xs
xsm
sm
md
lg

ฝรั่งเศส-สเปนล็อกดาวน์ตามรอยอิตาลี ยอดติดเชื้อทั่วโลกพุ่งทะลุ 150,000 ราย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเอฟพี - ฝรั่งเศสและสเปนกลายเป็นสองชาติล่าสุดของยุโรปที่ประกาศล็อกดาวน์ ขณะที่ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์สั่งนักเดินทางทั้งหมดกักกันตัวเอง เพื่อต่อสู้กับการระบาดของไวรัสโคโรนาที่แพร่เชื้อไปยังผู้คนกว่า 150,000 คนทั่วโลก และทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 6,000 คน

ฝรั่งเศสสั่งปิดร้านอาหาร บาร์ โรงภาพยนตร์ และไนต์คลับ แต่ยังอนุญาตให้ร้านขายอาหารสด ร้านขายยา ธนาคาร เปิดทำการตามปกติ รวมทั้งยังเดินหน้าจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นตามกำหนดในวันอาทิตย์ (15 มี.ค.) ท่ามกลางการระบาดของไวรัสโคโรนา

สเปนสั่งล็อกดาวน์เกือบทั่วประเทศ ห้ามประชาชนออกจากบ้าน เว้นแต่ไปทำงาน พบแพทย์ หรือซื้ออาหารเท่านั้น ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ในสเปน 196 คน สูงสุดอันดับ 2 ในยุโรปรองจากอิตาลี และภรรยานายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชส เป็น 1 ในผู้ติดเชื้อ

หนึ่งในสัญญาณเตือนภัยการระบาดในยุโรป คือ อเมริกาขยายมาตรการแบนการเดินทางประเทศในยุโรปครอบคลุมสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ มีผลตั้งแต่เที่ยงคืนวันจันทร์ (16 มี.ค.)

มหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ ในอเมริกา เผยว่าทั่วโลกขณะนี้มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เกิน 156,000 คน และเสียชีวิตกว่า 5,800 คน

สัปดาห์ที่ผ่านมา สถานศึกษาและธุรกิจมากมายทั่วโลกหยุดทำการไม่มีกำหนด นักเดินทางนับล้านถูกห้ามเดินทางระหว่างประเทศ เซเลบและนักการเมืองติดเชื้อ และอิตาลีปิดประเทศเพื่อควบคุมการระบาด

หลายประเทศในยุโรปเพิ่มมาตรการควบคุมตามแนวชายแดน ชิลีสั่งกักกันประชาชนกว่า 1,300 คนบนเรือสำราญ 2 ลำ หลังพบผู้สูงวัยชาวอังกฤษคนหนึ่งบนเรือ 1 ใน 2 ลำติดเชื้อ

ท้องถนนและจัตุรัสต่างๆ ตั้งแต่มิลานในอิตาลีจนถึงมาดริดของสเปนว่างเปล่า หลังจากรัฐบาลของทั้งสองประเทศเรียกร้องให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา (14 มี.ค.)

ชาวอิตาลีบางคนออกมาร้องเพลงบนระเบียงระหว่างถูกกักบริเวณ ขณะที่วาติกันประกาศเมื่อวันอาทิตย์ว่า จะจัดพิธีฉลองอีสเตอร์ตามปกติแต่ไม่อนุญาตให้ชาวคริสต์เข้าร่วมพิธี

ทั้งนี้ อิตาลีรายงานยอดผู้เสียชีวิตในวันเสาร์เพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ไวรัสโคโรนาระบาดคือ 175 คน ขณะที่อิหร่านเพิ่มขึ้น 97 คน และสเปน 63 คน

องค์การอนามัยโลก (ฮู) ยืนยันว่า ยุโรปเป็นศูนย์กลางการระบาดแห่งใหม่ หลังจากยอดผู้ติดเชื้อภายในประเทศของจีนลดลงอย่างชัดเจนและต่อเนื่อง โดยในวันอาทิตย์มีการรายงานเคสใหม่ซึ่งเป็นผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศ 16 คน สูงสุดในรอบสัปดาห์

ทางด้านจีนยังประกาศว่า จะกักกันตัวผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศไปยังปักกิ่งทั้งหมด เพื่อป้องกันการระบาดใหญ่ครั้งใหม่

ส่วนออสเตรเลียประกาศว่า ผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศทุกคนจะต้องกักกันตัวเองเป็นเวลา 14 วัน นับจากเที่ยงคืนวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นมาตรการเดียวกับที่นิวซีแลนด์เปิดเผยเมื่อวันเสาร์

ในวันเดียวกันนั้น ฟิลิปปินส์เริ่มปิดกรุงมะนิลา และซาอุดีอาระเบียแบนเที่ยวบินระหว่างประเทศ

แอฟริกายังถือเป็นภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนาน้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม เมื่อวันเสาร์ รวันดาประกาศพบผู้ติดเชื้อคนแรก และมาดากัสการ์ระงับเที่ยวบินจากยุโรปนานหนึ่งเดือนนับจากวันที่ 20 นี้เพื่อป้องกันการระบาด

ไวรัสโคโรนายังทำให้ตลาดการเงินทั่วโลกดิ่งเหวตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาจากความกังวลว่า เศรษฐกิจโลกอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังรัฐบาลของหลายประเทศประกาศมาตรการทางเศรษฐกิจเพื่อต่อสู้กับผลกระทบจากไวรัส

แอปเปิล บริษัทเทคโนโลยีชื่อดังของอเมริกา ปิดร้านทั่วโลกยกเว้นในจีนจนถึงวันที่ 27 เดือนนี้ ขณะที่บริติช แอร์เวย์เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกรายล่าสุดที่ส่งสัญญาณว่า อาจปลดพนักงานจำนวนมาก

นอกจากนั้นรัฐบาลของประเทศต่างๆ ยังเผชิญสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกด้านสาธารณสุข ระหว่างการพยายามยุติการระบาดโดยสิ้นเชิงด้วยมาตรการเหล็ก กับการพยายามจัดการสถานการณ์การระบาด

สำหรับอังกฤษมองว่า การจัดการการระบาดเพื่อชะลอจุดสูงสุดของวิกฤตการณ์ไปจนถึงฤดูร้อนซึ่งโรงพยาบาลต่างๆ มีความพร้อมรองรับได้ดีกว่าน่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสม แม้ผู้เชี่ยวชาญยังมีความเห็นแตกแยกกันก็ตาม

นอกจากนั้นอังกฤษยังไม่ได้ออกมาตรการจำกัดขนาดใหญ่ใดๆ แต่สื่อรายงานเมื่อวันเสาร์ว่าอาจมีการแบนกิจกรรมขนาดใหญ่ตั้งแต่สุดสัปดาห์หน้า
กำลังโหลดความคิดเห็น