xs
xsm
sm
md
lg

ย้อนรอยเชื้อพระวงศ์สละฐานันดรศักดิ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


แฮร์รี่และเมแกน มาร์เคิล
หลังเปิดศักราชใหม่มา ข่าวคราวที่มาแรงที่สุดในแวดวงสังคมโลก คงหนีไม่พ้นปรากฏการณ์ Megxit หรือข่าวการขอลดบทบาทการเป็นเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงของ ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซ็กซ์ “เจ้าชายแฮร์รี่” และภรรยา “เมแกน มาร์เคิล” คำศัพท์เฉพาะที่สื่อทั้งหลายตั้งให้กับห้วงเหตุการณ์นี้ เพราะมองว่าเรื่องทั้งหมดสาวเมแกนเป็นตัวการ เนื่องจากเธอไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับชีวิตในราชวงศ์ได้

แต่ใช่ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่เชื้อพระวงศ์ลุกขึ้นมาประกาศข่าวสุดช็อกแบบนี้ เพราะที่ผ่านมาหลายๆ ราชวงศ์ในหลากหลายประเทศ ต่างก็เคยมีเหล่าสมาชิกแสดงความจำนงขอสละฐานันดรศักดิ์มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการจากกันด้วยดี อย่างกรณีที่บรรดาเจ้าหญิงหรือเชื้อพระวงศ์ชั้นสูง ซึ่งจะเข้าพิธีสมรสกับเจ้าบ่าวที่ต่ำศักดิ์กว่า หรือการลาจากของกษัตริย์ที่ยอมสละบัลลังก์เพื่อคนรัก


เจ้าหญิงมาโกะ
ปฏิบัติตามกฎมณเฑียรบาล
การสละฐานันดรศักดิ์เรียกได้ว่าเป็นปกติสำหรับเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงฝ่ายหญิง เพราะโดยกฎมณเฑียรบาลของหลายๆ ราชวงศ์ รวมถึงราชวงศ์ของไทย การที่เหล่าเจ้าหญิงหรือเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงฝ่ายหญิง จะเข้าพิธีสมรสกับเจ้าบ่าวที่มียศตำแหน่งต่ำชั้นกว่าหรือสามัญชน จำเป็นต้องลาออกจากการเป็นเจ้าหญิง อย่างเมื่อ 1-2 ปีที่ผ่านมา เจ้าหญิงอายาโกะ และเจ้าหญิงมาโกะ ที่แสดงความจำนงขอสละฐานันดรศักดิ์เพื่อเข้าพิธีสมรสกับแฟนหนุ่มสามัญชน

เจ้าหญิงมาโกะ

เจ้าหญิงอายาโกะ

พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 และวอลลิส ซิมป์สัน
ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย
จะว่าไปแล้วชาวอังกฤษมิน่าจะแปลกประหลาดใจกับเหตุการณ์ Megxit ที่เกิดขึ้น เพราะเมื่อ 80 กว่าปีที่แล้ว เมื่อปี ค.ศ. 1936 หรือ พ.ศ. 2479 ก็ได้มีเหตุการณ์คล้ายๆ กันนี้เกิดขึ้น ที่ต้องสูญเสียสมาชิกในราชวงศ์ไปให้กับสาวหม้ายอเมริกัน โดยถือได้ว่าครั้งนั้น สร้างความเสียใจให้กับคนทั้งประเทศมากมายกว่านี้หลายเท่านัก เมื่อกษัตริย์หนุ่มสมาร์ท อย่าง พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 ผู้ทรงเป็นที่รักของประชาชน ประกาศสละราชบัลลังก์เพื่อไปเข้าพิธีสมรสกับ นางวอลลิส ซิมป์สัน สาวสังคมชาวอเมริกันที่ผ่านการหย่าร้างมาแล้วถึง 2 ครั้ง

พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 มีศักดิ์เป็นพี่ชายของปู่ทวดเจ้าชายแฮร์รี่ (ทรงเป็นพระเชษฐาของพระเจ้าจอร์จที่ 6 พระบิดาของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ผู้เป็นย่าของเจ้าชายแฮร์รี่) ซึ่งเพิ่งทรงครองพระราชบัลลังก์ได้เพียงไม่ถึงปี ต้องการจะเข้าพิธีแต่งงานกับสาวคนรัก “วอลลิส ซิมป์สัน” ซึ่งทั้งด้วยสถานะที่ต่ำชั้นกว่า และยิ่งประกอบกับการเป็นหม้าย เป็นหญิงต่างชาติ ต่างนิกาย ศาสนา ทำให้ทางรัฐสภาไม่อาจยอมรับได้ ถูกยื่นคำขาดจากการเมืองว่า ให้เลือกระหว่างราชบัลลังก์กับความรัก และพระองค์ก็ได้เลือกความรักนำทาง จึงทรงสละราชสมบัติให้กับน้องชาย และย้ายไปอยู่ต่างประเทศครองคู่กับมิสซิสวอลลิส จนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต

เจ้าหญิงมาร์ธา ลุยส์ และคูเร็ก
เดินตามรอยฝัน
สำหรับเชื้อพระวงศ์บางรายก็ขอสละฐานันดรศักดิ์ เพื่อจะเดินตามรอยฝัน อย่าง เจ้าหญิงมาร์ธา ลุยส์ แห่งราชวงศ์นอร์เวย์ ก็ได้ออกมาประกาศเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมาว่า ขอสละตำแหน่งเจ้าหญิง เพื่อจะได้ทำงานหาเงินในฐานะนักธุรกิจหญิงได้อย่างเต็มตัว โดยก่อนหน้านี้เธอโดนโจมตีจากการที่ใช้สถานะความเป็นเจ้าหญิง ทำธุรกิจหารายได้เข้ากระเป๋า รวมถึงเป็นโซเชียลอินฟูลเอนเซอร์ โปรโมตสินค้าและไลฟ์สไตล์ต่างๆ ในไอจีของเธอ ที่มีผู้ติดตามนับแสน แถมยังทั้งทำทอล์กโชว์และออกหนังสือในชื่อเจ้าหญิงรวมกับคนรัก คูเร็ก ซึ่งเป็นผู้นำด้านจิตวิญญาณเชื้อสายแอฟริกัน

เจ้าหญิงโรห์ดา มูเลาด์ซี
อีกหนึ่งเชื้อพระวงศ์ที่ขอออกจากฐานันดรศักดิ์คือ เจ้าหญิงโรห์ดา มูเลาด์ซี จากทวีปแอฟริกา โดยเธอเป็นหลานของกษัตริย์แห่งเวนดา ชนเผ่าแถวลุ่มแม่น้ำลิปโปโปใกล้กับประเทศซิมบับเว ที่หลงใหลในกีฬาลูกหนัง จนกระทั่ง ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งเพื่อตามความฝันในการเป็นนักเตะอาชีพ โดยทุกวันนี้ หลังจากที่สั่งสมประสบการณ์จากลีกและในทีมแถวแอฟริกาใต้ เธอได้เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาค้าแข้งที่สโมสรแคนเบอร์รายูไนเต็ด ที่ประเทศออสเตรเลีย โชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรง และได้รับการคัดเลือกตัวติดทีมชาติไปลุยแข่งฟุตบอลโลกหญิงอีกด้วย

เจ้าหญิงโรห์ดา มูเลาด์ซี


กำลังโหลดความคิดเห็น