เอเอฟพี – ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในยุโรปทะลุ 20,000 คน และเกิน 30,000 คนสำหรับทั่วโลก เฉพาะอิตาลีและสเปนรายงานตัวเลขคนตายในวันเสาร์ (28 มี.ค.) ประเทศละกว่า 800 คน ขณะที่ทรัมป์ค้านการประกาศล็อกดาวน์นิวยอร์กที่เป็นศูนย์กลางการระบาดในอเมริกา ซึ่งล่าสุดมีผู้เสียชีวิตทั่วประเทศเพิ่มเป็นกว่า 2,100 คน ในจำนวนนี้รวมทารกวัยไม่ถึง 1 ขวบในชิคาโก
ประชากร 1 ใน 3 ทั่วโลกขณะนี้อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ ขณะที่ไวรัสโคโรนาส่งผลกระทบเกือบทุกแง่มุมในสังคม ทั้งทำให้คนนับล้านตกงาน บริการสาธารณสุขรับภาระหนักอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน และหลายประเทศต้องออกมาตรการเยียวยามูลค่ามหาศาล
จำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกที่มีการรายงานในวันอาทิตย์ (29 มี.ค.) ทะลุ 30,800 คนไปแล้ว และบางประเทศเตือนว่า สถานการณ์เลวร้ายที่สุดยังมาไม่ถึง ผิดกับที่เมืองอู่ฮั่น ศูนย์กลางการระบาดและจุดแรกที่โควิด-19 อุบัติขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว เจ้าหน้าที่เริ่มยกเลิกนโยบายปิดเมืองบางส่วนหลังบังคับใช้มากว่า 2 เดือน
อย่างไรก็ตาม วันอาทิตย์ (29 มี.ค.) จีนพบผู้ติดเชื้อใหม่ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 45 คน จาก 54 คนในวันเสาร์ ส่วนเคสติดเชื้อภายในประเทศมีแค่คนเดียว และขณะนี้ทางการปักกิ่งได้ยกระดับมาตรการป้องกันการนำเข้าผู้ติดเชื้อ เช่น ลดจำนวนเที่ยวบินจากต่างประเทศและงดรับนักเดินทางต่างชาติตั้งแต่วันเสาร์
คืนวันเสาร์ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ คัดค้านความพยายามของนักการเมืองท้องถิ่นในการประกาศให้นิวยอร์กเป็นพื้นที่กักกันโรค โดยระบุว่า การล็อกดาวน์จะทำให้ประชาชนยิ่งแตกตื่น
ศูนย์เพื่อการควบคุมและป้องกันโรคของอเมริกากลับออกแถลงการณ์ตรงกันข้าม โดยขอให้ประชาชนงดการเดินทางที่ไม่จำเป็น
การประกาศของทรัมป์มีขึ้นวันเดียวกับที่ยอดผู้เสียชีวิตในอเมริกาเพิ่มเป็นกว่า 2,100 คน หรือเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าในช่วงเวลาเพียง 3 วัน และกว่า 1 ใน 4 อยู่ในนิวยอร์กซิตี้
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขต่างกลัวว่า นิวยอร์กอาจเผชิญชะตากรรมเดียวกับอิตาลีและสเปน ขณะที่บุคลากรการแพทย์อ่อนล้าลงทุกที และโรงพยาบาลขาดแคลนอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลและเครื่องช่วยหายใจ
ขณะนี้ ยอดผู้ติดเชื้อในอเมริกาทำสถิติสูงที่สุดในโลกด้วยจำนวนกว่า 124,000 คน ทั้งนี้ จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์
หนึ่งในผู้เสียชีวิตที่มีการรายงานเมื่อวันเสาร์คือ ทารกวัยไม่ถึง 1 ขวบในชิคาโก ซึ่งถือเป็นกรณีหายากมากที่เด็กอายุน้อยขนาดนี้เสียชีวิตจากโควิด-19
ประเทศในยุโรปได้รับผลกระทบมากกว่าอเมริกาหากเทียบกันเป็นรายหัว จากยอดผู้เสียชีวิตกว่า 20,000 คนในภูมิภาคนี้ ซึ่งราวครึ่งหนึ่งอยู่ในอิตาลี
อย่างไรก็ตาม อัตราการติดเชื้อในอิตาลีมีแนวโน้มลดลง ซิลวิโอ บรูซาเฟอร์โร ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพแห่งชาติคาดว่า สถานการณ์การระบาดจะถึงจุดสูงสุดในไม่กี่วันนี้
สเปนที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุดอันดับ 2 ของโลก รายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 832 คนในวันเสาร์ เป็น 5,812 คน มาดริดยกระดับมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ ห้ามกิจกรรมที่ไม่จำเป็นทั้งหมด แม้เจ้าหน้าที่ระบุว่า ดูเหมือนการระบาดจะใกล้ถึงจุดสูงสุดแล้วก็ตาม ด้านรัสเซียสั่งปิดพรมแดนตั้งแต่วันจันทร์ (30 มี.ค.) แม้มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 น้อยมาก
จากข้อมูลของจอห์น ฮอปกินส์ นับจากที่โรคนี้ระบาดเมื่อปลายปีที่แล้วจนถึงขณะนี้ มีผู้ติดเชื้อที่มีการรายงานอย่างเป็นทางการกว่า 664,000 คนทั่วโลก อย่างไรก็ดี ระบบการทดสอบที่แตกต่างและความล่าช้าในการจัดหาชุดทดสอบอย่างเพียงพอในบางประเทศบ่งชี้ว่า ตัวเลขที่แท้จริงอาจสูงกว่าที่รายงาน
ที่ฝรั่งเศสที่มีผู้เสียชีวิตใกล้ถึง 2,000 คน นายกรัฐมนตรีเอดูอาร์ ฟิลิปป์ เตือนว่า การต่อสู้เพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น และในช่วง 2 สัปดาห์แรกของเดือนเมษายนสถานการณ์จะสาหัสกว่าช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับยอดผู้เสียชีวิตของอังกฤษเพิ่มขึ้นเกิน 1,000 คนเมื่อวันเสาร์ โดยมีผู้ติดเชื้อ 17,089 คน นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ส่งจดหมายถึงประชาชน 30 ล้านครัวเรือน เตือนว่า สถานการณ์จะเลวร้ายลงและคาดว่า จะถึงจุดสูงสุดในไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่จะดีขึ้น พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการล็อกดาวน์อย่างเคร่งครัด ขณะที่เขากักกันตัวเองในบ้านพักประจำตำแหน่งเนื่องจากติดเชื้อโควิด
อิหร่านรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 139 คน และอินเดียล็อกดาวน์หมู่บ้านกว่า 10 แห่งที่กูรูคนหนึ่งเคยเดินทางไปก่อนที่จะรู้ว่า ตัวเองติดเชื้อและอาจกลายเป็น “ซูเปอร์สเปรดเดอร์” หรือคนเพียงคนเดียวที่สามารถแพร่เชื้อในวงกว้าง
ตำรวจแอฟริกาใต้ใช้กระสุนยางเพื่อให้ประชาชนที่ไปเข้าคิวหน้าซูเปอร์มาร์เก็ตเว้นระยะห่างระหว่างกันระหว่างบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์
องค์กรบรรเทาทุกข์หลายแห่งเตือนว่า อาจมีผู้เสียชีวิตหลายล้านคนในประเทศที่มีรายได้ต่ำหรือเขตสงครามอย่างซีเรียและเยเมน เพราะแม้แต่ประเทศมั่งคั่งที่มีเครื่องไม้เครื่องมือและเทคโนโลยีสูงยังถูกโควิดเล่นงานจนงอม
ในวันอาทิตย์ นิวซีแลนด์รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 คนแรก เป็นผู้หญิงอายุ 70 ปีที่มีโรคเรื้อรังอยู่แล้ว ปัจจุบัน แดนกีวีมีผู้ได้รับการยืนยันว่า ติดเชื้อกว่า 500 คน เฉพาะวันเสาร์วันเดียวพบเคสใหม่ 63 คน
อินโดนีเซียพบผู้ติดเชื้อใหม่ 130 คนในวันอาทิตย์ รวมเป็น 1,285 คน และผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 12 คน เป็น 144 คน
