เอเจนซีส์ – ในพระบรมราโชวาทของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษที่จะเผยแพร่ในคืนวันนี้(5 เม.ย) พบว่าพระองค์ทรงขอให้ประชาชนชาวอังกฤษทุกคนมีวินัยของตัวเองและมุ่งมั่น โดยทรงเน้นย้ำในคุณค่าเหล่านี้เพื่อให้อังกฤษสามาถผ่านวิกฤตโรคระบาดโควิด-19ไปได้ และพระองค์ยังทรงขอบใจไปยังเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอังกฤษ NHS และผู้ที่มีบทบาทสำคัญในวิกฤตรวมไปถึงความสำคัญของบทบาทของบุคคล และความยากลำบากต่อปัญหาเศรษฐกิจที่ต้องประสบ
บีบีซี สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้(5 เม.ย)ว่า มีกำหนดที่จะถ่ายทอดพระบรมราโชวาทของพระประมุขแห่งสหราชอาณาจักรในวันอาทิตย์(5) ต่อวิกฤตโรคไวรัสโคโรนาระบาด อ้างอิงตัวเลขจากมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ พบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อในวันอาทิตย์(5)ของอังกฤษอยู่ที่ 42,480 คน เสียชีวิต 4,320 คน
สื่ออังกฤษชี้ว่า สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษนั้นทรงรับรู้ถึงความทุกข์ยาก ความเจ็บปวด และปัญหาทางเศรษฐกิจที่เกิดมาจากวิกฤตการระบาดที่ลามไปทั่วโลกขณะที่พลเมืองอังกฤษกำลังอยู่ท่ามกลางความท้าท้ายต่อช่วงเวลาที่สับสัน
และคาดว่าพระองค์จะทรงขอบใจไปยังเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอังกฤษ NHS และผู้ที่มีบทบาทสำคัญในวิกฤตรวมไปถึงความสำคัญของบทบาทของบุคคลที่สามารถจะมีได้ในวิกฤตนี้ที่เห็นอังกฤษมีการปิดตาย แต่ทางที่ปรึกษาของรัฐบาลนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันออกมาอ้างล่าสุดว่า มาตรการปิดตายอาจจะสามารถผ่อนคลายได้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า อ้างอิงจากสื่อสกายนิวส์ของอังกฤษ
ซึ่งล่าสุดเดอะการ์เดียนรายงานว่า แคร์รี ไซมอนด์ส(Carrie Symonds) คู่หมั้นที่กำลังตั้งครรภ์ของนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน นั้นเปิดเผยว่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเธอกักตัวและมีการแสดงอาการป่วยโควิด-19ให้เห็น แต่เริ่มหายดีจากอาการป่วยแล้ว ส่วนจอห์นสันยังคงกักตัวต่อไป
บีบีซีรายงานว่า พระบรมราโชวาทของควีนเอลิซาเบธมีกำหนดที่จะถูกเผยแพร่ทางโทรทัศน์และวิทยุในเวลา 20.00 น. ตามเวลาอังกฤษ
ซึ่งพระองค์จะทรงตรัสว่า “ข้าพเจ้ากำลังพูดอยู่กับพวกท่านในสิ่งที่ข้าพเจ้ารับรู้ว่ามีช่วงเวลาที่ท้าท้ายเพิ่มมากขึ้น” และในพระบรมราโชวาทจะมีข้อความต่อว่า “ช่วงเวลาที่สับสนของชีวิตในประเทศของเรา ความสับสนนั้นนำซึ่งความทุกข์ต่อบางส่วน ปัญหาความยุ่งยากทางการเงินต่อจำนวนมาก และการเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาลต่อชีวิตประจำวันของพวกเราทุกคน”
และ “ข้าพเจ้าหวังว่าในอีกหลายปีถัดมาทุกคนจะสามารถมีความภาคภูมิต่อสิ่งที่ทุกคนได้กระทำในวิกฤตนี้” และพระองค์จะทรงตรัสต่อว่า “และผู้ที่เดินตามหลังพวกเราจะกล่าวว่าชาวอังกฤษในยุคนี้แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นผลมาจากการมีวินัยในตนเอง ในการมุ่งมั่นด้วยอารมณ์ขัน และความเห็นอกเห็นใจที่ถือเป็นเอกลักษณ์ในประเทศนี้”