เฟซบุ๊ก “นายแพทย์ รุ่งเรือง กิจผาติ” ออกมาโพสต์ข้อความกรณีปิดหรือไม่ปิดประเทศ โดยเผยว่า การปิดประเทศไม่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ทางออกที่ดีที่สุดคนในสังคมต้องช่วยกันรับผิดชอบ
เมื่อวันที่ 20 มี.ค. เฟซบุ๊ก “นายแพทย์ รุ่งเรือง กิจผาติ” ที่ปรึกษาระดับกระทรวง นพ.ทรงคุณวุฒิและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาโพสต์ข้อความอธิบายกรณีปิดหรือไม่ปิดประเทศ โดยระบุว่า
1. โควิด-19 เป็น ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ในโลกยังไม่มีภูมิคุ้มกัน ทำให้มีคนไข้ใหม่จำนวนมหาศาล
- แต่อัตราการตายไม่ได้สูงมาก คนป่วยหนักไม่มาก
- แต่เนื่องจากมีจำนวนคนไข้มาก ทำให้มีคนตายมากเช่นกัน
- กลุ่มเสี่ยง เช่น คนแก่ คนที่เป็นโรคเรื้อรังตายง่ายกว่า เพราะภูมิคุ้มกันที่ไม่ดี
2. ปริมาณเชื้อที่ได้รับก็สำคัญ ดังนั้น ต่อให้เป็นคนอายุน้อย แต่ได้รับเชื้อซ้ำๆ ซากๆ ภูมิคุ้มกันเกิดขึ้นไม่ทัน ก็ตายได้ เช่น คนหนุ่มสาวที่ประมาท ได้รับเชื้อจำนวนมาก (ไม่ป้องกันตนเองและป้องกันคนอื่น) หรือมีปัญหาสุขภาพ พันธุกรรม
3. เราต้องลดการแพร่เชื้อให้มากที่สุด หากมีผู้ป่วยจำนวนมากๆ จะส่งผลทำให้การบริการทางการแพทย์ไม่เพียงพอ ก็ทำให้คนตายได้มากเช่นกัน
4. ตัวอย่างชัดเจนที่สุด คนที่อยู่บนเรือ Diamond Princess ทุกคนควรได้รับเชื้อ แต่ทำไมมีเพียงคนส่วนหนึ่งที่ป่วย เพราะคนที่ได้รับเชื้อ แต่ร่างกายสามารถสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาได้เอง จึงเป็นที่มาของหลักการ “ภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd Immunity)” คือ ปล่อยให้คนติดเชื้อ เก็บตัวเองอยู่ห่างๆ กัน ถ้ามีอาการรุนแรงค่อยมาโรงพยาบาล คนที่สัมผัสใกล้ชิด ก็อาจจะได้รับเชื้อบ้าง แต่ไม่มาก (ท้ายที่สุด คนส่วนใหญ่ทั่วประเทศ ที่ได้รับเชื้อจำนวนน้อยๆ ก็จะมีภูมิคุ้มกันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ประเทศที่ใช้หลักการนี้ คือ เกาหลี เยอรมนี อังกฤษ และมีอัตราการตายต่ำมาก)
5. ประเทศที่รับคนไข้มานอนอยู่โรงพยาบาลรวมๆ กัน ไม่มีห้องแยก เช่น อิตาลี อิหร่าน มีอัตราการตายสูงที่สุดในโลก
6. ถึงเราจะปิดประเทศสามสัปดาห์ แต่พอเปิดประเทศเมื่อไร โรคนี้ก็จะกลับมาทันที เพราะประชาชนในประเทศยังไม่มีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อตัวนี้ ดังนั้น เราอาจจะชะลอด้วยการปิดประตูกับประเทศที่มีคนติดเชื้อจำนวนมากๆ
7. ทำใจยอมรับความจริงว่า เราจะมีคนไข้ใหม่ที่ได้รับเชื้อแต่มีอาการไม่รุนแรง ด้วยการอธิบายไม่ก่อให้เกิดความตื่นตระหนก ตัวอย่างเช่น คนอายุน้อย 19 คนที่ติดเชื้อจากสนามมวย ไม่มีใครมีอาการรุนแรง และเชื่อว่าคงมีหลายคนที่ได้รับเชื้อนี้แต่ตรวจไม่พบ เพราะมีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติเกิดขึ้น
8. คำพูดที่ถูกต้องคือ ในที่สุด คนส่วนใหญ่ในโลกที่เคยได้รับไวรัสตัวนี้ ส่วนหนึ่งป่วย อีกส่วนหนึ่ง สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้เอง และส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง แต่ไม่ได้พูดให้ประมาท ต้องป้องกันการแพร่เชื้อไปคนอื่น และรับผิดชอบสังคม
9. รักษาสุขภาพกาย ใจ ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ และปฏิบัติการตามวิธีป้องกันตนเอง และป้องกันผู้อื่น
10. การชะลอการติดเชื้อเป็นสิ่งที่ดี เพื่อรอให้ชุมชนทั่วประเทศ เกิด “ภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd Immunity)”
- ภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นเอง จากการได้รับเชื้อทีละน้อย และให้เวลาบุคลากรทางการแพทย์ ในการรับมือกับผู้ป่วย
11. แต่ถ้าคิดว่า ปิดประเทศแล้วไวรัสจะหายวับไปภายในสามสัปดาห์ คงเป็นไปไม่ได้ครับ
12. ผมเห็นคนแชร์เรื่องปิดประเทศสามสัปดาห์มากๆ เลยรู้ว่า คนส่วนใหญ่เข้าใจผิด แต่หากสถานการณ์บางสถานการณ์ก็ต้องทำครับ
13. ขอให้กำลังใจแพทย์ พยาบาล และทุกๆ คนที่อุทิศทุ่มเท ทำเพื่อประเทศไทยที่เรารัก ทำเพื่อพี่น้องประชาชน
14. ถ้าทุกคนในประเทศไทยมีระเบียบวินัย เชื่อมั่นในกฎระเบียบที่ออกมา และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดตั้งแต่
- ดูแลสุขภาพตัวเอง รักษาใจ
- ป้องกันตนเอง ล้างมือ ที่สำคัญ ป้องกันแพร่เชื้อให้คนอื่น รับผิดชอบสังคม
- ใส่หน้ากากอนามัย เวลาไปในที่ชุมชน และจะต้องทำให้ได้ในเรื่อง ระยะห่างของบุคคล (Personal distance) ที่ 6 ฟุต หรือ 2 เมตร
- ระยะห่างของสังคม งดกิจกรรมทางสังคมทั้งหมด (Social distance) พยายามอยู่บ้าน
- งดหรือลดการเดินทางโดยไม่จำเป็นหรืองดได้ทั้งหมด ก็จะเป็นการลดการสัมผัสระหว่างคนต่อคน
- ทำงานที่บ้าน สอนออนไลน์ ทุกคนจะต้องหัดใช้ทาง Electronic ต่อไป จะต้องเป็น e-Money และ e ต่าง ๆ เพื่อลดการปฏิสัมพันธ์ให้มากที่สุด
15. ถ้าทุกคนเคร่งครัด ช่วยกันรับผิดชอบต่อสังคม ไม่รอให้เป็นหน้าที่ของทางราชการอย่างเดียว ช่วยเหลือกันและกันในยามยาก ผู้ที่มีมากจะต้องช่วยเหลือผู้ที่ตกงานหรือเดือดร้อน มีการเยียวยาที่เหมาะสม “เศรษฐกิจพอเพียง”
16. การเดินทางต่อสู้กับโควิด-19 ไม่ใช่เป็นการวิ่ง 100 เมตร แต่เป็นการวิ่งมาราธอน อย่างน้อยก็ 1 ฤดูกาล เราจะต้องช่วยกันเดินทางระยะยาวไปด้วยกัน
16) ส่วนใหญ่ผู้ติดเชื้อ > 95% อาการไม่รุนแรง รักษาสุขภาพครับ อย่าแพร่เชื้อไปคนอื่นๆ ไปกลุ่มเสี่ยงครับ
17) ถ้าต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด ตามแผนเผชิญเหตุ ก็ต้องทำ และอดทนยอมรับครับ