไวรัสตั้งแต่แรก อาจเป็นเพราะพวกเขาต้องการผลิตวัคซีนให้ได้ก่อนใคร และมองว่านี่คือการแข่งขันทางการค้า เป็นข้อเสนอทางธุรกิจที่จะช่วยให้พวกเขาขายวัคซีนไปทั่วโลกได้” นาวาร์โร ให้สัมภาษณ์กับฟ็อกซ์บิสสิเนสเมื่อวานนี้ (20 เม.ย.)
“แต่เราจะทำให้พวกเขาพ่ายแพ้ เราจะเอาชนะพวกเขาด้วยการนำของประธานาธิบดีทรัมป์ เราจะชนะพวกเขาเพราะกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ (HHS) มีผู้ผลิตถึง 5 รายที่แข่งกันคิดค้นวัคซีนอยู่ตอนนี้”
ทรัมป์ แต่งตั้ง นาวาร์โร ซึ่งเป็นนักวิจารณ์จีนตัวยงให้ทำหน้าที่ดูแลด้านการจัดหาวัตถุดิบต่างๆ เพื่อต่อสู้การระบาดของโควิด-19
จนถึงขณะนี้ยังไม่มีตัวยารักษาหรือวัคซีนที่ผ่านการพิสูจน์ยืนยันว่าสามารถป้องกันโควิด-19 ได้
จากฐานข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์เมื่อเวลา 10.00 น. เช้าวันนี้ (21) ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 2.47 ล้านคน เสียชีวิตแล้วไม่ต่ำกว่า 170,000 คน โดยสหรัฐฯ มียอดผู้ป่วยสะสมราว 786,000 คน เสียชีวิตแล้วกว่า 41,100 คน
รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ทำข้อตกลงกับบริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และบริษัท โมเดอร์นา อิงค์ และอยู่ระหว่างเจรจากับอีกอย่างน้อย 2 บริษัทให้เตรียมผลิตวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนาออกมาในปริมาณมากๆ แม้โลกจะยังไม่ค้นพบวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพจริงก็ตาม
ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขทั่วโลกเชื่อว่าอาจจะต้องรอถึงปี 2021 เป็นอย่างเร็วกว่าวัคซีนป้องกันโควิด-19 จะพร้อมใช้งานจริง เนื่องจากต้องมีการทดลองในมนุษย์อย่างกว้างขวางจนมั่นใจในประสิทธิภาพและความปลอดภัยเสียก่อน
ในส่วนของรัฐบาลจีนก็ได้อนุมัติให้นำวัคซีนต้นแบบไปทำการทดลองในมนุษย์แล้วอย่างน้อย 3 ตัว
หนังสือพิมพ์ปักกิ่งเดลีอ้างข้อมูลจากผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมโรคของจีนซึ่งระบุว่า จีนอาจจะทดลองให้วัคซีนกับคนบางกลุ่ม เช่น บุคลากรทางการแพทย์ ภายในสิ้นปีนี้
ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกมากดดันจีนให้แถลงข้อมูลด้านการต่อสู้ไวรัสอย่างโปร่งใส ขณะที่ฝ่ายจีนก็ยืนยันว่าไม่ได้ปิดบังอะไร และยังตำหนิพวกเจ้าหน้าที่อเมริกันที่ออกมาตั้งคำถามด้วย