เอเอฟพี – ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย และประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน ออกมาตำหนิความพยายามที่ “ไม่สร้างสรรค์” ในการกล่าวโทษจีนว่าเปิดเผยข้อมูลล่าช้า จนเป็นเหตุให้ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ระบาดไปทั่วโลก
ปูติน และ สี ได้พูดคุยโทรศัพท์เมื่อวันพฤหัสบดี (16 เม.ย.) หลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ แถลงโจมตีปักกิ่งว่าควรจะแชร์ข้อมูลให้โลกรับรู้เร็วกว่านี้
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ สหรัฐฯ ยังอ้างว่าวอชิงตันกำลังตรวจสอบต้นตอของไวรัสชนิดนี้ ซึ่งคร่าชีวิตประชากรโลกไปแล้วกว่า 150,000 คน และไม่ตัดความเป็นไปได้ว่าเชื้อโควิด-19 อาจเล็ดรอดออกมาจากห้องปฏิบัติการแห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่นที่มีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับไวรัสในค้างคาว
ทำเนียบเครมลินระบุว่า ปูติน ได้กล่าวสรรเสริญ “มาตรการที่ต่อเนื่องและได้ผลดี” ของจีน “ซึ่งทำให้สถานการณ์โรคระบาดภายในประเทศเข้าสู่ภาวะเสถียร”
ผู้นำทั้งสองไม่ได้เอ่ยพาดพิงถึงทำเนียบขาวโดยตรง แต่ย้ำถึง “ความไม่สร้างสรรค์” ของการกล่าวโทษจีนว่าไม่เปิดเผยข้อมูลให้โลกรับรู้โดยเร็วเกี่ยวกับไวรัสร้ายแรง
ด้านสำนักข่าวซินหวาอ้างคำพูดประธานาธิบดี สี ซึ่งระบุว่า ความพยายามโยงการเมืองเข้ากับโรคระบาด “จะบ่อนทำลายความร่วมมือนานาชาติ” ขณะที่ ปูติน ชี้ว่า ความพยายามของคนบางกลุ่มที่จะใส่ร้ายป้ายสีจีนเป็นสิ่งที่ “รับไม่ได้”
ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เริ่มอุบัติขึ้นที่จีนเมื่อปลายปีที่แล้ว และยกระดับกลายเป็นโรคระบาดใหญ่ (pandemic) ที่ทำระบบเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตของผู้คนทั่วโลกพลิกผันไปอย่างสิ้นเชิง
ผู้นำทั้งสองย้ำว่า รัสเซียและจีนเป็น ‘หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์’ ที่พร้อมจะให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในยามนี้ โดยจะมีการแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงจัดส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์, ชุดป้องกัน และยารักษาโรค
“ผู้นำทั้งสองเชื่อมั่นว่า เราทั้ง 2 ประเทศจะผ่านพ้นความท้าทายจากโรคระบาดครั้งนี้ไปได้ด้วยดี หากร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด” สำนักงานของ ปูติน ระบุ
จากฐานข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์เช้าวันนี้ (18) รัสเซียมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมรวมกว่า 32,000 ราย เสียชีวิตแล้ว 273 ราย