เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน ของไต้หวัน ประกาศในวันพุธ (22 ม.ค.) ห้ามกรุ๊ปทัวร์จากอู่ฮั่นเดินทางเข้าไต้หวัน ท่ามกลางกระแสการระบาดของไวรัสที่คล้ายโรคซาร์ส
การแบนดังกล่าวซึ่งมีผลทันที เกิดขึ้นหลังจากที่หน่วยงานสาธารณสุขไต้หวันยืนยันว่ามีการพบคนในท้องถิ่นรายแรกที่แสดงอาการโรคปอดของไวรัสดังกล่าว ซึ่งตอนนี้ทำให้ในจีนแผ่นดินใหญ่มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 9 ราย ติดเชื้อมากกว่า 400 ราย
ในการแถลงข่าวฉุกเฉินที่ทำเนียบประธานาธิบดี ผู้นำไตต้หวันได้ระบุว่า การแบนครั้งนี้จะมีการขยายให้ครอบคลุมพื้นที่อื่นๆ ของจีนในอนาคตด้วย หากมีความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสดังกล่าว ที่ตอนนี้สามารถติดต่อกันจากคนสู่คนได้
ไช่บอกว่า ทางกระทรวงคมนาคมได้ขอให้ธุรกิจท่องเที่ยวในไต้หวันหยุดการจัดตั้งกรุ๊ปทัวร์พาชาวไต้หวันไปเที่ยวอู่ฮั่นด้วย
ขณะเดียวกัน การท่องเที่ยวไต้หวันได้ระบุในวันพุธว่า ตอนนี้มีกรุ๊ปทัวร์นักท่องเที่ยวจีน 2 กลุ่มจากอู่ฮั่น กำลังมาเที่ยวไต้หวัน ด้วยจำนวนรวม 24 คน
ไช่ยังได้เรียกร้องให้จีนแจ้งข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับไวรัสที่กำลังระบาดอยู่ ในฐานะที่เป็นหนึ่งในสมาชิกประชาคมโลก และควรแบ่งปันข้อมูลให้กับไต้หวัน
ผู้นำไต้หวันยังขอให้องค์การอนามัยโลกหยุดการกีดกันไต้หวันจากเครือข่ายด้านสาธารณสุขของโลกเนื่องจากปัจจัยทางการเมือง โดยย้ำว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลก เป็นแนวหน้าในการป้องกันโรคติดต่อที่มีต้นกำเนิดจากจีน
จีนนั้นกันไต้หวันออกจากองค์กรระดับสากล อาทิ องค์การอนามัยโลก เนื่องจากมองดินแดนเกาะที่ปกครองตนเองแห่งนี้ว่าเป็นมณฑลขบฏที่กำลังรอเวลาถูกรวมเข้ากับจีน ซึ่งหากจำเป็นก็อาจต้องใช้กำลัง
การแจ้งเตือนด้านการท่องเที่ยวสำหรับอู่ฮั่นนั้นถูกยกระดับจากสีเหลืองเป็นสีส้มเมื่อวันอังคาร ซึ่งเป็นลำดับสองจากทั้งหมด 4 สีของระบบการแจ้งเตือน นั่นหมายความว่า ชาวไต้หวันควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปอู่ฮั่นโดยไม่จำเป็น และถ้าหากจำเป็นต้องไป ก็ต้องระมัดระวังตัวอย่างมาก
ผู้แสดงอาการป่วยรายแรกของไต้หวันนั้นเป็นหญิงชาวไต้หวันอายุ 50 กว่าๆ ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากอู่ฮั่นเมื่อวันจันทร์ เธอถูกแยกตัวไปกักกันโรคในทันทีที่เดินทางมาถึงสนามบิน และตอนนี้กำลังรับการรักษา