เอเอฟพี – ขีปนาวุธสามลูกตกใส่สถานทูตสหรัฐฯ ในเมืองหลวงของอิรักเมื่อวันอาทิตย์ (26) ในการโจมตีตรงเป้าครั้งแรกที่มีการรายงานหลังจากฉิวเฉียดมานานหลายเดือน ในขณะที่ผู้ประท้วงหลายพันคนยังคงปักหลักประท้วงต่อต้านรัฐบาลทั่วประเทศ
การโจมตีดังกล่าวถือเป็นการยกระดับความรุนแรงขึ้นอย่างน่าอันตรายหลังจากการโจมตีด้วยขีปนาวุธหลายครั้งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งล้วนมุ่งเป้าสถานทูตหรือฐานทัพอิรักที่ทหารอเมริกันประจำการอยู่
ยังไม่มีกลุ่มใดอ้างความรับผิดชอบต่อการโจมตีนี้ แต่วอชิงตันกล่าวโทษมาโดยตลอดว่าเป็นฝีมือกลุ่มติดอาวุธในอิรักที่อิหร่านหนุนหลัง
เมื่อวันอาทิตย์ (26) จรวดลูกหนึ่งตกใส่โรงอาหารสถานทูตในช่วงมื้ออาหารค่ำ ในขณะที่อีกสองลูกตกบริเวณใกล้เคียง แหล่งข่าวความมั่นคง บอกเอเอฟพี
เจ้าหน้าที่อาวุโสอิรักคนหนึ่ง บอกเอเอฟพีว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 1 คน แต่ยังไม่แน่ชัดว่าบาดเจ็บร้ายแรงแค่ไหนและบุคคลดังกล่าวเป็นชาวอเมริกันหรือเจ้าหน้าที่อิรักที่ทำงานในสำนักงานการทูต
สถานทูตอิรักแห่งดังกล่าวยังไม่พร้อมตอบสนองต่อคำขอความคิดเห็นในตอนนี้
เมื่อค่ำวันอาทิตย์ (26) กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เรียกร้องให้อิรัก “เติมเต็มความรับผิดชอบที่จะต้องปกป้องสถานที่ทางการทูตของเรา”
การโจมตีในวันนั้นเกิดขึ้นเร็วกว่าปกติ ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีได้ยินเสียงระเบิดบริเวณชายฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไทกริสเมื่อเวลา 19.30 น. พอดี
นายกรัฐมนตรี อเดล อับเดล มาห์ดี ของอิรักและประธานรัฐสภา โมฮัมเหม็ด ฮาลบุซี ต่างประณามการโจมตีครั้งนี้ และกล่าวว่า มันเสี่ยงลากประเทศบ้านเกิดเข้าสู่สงคราม
อิรักถูกลากเข้าสู่วงความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่านมาแล้วในช่วงเดือนที่ผ่านมา
การโจมตีแบบเดียวกันนี้ที่ฐานทัพอิรักทางเหนือทำให้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เสียชีวิตหนึ่งคน และสหรัฐฯ ตอบโต้ด้วยการโจมตีกลุ่ม คอตะอิบ ฮิซบอลเลาะห์ ที่อิหร่านให้กรสนับสนุน
ไม่ถึงสัปดาห์ต่อมา โดรนสหรัฐฯ ได้สังหารนายพลอิหร่าน กาเซ็ม โซเลมานี นอกสนามบินแบกแดด กระตุ้นให้อิหร่านต้องยิงขีปนาวุธใส่ฐานทัพอิรักที่มีทหารสหรัฐฯ ประจำการอยู่