เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ส่งสัญญาณออกมาเมื่อวันเสาร์ (7 มี.ค.) ว่า เขาไม่มีความตั้งใจที่จะยุติการจัดชุมนุมปราศรัยหาเสียงเลือกตั้ง ถึงแม้โรคติดต่อจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ “โควิด-19” กำลังเกิดการแพร่ระบาดมากขึ้นในแดนอินทรี โดยที่มีการยืนยันว่าพบเคสแรกในกรุงวอชิงตัน ณ สถานที่ซึ่งอยู่ห่างไม่กี่ไมล์จากทำเนียบขาว
ทรัมป์ใช้น้ำเสียงแบบท้าทายไม่แยแส ขณะเขาพูดกับพวกผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการระบาดของไวรัส ณ รีสอร์ต มาร์ อะ ลาโก ของเขาซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณตอนใต้ของมลรัฐฟลอริดา ขณะที่เขากำลังเป็นเจ้าภาพรับรอง ประธานาธิบดี จาอีร์ โบลโซนาโร แห่งบราซิล
“เรากำลังมีการชุมนุมหาเสียงที่ใหญ่โตยอดเยี่ยม และเรากำลังทำได้อย่างดีมากๆ แล้วเราก็ได้ทำงานอย่างน่ามหัศจรรย์สำหรับหัวข้อเรื่องนั้น (เรื่องไวรัส) อยู่แล้ว” ทรัมป์กล่าวตอบเมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามว่า งานรณรงค์หาเสียงตามที่ต่างๆ ในเวลานี้ของเขาซึ่งใช้ชื่อธีมว่า “Keep America Great” (รักษาอเมริกาให้ยิ่งใหญ่เอาไว้) ของเขาจะยังเดินหน้าต่อไปหรือไม่
การแสดงความเห็นเช่นนี้ของทรัมป์มีขึ้น ขณะที่รายงานในวันนั้นระบุว่า ทั่วทั้งสหรัฐฯจำนวนผู้ป่วยที่ยืนยันแล้วได้พุ่งกระโดดพรวดผ่านหลัก 400 รายแล้ว โดยที่มีผู้เสียชีวิตซึ่งยืนยันว่าเกิดจากโควิด-19แน่ๆ แล้ว 19 ราย ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในรัฐวอชิงตัน ซึ่งอยู่ทางฟากฝั่งตะวันตกของอเมริกา
เวลาเดียวกัน พวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบด้านสาธารณสุขประกาศว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสนี้ซึ่งยืนยันแล้วเป็นรายแรกในกรุงวอชิงตัน โดยเป็นชายวัย 50 ปีเศษที่พำนักอาศัยในเมืองหลวงของประเทศ และไม่มีประวัติการเดินทางไปต่างประเทศ ตลอดจนไม่มีการสัมผัสใกล้ชิดกับใครก็ตามซึ่งทราบกันแล้วว่าติดเชื้อ
เมื่อถูกถามว่าเขารู้สึกวิตกหรือไม่ที่ไวรัสได้ระบาดอยู่ในจุดซึ่งระยะทางห่างไม่กี่ไมล์จากทำเนียบขาว ทรัมป์ ก็ตอบว่า “ไม่เลย ผมไม่ได้วิตกอะไรแม้แต่นิดเดียว”
ประธานาธิบดีผู้เฒ่าของสหรัฐฯรายนี้ ได้กล่าวย้ำยืนยันในระหว่างที่เขาไปเยี่ยมศูนย์กลางเพื่อการควบคุมและการป้องกันโรค (Centers for Disease Control and Prevention ใช้อักษรย่อว่า CDC) ของสหรัฐฯเมื่อวันศุกร์ (6) ว่า ความเสี่ยงจากการที่ต้องมีผู้คนจำนวนมากๆ มาอยู่ใกล้ๆ เขานั้น “ไม่ได้รบกวนใจผมเลยแม้แต่นิดเดียว”
ซีดีซีนั้นกล่าวเตือนเอาไว้ในหน้าเว็บเพจว่า ด้วยโควิด-19 ของสำนักงาน ว่า ประชาชนไม่ควรที่จะมารวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ และกระตุ้นส่งเสริมผู้คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนสูงอายุ ให้อยู่กับบ้านให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ทรัมป์นั้นกำลังจัดการชุมนุมปราศรัยหาเสียงในระยะหลังๆ มานี้ในอัตรามากกว่า 1 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยบ่อยครั้งเพื่อเป็นโปรแกรมตอบโต้ประชันกับการหยั่งเสียงเลือกตั้งเบื้องต้นหรือการดีเบตของพวกผู้สมัครฝ่ายพรรคเดโมแครต ทั้งนี้ การชุมนุมของทรัมป์มีมนตร์เสน่ห์ดึงดูดพลเมืองสูงวัยจำนวนมากให้เข้าไปร่วม
อย่างไรก็ดี เว็บไซต์ของเขาในปัจจุบันบ่งชี้ว่า ในช่วงหลายๆ วันจากนี้ไป “ไม่มีกำหนดการ” ว่า จะมีงานชุมนุมใดๆ โดยที่ไม่ได้ให้เหตุผลของการเว้นว่าง
ทรัมป์กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากการที่พูดจาแสดงท่าทีต่อสาธารณชนเกี่ยวกับไวรัสโคโรนา ในลักษณะที่ขัดแย้งซ้ำแล้วซ้ำอีกกับคำแนะนำจากพวกผู้เชี่ยวชาญของคณะบริหารของเขาเอง
ณ การแถลงข่าวแบบพูดไปเรื่อยอย่างไร้ทิศทาง ที่สำนักงานซีดีซี เมื่อวันศุกร์ (6) ประธานาธิบดีผู้นี้กล่าวอ้างอย่างผิดๆ ว่า การทดสอบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือไม่นั้น เวลานี้ทำได้แล้วสำหรับใครก็ตามที่ต้องการจะทดสอบ
งานนี้เดิมทีตั้งใจจะเป็นการอัปเดตสถานการณ์เกี่ยวกับโรคระบาดนี้ให้สาธารณชนรับทราบ
แต่ตรงกันข้าม ทรัมป์กลับกลายเป็นคนสร้างพาดหัวข่าว ด้วยการเรียก เจย์ อินซี ผู้ว่าการของมลรัฐวอชิงตัน ซึ่งเป็นรัฐที่เกิดการระบาดหนักที่สุดว่า เป็น “งู” เลี้ยงไม่เชื่อง ที่มากล่าวโทษโจมตีคณะบริหารของเขาในเรื่องรับมือไวรัส นอกจากนั้นเขายังเผยว่า เขาอยากจะให้กักคนอเมริกันที่ป่วยเอาไว้บนเรือสำราญซึ่งยังลอยลำกลางทะเลโดยยังไม่มีท่าเรือแห่งไหนของสหรัฐฯยอมรับให้เข้าจอดเทียบ เพื่อที่จำนวนผู้ติดเชื้อของสหรัฐฯจะได้ต่ำเอาไว้ รวมทั้งเขายังร้องเรียนบ่นว่าเรื่องโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น ตลอดจนเปิดเผยว่าเขารู้สึกเซอร์ไพรซ์เมื่อทราบว่าคนเราสามารถเสียชีวิตได้จากการเป็นไข้หวัดใหญ่
ในส่วนของพรรคเดโมแครต พวกที่มีหวังอาจกลายเป็นผู้ท้าทายชิงตำแหน่งประธานาธิบดีกับทรัมป์ในการเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายนปีนี้ ไม่ว่าจะเป็น เบอร์นี แซนเดอร์ส วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ จากรัฐเวอร์มอนต์ หรือ อดีตรองประธานาธิบดี โจ ไบเดน ต่างก็ยังคงจัดการชุมนุมรณรงค์หาเสียงอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน โดยที่ดึงดูดฝูงชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมากในระหว่างเกิดโรคระบาด