เอเจนซีส์ - ยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในสหรัฐฯ พุ่งทุบสถิติ 2,228 ราย ในรอบ 24 ชั่วโมง ขณะที่เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ ออกมาเตือนสติ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ให้ทบทวนแผนระงับเงินช่วยเหลือองค์การอนามัยโลก (WHO) ในช่วงที่ไวรัสกำลังระบาดหนัก
จากฐานข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ เมื่อเวลา 00.30 GMT วันนี้ (15 เม.ย.) สหรัฐฯ มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มขึ้น 2,228 ราย ในรอบ 24 ชั่วโมง ทำลายสถิติยอดตายสูงสุด 2,108 ราย เมื่อวันที่ 10 เม.ย. และเป็นแนวโน้มที่น่ากังวลหลังจากตัวเลขผู้เสียชีวิตเคยลดลงต่อเนื่อง 2 วันติด
ผู้ติดเชื้อสะสมในสหรัฐฯ เพิ่มมาอยู่ที่ 609,407 คน เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 25,757 คน ซึ่งถือว่ามากเป็นอันดับ 1 ของโลก ทว่าประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงแสดงทีท่าว่าอยากจะผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ “เร็วๆ นี้” และอ้างว่า มองเห็น “แสงสว่างอยู่ที่ปลายอุโมงค์” แล้วสำหรับอเมริกา
ล่าสุด ผู้นำสหรัฐฯ ยังขู่จะระงับเงินอุดหนุน WHO และกล่าวหาองค์กรแห่งนี้ว่าปกปิดความรุนแรงของสถานการณ์โควิด-19 ในจีน ก่อนที่มันจะแผ่ลามไปทั่วโลก
ทรัมป์ อ้างว่า WHO ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลการแพร่ระบาดอย่างโปร่งใส และสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ที่สุดของหน่วยงานด้านสาธารณสุขยูเอ็นแห่งนี้ ด้วยจำนวนเงิน 400 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว จะต้องพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
“ด้วยการแพร่ระบาดของโรคระบาดใหญ่โควิด-19 เรามีความกังวลใหญ่หลวงว่าความเอื้ออาทรของอเมริกาถูกใช้อย่างดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้แล้วหรือไม่” ทรัมป์ กล่าว
อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่ยูเอ็น ออกมาเตือนวานนี้ (14) ว่า “ไม่ใช่เวลา” ที่ประเทศใดๆ จะตัดความช่วยเหลือด้านทรัพยากรต่อ WHO หรือหน่วยงานด้านมนุษยธรรมอื่นๆ ที่กำลังต่อสู้การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
“เวลานี้คือเวลาที่ประชาคมโลกจะต้องร่วมแรงร่วมใจเป็นหนึ่งเดียว และทำงานร่วมกันเพื่อหยุดยั้งเชื้อไวรัสและผลลัพธ์ที่เลวร้ายของมัน”