เอเอฟพี - แอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ประกาศในวันจันทร์ (13 เม.ย.) ว่าสถานการณ์เลวร้ายที่สุดของรัฐในวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) จบลงไปแล้ว แม้อีกด้านหนึ่งตัวเลขผู้เสียชีวิตภายในรัฐแห่งนี้จะพุ่งเกิน 10,000 คน
คูโอโม บอกว่า ค่าเฉลี่ยที่ต่ำลงของอัตราผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลกับผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่อช่วยหายใจ บ่งชี้ว่าการแพร่ระบาดอยู่ในภาวะคงที่ และเขากำลังวางแผนกลับมาเปิดเศรษฐกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไป “ผมเชื่อว่าตอนนี้เราสามารถเริ่มหนทางแห่งการมุ่งสู่ภาวะปกติ”
ผู้ว่าการรัฐรายนี้แถลงว่า มีผู้เสียชีวิต 671 คนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมในรัฐที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงของอเมริกา อยู่ที่ 10,056 คน
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวถือว่าเป็นยอดผู้เสียชีวิตรายวันในนิวยอร์กต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน ส่วนสถิติสูงสุดอยู่ที่ 799 คน รายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (9 เม.ย.)
“จุดเลวร้ายสุดผ่านไปแล้วหากว่าเราเดินหน้าไปในแนวทางที่ชาญฉลาด” คูโอโมกล่าว พร้อมระบุว่าเขาจะปรึกษาหารือกับผู้ว่าการรัฐต่างๆ ที่อยู่ติดกันหลังจากนี้ในวันจันทร์ (13 เม.ย.) เพื่อหาแนวคิดเกี่ยวกับแผนเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง
เขาบอกว่า การเปิดระบบเศรษฐกิจจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป จะเริ่มจากภาคธุรกิจที่มีความจำเป็นและจะกำหนดให้ยกระดับการตรวจเชื้อเพื่อสังเกตอัตราการแพร่เชื้อ “มันจะไม่เหมือนกับสับสวิตช์ แบบว่าจู่ๆ ทุกคนออกมาจากบ้าน ขึ้นรถ, โบกไม้โบกมือ โอบกอดกันและกัน และเศรษฐกิจจะเริ่มเดินเครื่อง” คูโอโมกล่าว “มันจะเป็นไปอย่างระมัดระวัง อย่างช้าๆ และอย่างฉลาดหลักแหลม”
นอกจากนี้แล้ว คูโอโม ยังสนับสนุนให้ชาวนิวยอร์กปฏิบัติตามคำแนะนำด้านการเว้นระยะห่างทางสังคมต่อไป โดยบอกว่าพฤติกรรมเลินเล่อเพียง 2 หรือ 3 วัน อาจำให้ศึกการต่อสู้กับโรคระบาดใหญ่หวนคืนมา
จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ พบว่า นิวยอร์กกลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐฯ อย่างรวดเร็ว โดยในรัฐแห่งนี้มีผู้เสียชีวิตคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้เสียชีวิต 22,150 คนทั่วประเทศ
