เอเจนซีส์ - ทรัมป์แย้มเตรียมยกเลิกมาตรการปิดเมืองบางส่วน ขณะที่อักหลายรัฐของสหรัฐฯกลับตัดสินใจบังคับใช้การล็อกดาวน์ตามรอยเกือบ 20 รัฐก่อนหน้านี้ ด้านจีนประกาศยกเลิกการจำกัดการเดินทางในมณฑลหูเป่ย ยกเว้นเมืองอู่ฮั่น ส่วนอิตาลีเริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ หลังยอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตลดลงเป็นวันที่ 2 ตรงข้ามกับสถานการณ์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ยังน่าวิตก
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เตรียมลงศึกเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายน เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (23 มี.ค.) ว่า อาจยกเลิกการล็อกดาวน์บางพื้นที่ที่มีอัตราการติดเชื้อต่ำ เช่น เนแบรสกา ไอดาโฮ และไอโอวา ตอนต้นสัปดาห์หน้า หลังครบกำหนด 15 วันตามข้อเสนอแนะในการเว้นระยะห่างทางสังคม แต่ก็ย้ำว่า แต่ละมลรัฐมีอำนาจตัดสินใจขั้นสุดท้าย
ทรัมป์สำทับว่า ต้องการยกเลิกการจำกัดการเดินทางเพื่อให้ประชาชนกลับไปทำงานได้ แม้ยอมรับว่า ที่ปรึกษาทางการแพทย์ที่คำนึงถึงประเด็นสาธารณสุขมากกว่าเศรษฐกิจอาจไม่เห็นด้วยก็ตาม
ทั้งนี้ นอกจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขแล้ว ผู้ว่าการในหลายรัฐที่กำลังเผชิญสถานการณ์การระบาดเลวร้ายที่สุด ต่างคาดหวังว่า มาตรการล็อกดาวน์จะคงอยู่ต่อไปอีกระยะ และ บิลล์ เดอ บลาสิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กเรียกร้องให้ล็อกดาวน์ทั่วประเทศ พร้อมเตือนว่า นิวยอร์กเพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นการรับมือการระบาดเท่านั้น ขณะที่ทหารจากกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิแปลงศูนย์การประชุมเป็นโรงพยาบาลชั่วคราว
ล่าสุดอเมริกามีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 แล้ว 560 คน และติดเชื้อเกือบ 40,000 คน ในจำนวนนี้อยู่ในนิวยอร์กซิตี้กว่า 12,000 คน โดยที่นครใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯแห่งงนี้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 100 คน
เดอ บลาสิโอสำทับว่า โรงพยาบาลรัฐในนิวยอร์กซิตี้มีอุปกรณ์การแพทย์พอใช้เพียงสัปดาห์เดียวเท่านั้น พร้อมขอความช่วยเหลือจากทั้งรัฐบาลกลางและเอกชน
วันจันทร์ วอชิงตัน มิชิแกน และนิวเม็กซิโก เป็น 3 รัฐล่าสุดที่ออกคำสั่งให้ประชาชนงดออกจากบ้านหากไม่จำเป็น จากเดิมที่มีเกือบ 20 รัฐที่บังคับใช้กฎนี้
ที่แคลิฟอร์เนีย เกวิน นิวซอม ผู้ว่าการรัฐ ยกระดับมาตรการล็อกดาวน์ด้วยการสั่งปิดที่จอดรถใกล้ชายหาดและสวนสาธารณะ หลังประชาชนหลายพันคนละเมิดกฎการเว้นระยะห่างทางสังคม โดยออกไปเที่ยวพักผ่อนตามชายแดนช่วงสุดสัปดาห์
นิวซอมเสริมว่า แคลิฟอร์เนียต้องการเตียงผู้ป่วยเพิ่ม 50,000 เตียง เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น
จีนยกเลิกปิดหูเป่ย
สถานการณ์ของจีน ซึ่งเป็นประเทศแรกที่พบการระบาดของไวรัสโคโรนา แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับทั่วโลก โดยในวันอังคาร (24) มีการประกาศยกเลิกการล็อกดาวน์มณฑลหูเป่ย และอนุญาตให้ประชาชนที่ผ่านการตรวจรับรองว่า มีสุขภาพแข็งแรงเดินทางออกนอกมณฑลได้นับจากเที่ยงคืนวันอังคาร ส่วนอู่ฮั่น เมืองหลวงของมณฑลนี้และศูนย์กลางการระบาด จะยุติมาตรการปิดเมืองตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน
อย่างไรก็ตาม โรงเรียนในหูเป่ยจะยังคงปิดต่อ
วันเดียวกันนั้น จีนรายงานว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่ภายในประเทศเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 1 สัปดาห์ในอู่ฮั่น 1 คน และอีก 3 คนในเมืองอื่นๆ และมีผู้เสียชีวิต 7 คน ซึ่งอยู่ในอู่ฮั่นทั้งหมด
ทว่า สำหรับผู้ติดเชื้อใหม่ที่มาจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นถึง 74 คน สูงสุดนับจากเริ่มรายงานข้อมูลนี้เมื่อต้นเดือน และเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจากวันจันทร์ รวมแล้วมีผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ 427 คน และทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการระบาดระลอกสอง
โกลบัล ไทมส์ หนังสือพิมพ์แนวชาตินิยมของทางการจีน เตือนว่า มาตรการกักกันที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้มีแนวโน้มสูงขึ้นและหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดการระบาดระลอกสองจากเคสที่เดินทางมาจากต่างประเทศ
ทั้งนี้ จีนมีผู้ติดเชื้อทั้งหมดกว่า 81,000 คน และเสียชีวิต 3,277 คน
อิตาลีเริ่มมีหวัง
อิตาลีรายงานยอดผู้เสียชีวิตและติดเชื้อลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ในวันจันทร์ หลังจากมีผู้สังเวยชีวิตจากไวรัสนี้ถึงกว่า 6,000 คนในเวลาเพียงเดือนเดียว
จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ที่มีการรายงานในวันจันทร์อยู่ที่ 4,789 คน ลดลงจาก 6,557 คนในวันเสาร์ ส่วนผู้เสียชีวิต 601 คน เทียบกับ 793 คนซึ่งกลายเป็นสถิติสูงสุดในวันเดียวของโลก
จูลิโอ แกลเลอรา รัฐมนตรีสุขภาพและสวัสดิการแคว้นลอมบาร์ดีที่มีการระบาดรุนแรงที่สุด แถลงข่าวด้วยรอยยิ้มเป็นครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์ว่า แม้ยังไม่อาจประกาศชัยชนะได้ แต่นี่ถือเป็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
เอเชียอาคเนย์ยังน่าวิตก
วันอังคาร กระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์รายงานว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่ 90 คน นับเป็นสถิติสูงสุดในวันเดียว รวมเป็น 552 คน นอกจากนั้นยังมีผู้เสียชีวิตอีก 2 คน เป็น 35 คน
วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขมาเลเซียเผยว่า มาเลเซียจะขยายมาตรการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นวันละ 7,000 คนในช่วงปลายสัปดาห์นี้ และเพิ่มเป็น 16,500 คนในสัปดาห์แรกของเดือนเมษายน ทั้งนี้ เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์เลวร้ายที่สุด
ปัจจุบัน มาเลเซียเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 6 เท่าในช่วงเวลาเพียง 10 วัน เป็นกว่า 1,500 คน เป็นรองเพียงจีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นสำหรับในเอเชีย
วันจันทร์ที่ผ่านมา มาเลเซียพบผู้ติดเชื้อใหม่ 212 คน รวมเป็นทั้งสิ้น 1,518 คน และมีผู้เสียชีวิตจนถึงขณะนี้อย่างน้อย 14 คน และนายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดิน ยัสซิน เผยว่า อาจขยายมาตรการจำกัดการเดินทางและการเคลื่อนย้ายประชาชนที่จะสิ้นสุดลงปลายเดือนนี้