รอยเตอร์ – เกาหลีใต้ยกระดับการเตือนภัยโรคระบาดขั้นสูงสุดในวันอาทิตย์ (23 ก.พ.) หลังยอดผู้ติดเชื้อโคโรนาพุ่งและพบผู้เสียชีวิตอีก 2 คน ขณะที่สื่อของทางการจีนเตือนว่า การระบาดในแผ่นดินใหญ่ยังไม่ถึงจุดเปลี่ยน แม้พบผู้ติดเชื้อลดลงก็ตาม ด้านญี่ปุ่นสั่งสำรองอุปกรณ์การแพทย์และร่างแผนรับมือการระบาดโดยด่วน
ประธานาธิบดี มุน แจ-อินของเกาหลีใต้ประกาศยกระดับการเตือนภัยเป็น “สีแดง” เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วถึง 169 คน ซึ่งส่วนใหญ่เชื่อมโยงกับการทำพิธีในโบสถ์แห่งหนึ่ง ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมดเพิ่มเป็น 602 คน หรือเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าระหว่างวันศุกร์กับวันเสาร์ (21-22 ก.พ.)
การยกระดับการเตือนภัยทำให้รัฐบาลสามารถส่งทรัพยากรพิเศษไปยังเมืองแทกูและเทศมณฑลชองโด ซึ่งถูกประกาศให้เป็น “พื้นที่ควบคุมโรค” เมื่อวันศุกร์
สำนักข่าวยอนฮัปในเกาหลีใต้รายงานว่า มาตรการดังกล่าวยังเปิดโอกาสให้รัฐบาลบังคับห้ามจัดกิจกรรมสาธารณะและสั่งปิดโรงเรียนชั่วคราว แม้รัฐบาลยังไม่มีรายละเอียดใดๆ ออกมาก็ตาม
ครั้งล่าสุดที่เกาหลีใต้ยกระดับการเตือนภัยเป็นระดับสูงสุดคือเมื่อ 11 ปีที่แล้วระหว่างการระบาดของไข้หวัดใหญ่ เอช1เอ็น1
ผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวนมากเชื่อมโยงกับคริสตจักรชินชอนจีแห่งพระเยซูในเมืองแทกู หลังจากหญิงวัย 61 ปีคนหนึ่ง หรือ “ผู้ป่วยหมายเลข 31” ที่ไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศ ได้ผลทดสอบการติดเชื้อออกมาเป็นบวกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
คริสตจักรในเมืองแทกูและกวางจูสั่งระงับการทำพิธีมิสซาและกิจกรรมต่างๆ ขณะที่โบสถ์ในเมืองอื่นๆ มีคนไปร่วมพิธีในวันอาทิตย์บางตาลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้สูงวัย
ขณะเดียวกัน กระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้แถลงว่า ชาวเกาหลีใต้ที่เดินทางโดยเครื่องบินไปยังอิสราเอลถูกห้ามเข้าประเทศเมื่อวันเสาร์ เนื่องจากกังวลกับการระบาด
ส่วนที่จีน คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (เอ็นเอชซี) ยืนยันว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่ 648 คน เพิ่มขึ้นจากวันศุกร์ แต่หากไม่รวมมณฑลหูเป่ย ตัวเลขเพิ่มขึ้นเพียง 18 คน ต่ำสุดนับจากที่ทางการเริ่มเผยแพร่ข้อมูลเมื่อเดือนที่แล้ว ส่วนผู้เสียชีวิตมี 97 คน ในจำนวนนี้มีเพียง 1 คนที่พบนอกหูเป่ย และ 82 คนอยู่ในเมืองอู่ฮั่น โดยรวมจีนพบผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 76,936 คน และเสียชีวิต 2,442 คน
ปักกิ่ง เจ้อเจียง และเสฉวนไม่พบเคสใหม่ในวันเสาร์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับจากตรวจพบการระบาด กระนั้น สื่อของทางการเรียกร้องประชาชนอย่าเพิ่งวางใจ รวมทั้งให้ระมัดระวังผู้ที่อยู่ในสถานที่สาธารณะและแหล่งท่องเที่ยวโดยไม่สวมหน้ากาก
อย่างไรก็ตาม ขณะที่สถานการณ์จีนดูเหมือนเริ่มนิ่งขึ้น จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศอื่นๆ กลับเพิ่มขึ้นไม่หยุด โดยในวันอาทิตย์ นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่น สั่งหน่วยงานรัฐบาลเตรียมอุปกรณ์การแพทย์สำรองและร่างแผนรับมือการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยด่วน หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 27 คนในวันเสาร์
รัฐมนตรีสาธารณสุขญี่ปุ่นแถลงขอโทษเมื่อวันเสาร์ หลังจากหญิงคนหนึ่งได้รับอนุญาตให้ลงจากเรือไดมอนด์ปรินเซสส์ทั้งที่ผลการตรวจหาเชื้อเป็นบวกและมีการกักกันโรคผู้โดยสารคนอื่นๆ บนเรือ ซึ่งในภายหลังพบว่า มีผู้ติดเชื้ออย่างน้อย 623 คน นับเป็นการระบาดรุนแรงที่สุดนอกจีน และประกอบด้วยคนจากกว่าสิบประเทศ
ขณะเดียวกัน กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ยกระดับคำเตือนการเดินทางสำหรับเกาหลีใต้เป็นระดับ 1 และระดับ 2 สำหรับญี่ปุ่น จากทั้งหมด 4 ระดับ
ยุโรปและตะวันออกกลางกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการมาถึงและการระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสโคโรนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งอิตาลีที่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่า เป็น 79 คนเมื่อวันเสาร์ และมีผู้เสียชีวิต 4 คน ถือเป็นประเทศที่สถานการณ์เลวร้ายที่สุดในยุโรป
เมืองลอมบาร์ดีและเวเนโตซึ่งเป็นฮับอุตสาหกรรมของอิตาลี สั่งปิดโรงเรียนและมหาวิทยาลัย รวมทั้งเลื่อนการแข่งขันฟุตบอลบางคู่
อิหร่านพบผู้ติดเชื้อทั้งหมด 43 คน และเสียชีวิต 8 คน นับจากวันอังคารที่แล้ว (18 ก.พ.) ส่งผลให้ซาอุดีอาระเบีย คูเวต และอิรัก ประกาศจำกัดการเดินทางจากอิหร่าน ขณะที่โอมานเรียกร้องให้พลเมืองละเว้นการเดินทางไปยังประเทศที่มีการระบาดสูง รวมทั้งออกมาตรการกักกันตัวผู้ที่เดินทางมาจากประเทศเหล่านั้น
องค์การอนามัยโลก (ฮู) ย้ำเมื่อวันเสาร์ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อนอกจีนยังต่ำ แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ การพบการติดเชื้อจำนวนมากที่ไม่มีความเชื่อมโยงอย่างชัดเจนกับจีน
ขณะนี้ โรคปอดอักเสบปริศนาระบาดใน 26 ประเทศและดินแดนนอกจีน ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 10 คน โดยมีอัตราการเสียชีวิต 2% ผู้สูงวัยและผู้ที่มีโรคประจำตัวเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงมากที่สุด ทั้งนี้ จากข้อมูลของฮู
ผลกระทบทางเศรษฐกิจของไวรัสเป็นประเด็นสำคัญในการประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มจี20 ที่ริยาด ซึ่งกรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ระบุว่า การเติบโตของจีนในปีนี้มีแนวโน้มลดลง 0.4% จากการคาดการณ์เมื่อเดือนที่ผ่านมา อยู่ที่ 5.6% ส่วนเศรษฐกิจโลกอาจขยับลง 0.1%