เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในวันพุธ (15 เม.ย.) อ้างว่าอเมริกาผ่านพ้นสถานการณ์เลวร้ายสุดของโรคระบาดใหญ่ไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่แล้ว และจะออกคำแนะนำสำหรับเดินเครื่องเศรษฐกิจในวันพฤหัสบดี (16 เม.ย.) สวนทางกับข้อมูลของสื่อมวลชนที่พบว่ายอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 รายวันยังเดินหน้าทุบสถิติสูงสุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาด
“ชัดเจนว่ายุทธศาสตร์เชิงรุกของเรากำลังได้ผล” ทรัมป์กล่าวระหว่างแถลงข่าว “การต่อสู้ยังคงมีต่อไป แต่ข้อมูลบ่งชี้ว่าทั่วประเทศของเราผ่านพ้นจุดพีคสุดของผู้ติดเชื้อรายใหม่แล้ว”
“นี่คือพัฒนาการที่สร้างกำลังใจและนำเราสู่สถานะที่แข็งแกร่งอย่างมาก ในการสรุปคำแนะนำแก่รัฐต่างๆ สำหรับกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง” ทรัมป์กล่าว พร้อมเผยว่าเขาจะออกคำแนะนำเกี่ยวกับการเดินเครื่องเศรษฐกิจผ่านการแถลงข่าวในวันพฤหัสบดี (16 เม.ย.)
คำประกาศของทรัมป์ มีขึ้นแม้ยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ จากการนับของสำนักข่าวรอยเตอร์ จะทุบสถิติสูงสุุดนับตั้งแต่มีการระบาดเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน โดยเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 2,371 คนในวันพุธ (15 เม.ย.) ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็นอย่างน้อย 30,800 คน
สหรัฐฯ พบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 รายแรกในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ และใช้เวลา 38 วันสำหรับตัวเลขผู้เสียชีวิตที่แตะระดับ 10,000 ศพ แต่ใช้เวลาอีกเพียง 9 วันหลังจากนั้นสำหรับพุ่งเหนือ 30,000 ศพ ในขณะที่สถิติตัวเลขผู้เสียชีวิตสูงสุดในวันเดียวก่อนหน้านี้ก็เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันอังคาร (14 เม.ย.) ด้วยจำนวน 2,364 ศพ
อย่างไรก็ตาม แม้ยอดผู้เสียชีวิตยังสูงลิ่ว แต่พบเห็นสัญญาณสถานการณ์ที่บรรเทาลงในบางพื้นที่ของประเทศ ด้วยการแพร่ระบาดเริ่มลดลงแล้ว
ทรัมป์กลับลำจากการแสดงความคิดเห็นหนึ่งวันก่อนหน้านี้ โดยบอกว่าเขาจะไม่โยนความกดดันใดๆ ใส่บรรดาผู้ว่าการรัฐให้กลับมาเปิดเศรษฐกิจ
“เราจะเปิดรัฐต่างๆ บางรัฐอาจเร็วกว่ารัฐอื่นๆ” ทรัมป์ระบุ “เราคิดว่าบางรัฐอาจเริ่มเปิดเศรษฐกิจก่อนหน้าเส้นตายวันที่ 1 พฤษภาคมด้วยซ้ำ เราจะกลับมา เราทุกคนจะกลับมา”
ผู้ว่าการรัฐต่างๆ ราว 20 แห่งซึ่งมีจำนวนผู้ติดเชื้ออยู่ไม่มากนัก เชื่อว่าบางทีพวกเขาอาจพร้อมสำหรับเริ่มกระบวนการกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งตามเป้าหมายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กำหนดไว้ในวันที่ 1 พฤษภาคม
ทว่า เหล่าพวกผู้ว่าการรัฐที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุด เช่น นิวยอร์ก, แคลิฟอร์เนีย, ลุยเซียนา, นิวเจอร์ซีย์, แมสซาชูเซตส์ และมิชิแกน มองว่ามีความจำเป็นที่ต้องตรวจโรคอย่างกว้างขวางเสียก่อนแล้วถึงสามารถกลับมาเริ่มยุติมาตรการล็อกดาวน์ได้
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขบอกว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตเป็นสิ่งบ่งชี้ท้ายสุดของการแพร่ระบาดซึ่งเกิดขึ้นหลังจากคนไข้ที่มีอาการรุนแรงมากที่สุดล้มป่วย และไม่ได้หมายความว่ามาตรการจำกัดให้ผู้คนอยู่แต่ในบ้ามล้มเหลวในการสกัดการแพร่เชื้อ
นพ.แอนโธนี เฟาซี ที่ปรึกษาด้านการแพทย์ระดับสูง ให้สัมภาษณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์เมื่อวันอาทิตย์ (12 เม.ย.) ว่าบางพื้นที่ของประเทศอาจเริ่มผ่อนปรนข้อจำกัดต่างๆ ได้ในเดือนพฤษภาคม แต่เตือนว่าการกลับมาเปิดเมืองจะไม่เหมือนกับการเปิดสวิตช์ไฟ
เอเอฟพีอ้างข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ระบุว่ายอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วสหรัฐฯ ล่าสุดอยู่ที่ราวๆ 634,000 คน สูงที่สุดในโลก