อเมริกาใกล้หายนะระดับเพิร์ลฮาร์เบอร์ ยุโรปเริ่มมีหวัง-ยอดเสียชีวิตลดต่อเนื่อง

เอเอฟพี - ยุโรปเริ่มมีหวัง หลังอิตาลี สเปน ฝรั่งเศส พบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ลดลงต่อเนื่อง ตรงข้ามกับอเมริกาที่จ่อเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งหายนะพอๆ กับตอนที่ เพิร์ล ฮาร์เบอร์ ถูกถล่ม ขณะที่ยอดคนตายพุ่งใกล้หลัก 10,000 คน

ไวรัสโคโรนาส่งผลรุนแรงทั่วถึงทุกมุมโลก ทำให้มนุษยชาติเกือบครึ่งหนึ่งต้องกักกันตัวเองในบ้าน และชีวิตกลับตาลปัตร ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตทั่วโลกเพิ่มขึ้นใกล้ถึง 70,000 คน

เมื่อวันอาทิตย์ (5 เม.ย.) สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สองทรงมีพระราชดำรัสฉุกเฉินครั้งที่ 4 ในรอบ 68 ปีที่ครองราชย์ โดยเรียกร้องให้อังกฤษและประเทศเครือจักรภาพสามัคคีและกล้าหาญ ขณะที่ นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสันของอังกฤษ ถูกนำส่งโรงพยาบาลจากการติดเชื้อโควิด-19

อย่างไรก็ตาม มีข่าวดีเกิดขึ้นในหลายประเทศของยุโรปที่เป็นศูนย์กลางการระบาด เริ่มจากอิตาลีที่รายงานเมื่อวันอาทิตย์ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตลดลงต่ำสุดในรอบสองสัปดาห์ ส่วนสเปนลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 และฝรั่งเศสลดลงต่ำสุดในรอบสัปดาห์

ซิลวิโอ บรูซาเฟอร์โร ผู้อำนวยการสถาบันสาธารณสุขแห่งชาติของอิตาลี กล่าวว่า กราฟเริ่มหักลงและจำนวนผู้เสียชีวิตเริ่มลดลง ขั้นต่อไปคือ ค่อยๆ ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เข้มข้นที่บังคับใช้มานานหนึ่งเดือน

เอ็มปาร์ ลอเรน พยาบาลในสเปน กล่าวคล้ายกันว่า สถานการณ์นิ่งขึ้น จำนวนผู้ป่วยวิกฤตไม่เพิ่มขึ้นมากเหมือนก่อนหน้านี้ และผู้ป่วยทยอยออกจากโรงพยาบาลแม้มีจำนวนยังไม่มากนักก็ตาม

ขณะที่สถานการณ์ในยุโรปเริ่มดีขึ้น อเมริกายังมองไม่เห็นความหวัง ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นเกือบถึง 10,000 คน และเจ้าหน้าที่เตือนว่า สถานการณ์เลวร้ายใกล้เข้ามาทุกที

เจอโรม อดัมส์ ศัลยแพทย์ใหญ่ของสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ฟ็อกซ์นิวส์ ว่า สัปดาห์นี้จะเป็นสัปดาห์ที่หนักหน่วงและน่าเศร้าที่สุดในชีวิตของคนอเมริกันส่วนใหญ่ และจะเป็นช่วงเวลาเลวร้ายพอๆ กับตอนที่เพิร์ลฮาร์เบอร์ถูกถล่มหรือวินาศกรรมตึกเวิลด์เทรด 11 กันยายน

เฉพาะรัฐนิวยอร์กที่เป็นศูนย์กลางการระบาดในอเมริกามีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 4,159 คน ในวันอาทิตย์ จาก 3,565 คนในวันก่อนหน้า แต่ถือเป็นครั้งแรกที่จำนวนผู้เสียชีวิตลดลง ทว่า แอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐ กล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะบอกได้ว่า เป็นสัญญาณที่ดีหรือไม่

ทางด้าน ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เตือนว่า อเมริกากำลังจะมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากจนน่าสยดสยอง และมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจากอาการแทรกซ้อนจากไวรัสโคโรนากว่า 1,200 คนในวันอาทิตย์

ผลกระทบจากโรคระบาดใหญ่ต่อเศรษฐกิจโลกเริ่มรุนแรงมากขึ้น โดยนักวิเคราะห์เตือนว่า ระดับความยากจนจะพุ่งขึ้น เนื่องจากผู้คนนับล้านต้องตกงานแม้ภาครัฐระดมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่ามหาศาลอย่างไม่เคยมีมาก่อนก็ตาม

อิหร่านที่เศรษฐกิจได้รับผลกระทบซ้ำซ้อนทั้งจากไวรัสและมาตรการแซงก์ชันของอเมริกา เผยว่า จะอนุญาตให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีความเสี่ยงต่ำเดินเครื่องอีกครั้ง หลังจากอัตราการติดเชื้อรายวันลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 5

แต่ประชาชนในประเทศยากจนบางแห่งโจมตี ว่า มาตรการเคอร์ฟิวทำลายชีวิตความเป็นอยู่ เช่น คนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างคนหนึ่งในกรุงลูอันดาของแองโกลา บ่นว่า จะให้กักกันตัวเองอยู่บ้านอย่างไรถ้าไม่มีอะไรจะกิน

ขณะเดียวกัน แอนโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ เรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ปกป้องผู้หญิงจากความรุนแรงภายในบ้าน ด้วยการบรรจุมาตรการนี้ไว้ในแผนการรับมือโควิด-19

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางสถานการณ์มืดมน ยังมีตัวอย่างน้ำใจของผู้คนทั่วโลกให้ได้ผ่อนคลายกันบ้าง เช่น ร้านอาหารแห่งหนึ่งในบาร์เซโลนาของสเปน บรรดาเชฟช่วยกันทำเบอร์เกอร์ไปมอบให้แพทย์และพยาบาล

ที่เมืองเนเปิลส์ ทางใต้ของอิตาลี ศิลปินริมทางคนหนึ่งหย่อนตะกร้าอาหารสามัคคีลงมาจากระเบียงห้องพัก พร้อมตะโกนเชิญชวนคนที่สามารถบริจาคได้ ให้หย่อนสิ่งที่ต้องการบริจาคลงในตะกร้า ส่วนคนที่ไม่สามารถช่วยเหลือได้ ให้หยิบของในตะกร้ากลับไป ซึ่งผลปรากฏว่า ตะกร้าใบนั้นเต็มไปด้วยของบริจาคภายในเวลาเพียง 2 ชั่วโมง