เอเอฟพี - นักวิจัยออกมาคาดการณ์ว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ((2019-nCoV) ซึ่งกำลังแพร่ระบาดในจีนจะทำให้มีผู้ติดเชื้อหลายหมื่นคนเป็นอย่างต่ำ และอาจกินระยะเวลา ‘หลายเดือน’ กว่าการระบาดครั้งนี้จะสิ้นสุดลง
เดวิด ฟิสแมน อาจารย์จากมหาวิทยาลัยโทรอนโตซึ่งเขียนบทความวิเคราะห์เรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในเมืองอู่ฮั่นให้แก่สมาคมโรคติดเชื้อสากล (the International Society for Infectious Diseases) เผยกับเอเอฟพีว่า จากการประเมินสถานการณ์อย่างดีที่สุด “น่าจะต้องรอจนถึงช่วงฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูร้อน” กว่าที่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะสิ้นสุดการระบาด
“มันไม่ใช่โรคระบาดที่จะหายไปในสัปดาห์หน้าหรือเดือนหน้า” อเลสซานโดร เวสพิกนานี อาจารย์มหาวิทยาลัยนอร์ทอีสเทิร์น (Northeastern University) ซึ่งร่วมกับคณะนักวิจัยเผยแพร่ข้อมูลสำคัญๆ เกี่ยวกับการระบาดของไวรัสอู่ฮั่นลงสื่อออนไลน์ ระบุ
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาก็ยังไม่อาจฟันธงลงไปได้ ทำได้เพียงอาศัยข้อมูลเท่าที่มีอยู่เกี่ยวกับไวรัสซึ่งเริ่มแพร่ระบาดในเดือน ธ.ค. และใช้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์เพื่อประเมินจำนวนผู้ติดเชื้อและเปรียบเทียบข้อมูลจากการระบาดในอดีต
ก่อนหน้านี้ นักวิจัยเชื่อว่าผู้ที่ติดไวรัสอู่ฮั่นจะยังไม่แพร่เชื้อไปยังบุคคลอื่นจนกว่าจะเริ่มแสดงอาการป่วย แต่ทว่าในวันอาทิตย์ (26) ทางการจีนได้ออกมายืนยันข้อมูลตรงกันข้าม
หน่วยงานสาธารณสุขสหรัฐฯ ระบุเมื่อวันจันทร์ (27) ว่า ยังไม่พบหลักฐานบ่งชี้ว่าผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการสามารถส่งต่อไวรัสไปยังบุคคลอื่นได้ แต่หากเป็นไปได้จริงก็นับเป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในด้านรูปแบบการกระจายตัวของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าไวรัสโคโรนาอู่ฮั่นมีระยะฟักตัวประมาณ 2 สัปดาห์ ก่อนที่ผู้รับเชื้อจะเริ่มแสดงอาการป่วย
ในช่วงไม่กี่วันมานี้ ผู้เชี่ยวชาญหลายคนได้คำนวณหาพารามิเตอร์ที่สำคัญของการแพร่ระบาด ซึ่งก็คือค่า basic reproduction number หรือ “R0” ซึ่งหมายถึงจำนวนคนเฉลี่ยที่ผู้ป่วย 1 คนสามารถแพร่เชื้อไปให้ได้ ซึ่ง ฟิสแมน ระบุว่าจากการประเมินค่าเฉลี่ยแบบกลางๆ สำหรับไวรัสโคโรนาอู่ฮั่นน่าจะอยู่ที่ระหว่าง 1.4 ถึง 3.8
ไมมูนา มาจัมเดอร์ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ดและโรงพยาบาลเด็กบอสตัน ชี้ว่า ค่า R0 ของไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล (seasonal flu) ซึ่งแต่ละปีจะพบผู้ป่วยหลายล้านคนทั่วโลกอยู่ที่ 1.3, โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันหรือ SARS ซึ่งเคยมีผู้ติดเชื้อทั่วโลกถึง 8,000 คน และเสียชีวิต 774 คนเมื่อช่วงปี 2002-2003 อยู่ที่ระหว่าง 2-5 ขณะที่โรคหัด (measles) มีค่า R0 อยู่ที่ระหว่าง 12-18
ทั้งนี้ มาตรการกักโรคและแยกผู้ป่วย รวมถึงการรณรงค์ให้ประชาชนล้างมือให้สะอาดและสวมใส่หน้ากากอนามัยอย่างเป็นระบบสามารถช่วยลดค่าเฉลี่ยจำนวนผู้ติดเชื้อลงได้ และหากตัวเลขลดต่ำกว่า 1 ก็หมายความว่าการแพร่ระบาดของไวรัสกำลังจะสิ้นสุดลง
อย่างไรก็ดี นักวิจัยระบุว่ามาตรการควบคุมโรคที่จีนนำมาใช้จะยังไม่เห็นผลชัดเจนภายใน 1-2 สัปดาห์ ซึ่งขึ้นอยู่กับวงจรชีวิตของไวรัส
“ยิ่งเราได้รู้จักมันมากขึ้นเท่าไหร่ มันก็ยิ่งดูคล้าย SARS มากขึ้นเท่านั้น” ฟิสแมน กล่าว “เราเคยควบคุมการระบาดของ SARS ได้ หวังว่าครั้งนี้ก็เช่นกัน แต่คงต้องรออีก 2-3 สัปดาห์ถึงจะรู้”
“มันอาจกินเวลาอีกหลายสัปดาห์ หรืออาจจะเป็นเดือนๆ ไม่มีใครรู้ว่ามันจะจบลงเมื่อไหร่”
คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน (NHC) ประกาศจำนวนผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (2019-nCoV) ในภูมิภาคระดับมณฑล 30 แห่ง อยู่ที่ 4,515 รายจนถึงวันจันทร์ (27 ม.ค.) โดยมีผู้เสียชีวิตแล้วทั้งสิ้น 106 ราย ขณะที่จำนวนผู้ป่วยที่ต้องสงสัยว่าติดเชื้อไวรัสรวมอยู่ที่ 6,973 ราย
สำหรับยอดผู้ติดเชื้อที่ยืนยันแล้วในต่างประเทศอยู่ที่ราวๆ 50 คน
เวสพิกนานี ระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อที่แท้จริงในจีน (รวมถึงที่ยังตรวจไม่พบ) น่าจะมีมากกว่า 25,000 คน ขณะที่นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮ่องกง (HKU) ก็ออกมาประเมินว่ายอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในจีนขณะนี้น่าจะพุ่งเกินกว่า 40,000 คนแล้ว