บีบีซี - ดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ในวันอังคาร(21ม.ค.) แถลงเตือนทางกฎหมายกับสื่อมวลชน หลังปรากฎภาพถ่ายเมแกนในแคนาดา ถูกเผยแพร่บนหน้าหนังสือพิมพและเว็บไซตต่างๆ
เหล่าทนายความของทั้งสองพระองค์ระบุว่าภาพที่ดัชเชสกำลังอุ้มพระโอรสพร้อมกับจูงสุนัขเดินเล่น ถูกบันทึกโดยพวกช่างภาพที่ซุ่มอยู่ตามพุ่มไม้และคอยตามสอดแนม
คณะทนายความบอกว่าเมแกนไม่ยินยอมให้ถ่ายภาพและกล่าวหาพวกช่างภาพตามรังควาน ดังนั้นทั้งสองพระองค์จึงเตรียมดำเนินการทางกฎหมาย
เชื่อกันว่าคำขู่ดำเนินการทางกฎหมาย เป็นเพราะทั้งสองพระองค์รู้สึกหวาดกลัวต่อความเคลื่อนไหวพวกปาปารัซซีใกล้ที่ประทับในปัจจุบันบนเกาะแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา โดยทีมทนายความบอกด้วยว่าพวกปาปารัซียังพยายามใช้เลนส์ถ่ายภาพรยะไกลซูมเข้าไปภายในที่ประทับ และปาปารัซซีบางรายถึงขั้นมาตั้งแคมป์ปักหลักรอแอบถ่ายอยู่ด้านนอกคฤหาสน์หรูที่พำนักอีกด้วย
วิถีชีวิตที่ถูกพวกปาปารัซซีตามราวีมีขึ้นหลังจาก สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงพระบรมราชานุญาตให้ทั้งสองพระองค์ลดบทบาทสมาชิกระดับสูงของราชวงศ์, มีอิสระทางการเงินและสลับการใช้ชีวิตระหว่างอังกฤษกับแคนาดา
เมื่อวันจันทร์(20ม.ค.) เมแกน ถูกถ่ายภาพขณะที่พระองค์กำลังอุ้มพระโอรส "อาร์ชี" พระชนมายุ 8 เดือน โดยใช้เป้อุ้มเด็ก(baby sling) ไปเดินเล่นพร้อมกับสุนัขของพระองค์ 2 ตัวในสวนสาธารณะนอร์ทฮิลล์ เรจิโอแนล บนเกาะแวนคูเวอร์
ส่วนดยุคแห่งซัสเซกซ์ เพิ่งเดินทางกลับถึงแคนาดาในตอนเช้าวันอังคาร(21ม.ค.) หลังจากเข้าร่วมประชุมซัมมิตด้านการลงทุนอังกฤษ-แอฟริกาในลอนดอนเมื่อวันจันทร์(20ม.ค.) โดยพระองค์ต้องห่างจากเมแกนและอาร์ชีเป็นเวลากว่า 10 วัน หลังจากเมแกน บินกลับแคนาดาล่วงหน้าในช่วงต้นเดือน
เจ้าชายแฮร์รีวัย 35 พรรษา และ เมแกน วัย 38 ปี ออกถ้อยแถลงเมื่อวันที่ 8 ม.ค. ว่าต้องการถอยห่างจากบทบาทและหน้าที่ของสมาชิกราชวงศ์ระดับสูง และจะขอปลีกตัวไปใช้ชีวิตอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือมากขึ้น และแม้ทั้งคู่จะอ้างว่าพูดคุยเรื่องอนาคตกันมานานหลายเดือนแล้ว แต่กลับไม่เคยทูลปรึกษาผู้ใหญ่ในครอบครัวอย่างสมเด็จพระราชินีนาถหรือเจ้าฟ้าชายชาร์ลส ซึ่งถือเป็นการฝ่าฝืนธรรมเนียม และยังก่อความแตกแยกขึ้นภายในราชวงศ์ด้วย
สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษทรงเรียกประชุมพระบรมวงศ์ชั้นสูงเป็นการฉุกเฉินในเช้าวันจันทร์ (13 ม.ค) ที่พระตำหนักซานดริงแฮมในมณฑลนอร์ฟอล์ค เพื่อแก้ปัญหากรณีดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ประกาศลดบทบาท
ภายหลังการประชุมรอยัลซัมมิตเสร็จสิ้นลง สมเด็จพระราชินีนาถได้ทรงออกแถลงการณ์ระบุว่า พระราชวงศ์และพระองค์สนับสนุนความปรารถนาของ “แฮร์รีและเมแกน” ในการสร้างชีวิตใหม่ในฐานะครอบครัวคนรุ่นใหม่ รวมทั้งต้องการบทบาทใหม่ที่สร้างสรรค์ภายในราชวงศ์ ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าทรงเลือกใช้ถ้อยคำแบบไม่เป็นทางการ ทั้งยังทรงกล่าวถึงดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ด้วยการเรียกแค่ชื่อโดยไม่มีฐานันดรศักดิ์
มีรายงานจากเดลีเมล์ว่า เจ้าฟ้าชายชาร์ลสทรงกริ้วอย่างมากที่เจ้าชายแฮร์รีออกแถลงการณ์ลดบทบาทโดยไม่ทูลขอพระบรมราชานุญาตจากสมเด็จพระราชินีนาถก่อน และเสด็จฯ ออกจากห้องประชุมไปก่อนที่การหารือจะจบลง
ต่อมาเมื่อวันเสาร์ (18 ม.ค.) พระราชินีเอลิซาเบธทรงออกแถลงการณ์ความว่า “แฮร์รี, เมแกน และอาร์ชี จะยังคงเป็นสมาชิกอันเป็นที่รักของราชวงศ์เสมอ”
แถลงการณ์ยังระบุอีกว่า พระองค์ตระหนักถึงความท้าทายที่ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ต้องเผชิญอันเป็นผลจากความเข้มงวดต่างๆ ตลอดสองปีที่ผ่านมา และจะสนับสนุนความปรารถนาในการใช้ชีวิตอย่างอิสระมากขึ้น พร้อมสำทับว่า พระองค์ทรงภูมิใจอย่างยิ่งที่เมแกนได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์
ทั้งนี้ เจ้าชายแฮร์รีและพระชายาจะไม่ใช้คำ His/Her Royal Highness (HRH) หรือ "เจ้าฟ้า" นำหน้าพระนามอีกต่อไป แต่จะยังคงดำรงพระยศ ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ รวมถึงจะยุติการปฏิบัติพระกรณียกิจเป็นผู้แทนพระองค์ควีนเอลิซาเบธ เช่นเดียวกับพระกรณียกิจทางทหารของเจ้าชายแฮร์รี
เจ้าชายแฮร์รีทรงมีความสัมพันธ์ที่ไม่ราบรื่นนักกับบรรดาสื่อมวลชนมาช้านาน ด้วยพระองค์เติบโตมาพร้อมกับการได้รับรู้ว่าความสนใจของสื่อมวลชนส่งกระทบต่อชีวิตของเจ้าหญิงไดอานา มารดาของพระองค์มากแค่ไหน หลังเจ้าหญิงแห่งเวลส์สิ้นพระชนม์จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ในกรุงปารีส ขณะกำลังถูกฝูงมอเตอร์ไบค์ของพวกปาปารัซซีไล่ตาม
บ่อยครั้งที่เจ้าชายมักหยิบยกประสบการณ์ที่พระชายาของพระองค์ได้รับกับสื่อมวลชนเปรียบเทียบกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับพระมารดา