เอเอฟพี - สหรัฐฯ เปิดเผยในวันอังคาร (28 ม.ค.) กำลังพัฒนาวัคซีนต่อต้านไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ซึ่งมีบ่อเกิดในจีน และเรียกร้องปักกิ่งยกระดับความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขนานาชาติ ขณะเดียวกันก็กำลังพิจารณามาตรการใหม่รับมือ โดยไม่ตัดความเป็นไปได้ที่จะจำกัดการเดินทางไปยังจีน
รัฐบาลสหรัฐฯ หวังส่งทีมงานของตนเองส่งสู่ภาคสนามเพื่อทบทวนข้อมูลดิบและเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเชื้อโรคนี้ซึ่งจนถึงตอนนี้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วมากกว่า 100 ศพ “เราเริ่มดำเนินการไปแล้วที่สถาบันสุขภาพแห่งชาติ (National Institute for Health) ภายใต้ความร่วมมือกับผู้ร่วมงานของเรามากมายในการพัฒนาวัคซีน” แอนโทนีย์ เฟาชี เจ้าหน้าที่ของสถาบันสุขภาพแห่งชาติบอกกับผู้สื่อข่าว
“กระบวนการนี้จะใช้เวลา 3 เดือนสำหรับเริ่มการทดลองแรก, 3 เดือนสำหรับการรวบรวมข้อมูล ก่อนที่จะสามารถเดินหน้าสู่ขั้นที่ 2” เขากล่าว “แต่เราจะดำเนินการประหนึ่งว่าเราจำเป็นต้องใช้งานวัคซีน หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ เรากำลังมองไปถึงกรณีที่เลวร้ายที่สุด เมื่อที่มันกลายเป็นการแพร่ระบาดที่ใหญ่กว่านี้”
จีน ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเมื่อครั้งรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคซาร์สเมื่อปี 2002-03 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนหลายร้อยคน ส่วนใหญ่อยู่ในแผ่นดินใหญ่และฮ่องกง และระหว่างสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขดังกล่าว พวกนักวิทยาศาสตร์ได้เริ่มพัฒนาวัคซีนไปแล้ว แต่ไม่เคยได้ใช้มัน
ด้าน อเล็กซ์ อาซาร์ รัฐมนตรีกระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์สหรัฐฯ และบอกอเมริกาเสนอตัวช่วยหเลือจีนสำหรับจัดการวิกฤตไปแล้ว 3 รอบ แต่จนถึงตอนนี้ยังถูกปฏิเสธ
“เราเรียกร้องจีนว่าการเพิ่มความร่วมมือและยกระดับความโปร่งใสคือก้าวย่างสำคัญที่สุดที่คุณจะสามารถมุ่งสู่การตอบสนองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น” อาเซอร์กล่าว “เมื่อวันที่ 6 มกราคม เราเสนอส่งทีมจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) ไปยังจีน ซึ่งอาจช่วยเหลือความพยายามด้านสาธารณสุข ผมย้ำข้อเสนอนี้เมื่อครั้งพูดคุยกับรัฐมนตรีสาธารณสุขจีนเมื่อวันจันทร์ และย้ำอีกครั้งผ่านผู้นำองค์กรอนามัยโลกในวันนี้ในกรุงปักกิ่ง”
เสียงเรียกร้องมีขึ้นแม้ว่า จีนเริ่มดำเนินการอย่างรวดเร็วในการหาการเรียงตัวของคู่เบส (sequencing) ในกรรมวิธีในการถอดลำดับจีโนมของโคโรนาไวรัส 2019 และเปิดเผยมันสู่สาธารณะ เปิดทางให้พวกนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกพัฒนาเครื่องมือการวินิจฉัยโลก ความเคลื่อนไหวที่ได้รับความชื่นชมในวงกว้าง ในนั้นรวมถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ “จีนกำลังทำงานอย่างหนักในการควบคุมโคโรนาไวรัส สหรัฐฯขอชมเชยความพยายามและความโปร่งใสของพวกเขา”
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลใหม่ของอาซาร์ ก่อคำถามว่าแท้จริงแล้วจีนนั้นให้ความร่วมมือมากน้อยแค่ไหน “ผู้เชี่ยวชาญของซีดีซีแสตนด์บายพร้อมแล้ว และสามารถเดินทางไปจีนในทันที ทั้งบนพื้นฐานของทวิภาคีหรือภายใต้การดูแลขององค์การอนามัยโลก” เขากล่าว “ดังนั้นมันจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่เราต้องเห็นข้อมูลดิบ หลักฐานคร่าวๆ และช่วยออกแบบรูปแบบการศึกษาและการวิเคราะห์ เพื่อหาตอบคำถามสำคัญๆ เช่น ช่วงเวลาของการฟักตัวและเชื้อโรคสามารถติดต่อได้หรือไม่ในขณะที่คนไข้มีแสดงอาการป่วยออกมา”
คำเรียกร้องมีขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกับที่ จีนยินยอมให้องค์การอนามัยโลกส่งคณะผู้เชี่ยวชาญนานาชาติลงพื้นที่เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับโคโรนาไวรัส สายพันธุ์ใหม่ และนำร่องแนวทางตอบสนองต่อการแพร่ระบาดในระดับสากล จากการเปิดเผยขององค์การอนามัยโลกในวันอังคาร (28 ม.ค.)
ขณะเดียวกัน อาซาร์ เปิดเผยด้วยว่า สหรัฐฯ กำลังพิจารณามาตรการใหม่สำหรับตอบโต้โวรัสโคโรนา โดยไม่ตัดความเป็นไปได้เกี่ยวกับการจำกัดการเดินทางไปยังจีน
ปัจจุบันสหรัฐฯ ซึ่งยืนยันพบผู้ติดเชื้อ 5 คน เพียงแค่ออกคำแนะนำให้พลเมืองอเมริกาทบทวนการเดินทางไปจีนสืบเนื่องจากการแพร่ระบาด หลังจากห้ามเดินทางไปยังมณฑลหูเป่ย ดินแดนที่เชื่อว่าเป็นต้นตอของการแพร่ระบาด
ประเทศต่างๆ ในนั้นรวมถึงเกาหลีใต้, ญี่ปุ่น, สหรัฐฯ, เยอรมนี, สเปน และอินเดีย บอกว่ากำลังพิจารณาแผนต่างๆสำหรับอพยพพลเมืองของพวกเขาที่ติดค้างอยู่ในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ศูนย์กลางของการแพร่ระบาด
ล่าสุด อียู เตรียมส่งเครื่องบินของฝรั่งเศส 2 ลำไปรับพลเมืองออกจากเมืองอู่ฮั่นในสัปดาห์นี้ จากการเปิดเผยของคณะกรรมาธิการยุโรปในวันอังคาร (28 ม.ค.) “เบื้องต้น พลเมืองฝรั่งเศสราว 250 คนจะถูกลำเลียงโดยเครื่องบินลำแรก ส่วนพลเมืองอียูอีก 100 คนจากประเทศอื่นๆ จะขึ้นเครื่องบินลำที่ 2 นี่คือคำร้องขอแรกสำหรับความช่วยเหลือ และคำร้องขออื่นๆ อาจตามมาหลังจากนี้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า”