รอยเตอร์ - วิกฤตโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ของอิตาลีแผ่ลามจากแก่นกลางทางตอนเหนือสู่ภาคใต้แล้วในวันอังคาร(25ก.พ.) ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 11 ศพและผู้ติดเชื้อรายใหม่ทะยานเหนือ 320 คน ขณะที่ในฝรั่งเศสพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มเติมอีก 2 ราย ในนั้นเพิ่งเดินทางกลับจากอิตาลี ส่วนออสเตรียส่งปิดโรงแรม ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของหนึ่้งในผู้ติดเชื้อ 2 รายแรกของประเทศ
นักท่องเที่ยวรายหนึ่งจากแคว้นลอมบาร์ดี พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเลวร้ายที่สุด ทางภาคเหนือของอิตาลี ถูกวินิจฉัยว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระหว่างเดืนทางมาพักผ่อนที่เมืองซิซิลี ส่วนที่แคว้นทัสคานีและลิกูเรีย ต่างรายงานพบผู้ติดเชื้อเคสแรกของแต่ละแคว้น
จำนวนผู้ติดเชื้อในอิตาลี เพิ่มจาก 229 คนในวันจันทร์(24ก.พ.) เป็น 322 คนในวันอังคาร(25ก.พ.) ส่วนใหญ่อยู่ในแคว้นลอมบาร์ดีและเวเนโต แก่นกลางเศรษฐกิจของประเทศ ในนั้นรวมถึงเมืองหลวงทางการเงินอย่างเมืองมิลานและเมืองเวนิส ดินแดนท่องเที่ยวอันสำคัญ
ในวันอังคาร(25ก.พ.) พบผู้เสียชีวิตรายใหม่เพิ่มอีก 4 คนใน 2 แคว้นดังกล่าว แบ่งเป็นชาย 2 คนและหญิง 2 คน ในนั้นอายุน้อยสุดมีอายุ 76 ปี
หลายประเทศในสหภาพยุโรปออกคำเตือนประชาชนไม่แนะนำให้เดินทางเยือนทางเหนือของอิตาลี ด้วยเหตุนี้ทางรัฐมนตรีต่างประเทศของแดนมะกะโรนีจึงเผยว่าเขาเตรียมเรียกเอกอัครราชทูตต่างชาติเข้าพบในกรุงโรม เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดและมาตรการที่จะใช้ควบคุมโรค
ขณะเดียวกันรัฐมนตรีสาธารณสุขจากเหล่าประเทศเพื่อนบ้านได้พบปะกันในเมืองหลวงของอิตาลี เพื่อหารือเกี่ยวกับวิกฤตครั้งนี้ อย่างไรก็ตามพวกเขาปฏิเสธเสียงเรียกร้องที่ขอให้ปิดชายแดน "เราเห็นพ้องที่จะเปิดชายแดนต่อไป การปิดชายแดนเป็นมาตรการที่ไม่สมเหตุสมผลและไม่มีประสิทธิพลในตอนนี้" รัฐมนตรีสาธารณสุขอิตาลีระบุ
การประชุมดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ที่ลุกลามขึ้นเรื่อยๆ โดยพบชาวอิตาลีหรือผู้คนที่เคยเดินทางมาเยือนทางเหนือของอิตาลี มีผลตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ออกมาเป็นบวกทั้งในสเปน, ออสเตรีย, สวิตเซอร์แลนด์, โคเอเชียและฝรั่งเศสในวันอังคาร(25ก.พ.) แสดงให้เห็นว่าโควิด-19 สามารถระบาดได้ไกละรวดเร็วเพียงใด
ฝรั่งเศสในวันอังคาร(25ก.พ.) ยืนยันพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพิ่มอีก 2 คน โดยหนึ่งในนั้นเป็นชาวฝรั่งเศสที่เพิ่งเดินทางกลับจากไปเยือนแคว้นลอมบาร์ดีของอิตาลี ส่วนอีกคนเป็นหญิงสาววัยรุ่นชาวจีน ที่เพิ่งกลับถึงฝรั่งเศส หลังเดินทางไปยังแผ่นดินเกิด
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศสเผยว่าคนไข้ทั้ง 2 กำลังรักษาตัวในโรงพยาบาลและอาการทรงตัวดี ทั้งนี้ผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้ง 2 คน ส่งผลให้จำนวผู้ติดเชื้อในฝรั่งเศส เพิ่มเป็น 14 ราย ในนั้นเสียชีวิตแล้ว 1 คนและ 11 คนรักษาหาย ได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนออสเตรีย ได้ปิดกั้นโรงแรมแห่งหนึ่งในอินน์สบรูค ศูนย์กลางการท่องเที่ยวแถบเทือกเขาแอลป์ หลังยืนยันพบผู้ติดเชื้อ 2 รายแรกของประเทศในวันอังคาร(25ก.พ.) ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นพนักงานของโรงแรมดังกล่าว ในความพยายามควบคุมการแพร่ระบาด
ผู้ติดเชื้อ 2 รายแรกของออสเตรียเป็นคู่รักชาวอิตาลี อายุ 24 ปีทั้งสองคน โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วพวกเขาเพิ่งเดินทางกลับไปยังบ้านเกิดในเมืองแบร์กาโม ในแคว้นลอมบาร์ดี ทางเหนือของอิตาลี พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดหนักหน่วงที่สุด
เจ้หน้าที่สาธารณสุขของรัฐทิโรล บอกว่าผู้หญิงที่ติดเชื้อเป็นพนักงานต้อนรับของโรงแรม และตอนนี้ไม่อนุญาตให้ใครเข้าหรือออกจากตัวอาคาร ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบว่ามีใครเคยสัมผัสกับเธอหรือไม่ "เราไม่ขอใช้คำว่าขังพวกเขา แต่มันเป็นการกักกันโรค" โฆษกของรัฐระบุ อย่างไรก็ตามเธอปฏิเสธเอ่ยชื่อของโรงแรม
อย่างไรก็ตามสื่อมวลชนท้องถิ่นอ้างแหล่งข่าวของเมืองยืนยันว่าโรงแรมที่ปิดการเข้าออกจากความกังวลเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 ได้แก่แกรนด์ โฮเทล ยูโรปา ซึ่งมีทั้งหมด 108 ห้อง
เมื่อคืนวันอาทิตย์(23ก.พ.) ออสเตรียปิดตายการสัญจรทางรางระหว่างเยอรมนีและอิตาลี ด้วยการห้ามรถไฟขบวนหนึ่งที่แล่นมาจากเมืองเวนิสเข้าประเทศ หลังมีผู้โดยสาร 2 คนจากทั้งหมดราวๆ 300 ต้องสงสัยว่าติดเชื้อโคโรนาไวรัส อย่างไรก็ตามสุดท้ายพวกเขาก็ยอมให้ขบวนรถไฟผ่านเข้าไป หลังผลตรวจออกมาเป็นลบ
เซบาสเตียน คูร์ซ นายกรัฐมนตรีออสเตรียยืนกรานว่าจะใช้มาตรการดังกล่าวอีก หากว่ากรณีต้องสงสัยผู้ติดเชื้อไวรัสเดินทางมาถึงแนวชายแดนของออสเตรีย
