เอเอฟพี - ผู้นำคิม จองอึน แห่งเกาหลีเหนือสั่งเปลี่ยนตัวคณะกรรมาธิการกิจการแห่งรัฐ (State Affairs Commission - SAC) ซึ่งเป็นองค์กรที่มีอำนาจตัดสินใจสูงสุดของประเทศ ในขณะที่ ‘คิม โยจอง’ น้องสาวแท้ๆ ก็ได้หวนคืนสู่ตำแหน่งสำคัญในพรรคแรงงานเกาหลี
สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของเกาหลีเหนือรายงานวันนี้ (13 เม.ย.) ว่า ผู้นำคิมในฐานะประธาน SAC ได้สั่งเปลี่ยนตัวสมาชิก 5 คนจากทั้งหมด 13 คน ระหว่างการประชุมสมัชชาประชาชนสูงสุดเมื่อวันอาทิตย์ (12)
ราเชล ลี อดีตนักวิเคราะห์ด้านเกาหลีเหนือของรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า “นี่ถือเป็นการเปลี่ยนตัวสมาชิก SAC ครั้งใหญ่พอสมควร”
หนังสือพิมพ์โรดองซินมุนได้ลงภาพสมาชิกสภาเกาหลีเหนือนั่งประชุมติดๆ กัน โดยไม่มีใครสวมหน้ากากอนามัยเลยแม้แต่คนเดียว
รายงานของคณะรัฐมนตรียืนยันว่า รัฐโสมแดงซึ่งมีพรมแดนติดทั้งจีนและเกาหลีใต้ยังคงมีผู้ติดเชื้อเป็น “ศูนย์” ในขณะที่ไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ ได้แพร่กระจายไปทั่วทุกมุมโลก และทำให้มีผู้ป่วยสะสมแล้วกว่า 1.8 ล้านคน
เปียงยางใช้วิธีบังคับกักโรคพลเมือง, ชาวต่างชาติ และนักการทูตรวมกว่า 2,000 คน และทำการฆ่าเชื้อสินค้าต่างๆ อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเตือนได้แล้วว่าหากเกิดขึ้นจริงในรัฐโสมแดงจะส่งผลเลวร้ายถึงขั้น “หายนะ”
“ภาวะฉุกเฉินแห่งชาติว่าด้วยการรณรงค์ต่อต้านโรคระบาดจะยังคงดำเนินต่อไป และยกระดับเข้มข้นยิ่งขึ้นไปอีก เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19” รายงานของคณะรัฐมนตรีเกาหลีเหนือ ระบุ
ทั้งนี้ เคซีเอ็นเอไม่ได้ระบุว่าผู้นำคิมเข้าประชุมสมัชชาประชาชนสูงสุดด้วยตนเองหรือไม่ และภาพที่เผยแพร่ออกมาก็ไม่ปรากฏว่ามีเขาอยู่ด้วย
“การที่เกาหลีเหนือเดินหน้าจัดประชุมสมัชชาประชาชนสูงสุด แสดงให้เห็นว่าพวกเขามั่นใจว่ายังควบคุมสถานการณ์ไวรัสได้” ลี บอกกับเอเอฟพี พร้อมชี้ว่าการที่ผู้เข้าประชุมทุกคนไม่สวมหน้ากากอนามัยก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องยืนยัน
สมาชิกหน้าใหม่ของ SAC ยังรวมถึง รี ซอนกวอน (Ri Son Gwon) อดีตนายทหารระดับสูงซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็น ‘รัฐมนตรีต่างประเทศ’ แทนที่นักการทูตมืออาชีพอย่าง รี ยองโฮ เมื่อต้นปีนี้
ก่อนหน้านั้น มีรายงานว่า น.ส.คิม โยจอง น้องสาวของผู้นำคิม เพิ่งได้รับแต่งตั้งให้กลับมาดำรงตำแหน่งสมาชิกสำรองของกรมการเมืองอีกครั้งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (11) ซึ่งถือเป็นการหวนกลับมามีอิทธิพลอย่างสูงอีกครั้งของ ‘เจ้าหญิงแห่งเปียงยาง’
นักวิเคราะห์เชื่อว่า คิม โยจอง เคยถูกปลดออกจากตำแหน่งนี้เมื่อปีที่แล้ว หลังการประชุมซัมมิตครั้งที่ 2 ระหว่าง คิม จองอึน กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่กรุงฮานอยประสบความล้มเหลว
“การกลับเข้ารับตำแหน่งเดิมอีกครั้งแสดงให้เห็นว่าเธอมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในคณะผู้ปกครองเกาหลีเหนือ” อันห์ ชานอิล อดีตผู้ลี้ภัยโสมแดงซึ่งปัจจุบันทำงานเป็นนักวิจัยอยู่ที่กรุงโซล ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
คิม โยจอง เคยเป็นตัวแทนพี่ชายของเธอไปร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ‘เปียงชางเกมส์’ ที่เกาหลีใต้เมื่อปี 2018 ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์สำคัญที่นำมาสู่การกระชับสัมพันธ์ทางการทูตอย่างรวดเร็วระหว่างโสมแดงกับเกาหลีใต้และสหรัฐฯ
หญิงสาวผู้นี้มักปรากฏตัวอยู่ใกล้ๆ คิม ในการประชุมซัมมิตทั้งกับทรัมป์ และประธานาธิบดีมุน แจอิน แห่งเกาหลีใต้
ล่าสุดเมื่อเดือนที่แล้ว คิม โยจอง ได้ออกคำแถลงที่มีนัยสำคัญทางการเมืองในนามตัวเธอเองเป็นครั้งแรก ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเวลานี้เธอ ‘ใหญ่ไม่เบา’ เลยทีเดียว