เอเอฟพี – อิหร่านประณามสิ่งที่พวกเขาระบุว่าเป็นการปฏิบัติต่อชาวอิหร่าน “อย่างผิดกฎหมายและไร้มนุษยธรรม” ของเจ้าหน้าที่รักษาชายแดนสหรัฐฯ หลังจากมีรายงานว่า นักศึกษาคนหนึ่งถูกเนรเทศ ทั้งที่มีวีซ่าถูกกฎหมาย
“มาตรการเลือกปฏิบัติอย่างสิ้นเชิงที่เกิดขึ้นเพียงเพราะเผ่าพันธุ์ เชื้อชาติ และศาสนาของคนขัดต่อกฎหมายและหลักการด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ” อับบาส มูซาวี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าว
“บุคคลเหล่านี้ถูกหน่วยรักษาชายแดนของอเมริกาซักถามเกี่ยวกับความคิดทางการเมืองและความเชื่อ และถูกบังคับใช้เข้าบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ของตนเอง” เขากล่าวในถ้อยแถลง
เมื่อวันจันทร์ (20) สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า นักศึกษาชาวอิหร่านคนหนึ่งที่จะเดินทางไปมหาวิทยาลัยบอสตันถูกยกเลิกวีซ่าที่สนามบินและถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองขับไล่ออกนอกประเทศ
ความตึงเครียดระหว่างเตหะรานและวอชิงตันพุ่งสูงขึ้นนับตั้งแต่สหรัฐฯ ใช้โดรนโจมตี กาเซ็ม โซเลมานี นายพลอิหร่านในกรุงแบกแดดเมื่อวันที่ 3 มกราคม ห้าวันต่อมา อิหร่านตอบโต้ด้วยการยิงขีปนาวุธหลายลูกใส่ทหารสหรัฐฯ ที่ประจำการในอิรัก
หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง ขณะที่เตหะรานยังคงอยู่ในช่วงการเฝ้าระวังภัยขั้นสูง กองทัพอากาศอิหร่านได้พลาดยิงเครื่องบินโดยสารสายการบินยูเครนตก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 176 คน
“การกระทำกับชาวอิหร่านเช่นนี้เป็นไปตามนโยบายความปฏิปักษ์และความเกลียดชังต่ออิหร่านของรัฐบาลอเมริกัน ซึ่งตอนนี้แสดงให้เห็นด้วยการข่มเหงชาวอิหร่านที่เขตแดนอเมริกา” มูซาวี กล่าว
โฆษกเตือนว่า สหรัฐฯ อาจเผชิญการตอบโต้ “จากหน่วยงานสิทธิมนุษยชนต่างๆ” และไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม