เอเจนซีส์ – ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ยังคงอาละวาดหนักโดยเฉพาะในสหรัฐฯและยุโรป ซึ่งมีการประกาศใช้มาตรการสกัดกั้นอย่างเข้มข้น ทั้งการปิดพรมแดน, ให้ผู้มีความเสี่ยงกักกันตัวเองภายในบ้าน, และงดกิจกรรมที่มีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก โดยที่เมืองใหญ่ของอเมริกาอย่างนิวยอร์กและแอลเอ ได้สั่งปิดบาร์ ร้านอาหาร โรงหนังและโรงละคร ขณะที่อิตาลีเตือนสถานการณ์การระบาดกำลังจะเข้าสู่ช่วงที่มีความเสี่ยงมากที่สุด ส่วนฝรั่งเศสกังวลหนักหลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นสองเท่าตัวทุก 3 วัน ด้านออสเตรเลียประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในรัฐวิกตอเรียและเขตเมืองหลวง สำหรับฟิลิปปินส์ขยายผลมาตรการล็อกดาวน์ครอบคลุมเกาะลูซอน
ในวันอาทิตย์ (15 มี.ค.) บิลล์ เดอ บลาสิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก ออกคำสั่งให้ร้านอาหาร บาร์ และร้านกาแฟ ปิดให้บริการ ยกเว้นร้านขายอาหารสดและบริการจัดส่งอาหารหรือบริการอาหารแบบซื้อกลับบ้าน รวมทั้งยังอาจสั่งปิดไนท์คลับ โรงภาพยนตร์ โรงละคร และสถานที่จัดคอนเสิร์ต
วันเดียวกัน อิริก การ์เซ็ตติ นายกเทศมนตรีลอสแองเจลิส ก็ออกคำสั่งปิดร้านอาหาร บาร์ ร้านกาแฟที่ขายอาหาร แต่ยังอนุญาตให้บริการจัดส่งอาหารหรือบริการอาหารแบบซื้อกลับบ้าน ทั้งนี้ เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนา
หลายประเทศยังห้ามกิจกรรมที่มีผู้คนจำนวนมากเข้าร่วม เช่น การแข่งขันกีฬา กิจกรรมทางสังคมและศาสนา เพื่อต่อสู้กับโควิด-19 ที่มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกกว่า 169,000 คน และเสียชีวิตกว่า 6,500 คน
ไวรัสนี้ถูกค้นพบครั้งแรกในเมืองอู่ฮั่นของจีนเมื่อเดือนธันวาคม แต่สำหรับขณะนี้สถานการณ์ในแดนมังกรดีขึ้นมากแล้ว จนกระทั่งมีจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตน้อยกว่าในประเทศอื่นๆ ขณะที่ศูนย์กลางการระบาดย้ายไปยังยุโรป โดยสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ฝรั่งเศสและสเปน ได้เจริญรอยตามอิตาลี ประกาศกักกันโรคประชาชนนับสิบๆ ล้านคน
นอกจากนั้นหลายประเทศในอเมริกากลางและอเมริกาใต้ยกระดับมาตรการควบคุมการระบาด ปานามาประกาศแบนนักเดินทางต่างชาติ และฮอนดูรัสงดรับนักเดินทางต่างชาติ 1 สัปดาห์ เช่นเดียวกับอาร์เจนตินาและเปรูที่ประกาศปิดพรมแดน
ในวันจันทร์ (16) ออสเตรเลียประกาศภาวะฉุกเฉินในรัฐวิกตอเรียและเขตเมืองหลวงแคนเบอร์รา เพื่อเพิ่มอำนาจของเจ้าหน้าที่ในการควบคุมการระบาดของไวรัสและลดความเสี่ยงต่อประชาชน โดยจะบังคับใช้สถานการณ์ฉุกเฉินในวิกตอเรีย 4 สัปดาห์ และอย่างน้อย 1 สัปดาห์สำหรับเขตเมืองหลวง
ก่อนหน้านี้ออสเตรเลียประกาศให้ผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศกักกันตัวเองนาน 14 วัน ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อในประเทศนี้เกือบ 300 คน และเสียชีวิต 5 คน
ที่ฟิลิปปินส์ ซาลวาดอร์ ปาเนโล โฆษกประธานาธิบดี แถลงในวันจันทร์ให้ประชาชนบนเกาะลูซอน ซึ่งเป็นเกาะหลักของประเทศ กักกันตัวเองในบ้าน รวมถึงระงับการทำงานและการเดินทางทั่วเกาะ ยกเว้นกรณีจำเป็น
หากคำสั่งนี้ซึ่งมีผลทันทีได้รับการบังคับใช้อย่างสมบูรณ์จะเท่ากับเป็นการล็อกดาวน์ประชาชนถึงครึ่ง
ประเทศ และถือเป็นมาตรการสกัดไวรัสที่เข้มงวดที่สุดในเอเชีย จากก่อนหน้านี้ที่ฟิลิปปินส์สั่งล็อกดาวน์กรุงมะนิลามีผลเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ช่วง 10 วันที่ผ่านมา ฟิลิปปินส์มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจาก 3 คน เป็น 140 คน และผู้เสียชีวิต 12 คน
ยุโรปยังวิกฤต
ในวันอาทิตย์ อิตาลีรายงานยอดผู้เสียชีวิตใหม่ 368 คน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ รวมแล้วเป็น 1,809 คน ถือว่ามากที่สุดรองจากจีน ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 24,747 คน โดยศูนย์กลางการระบาดยังคงอยู่ในแคว้นลอมบาร์ดีทางเหนือของประเทศ
นายกรัฐมนตรีจูเซปเป คอนติ เตือนเมื่อวันจันทร์ว่า อิตาลีกำลังเข้าสู่ช่วงเสี่ยงที่สุดที่คาดว่า จะกินเวลาหลายสัปดาห์ และขอให้ประชาชนทุกคนอยู่แต่ในบ้านให้มากที่สุด พร้อมเรียกร้องให้ยุโรปร่วมกันรับมือวิกฤตโคโรนาทั้งในด้านสาธารณสุขและเศรษฐกิจ
อิตาลีเป็นประเทศแรกในยุโรปที่ปิดโรงเรียนและธุรกิจเกือบทั้งหมดเพื่อชะลอการระบาดที่เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือนที่แล้ว
ส่วนที่ฝรั่งเศส เจอโรม ซาโลมอน รัฐมนตรีช่วยสาธารณสุข เผยว่า สถานการณ์การระบาดในประเทศน่ากังวลอย่างมากและเลวร้ายลงอย่างรวดเร็ว โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นสองเท่าตัวทุก 3 วัน
จากตัวเลขอย่างเป็นทางการเมื่อวันอาทิตย์ ฝรั่งเศสมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นกว่า 900 คน เป็น 5,423 คน และเสียชีวิต 127 คน หรือเพิ่มขึ้น 23 คนจากวันเสาร์ โดยมีผู้รักษาตัวในโรงพยาบาลซึ่งมีอาการรุนแรงกว่า 400 คน
ขณะเดียวกัน เยอรมนีประกาศมาตรการควบคุมชายแดนที่ติดกับออสเตรีย เดนมาร์ก ฝรั่งเศส ลักเซมเบิร์ก และสวิตเซอร์แลนด์เมื่อวันจันทร์ โดยจะอนุญาตให้ข้ามแดนหากมีเหตุผลจำเป็นเท่านั้น เช่น การรับส่งสินค้า รวมถึงพลเมืองเยอรมนีและผู้ที่ได้รับอนุญาตให้พำนักในประเทศ